นับหนึ่งถึงดาวกับกัน เดอะ สตาร์

งานของแชมป์เดอะสตาร์

วินาทีที่ได้เป็นเดอะสตาร์
 วินาทีแรกที่ได้รู้ว่าเป็นเดอะสตาร์รู้สึกภูมิใจ และก็ดีใจมากที่ๆ เราได้มายืนตรงนี้ เพราะเมื่อปีที่แล้วเราเคยผิดหวังมาแล้วเราก็กลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้งจนในปีนี้เราสามารถทำได้จนได้เป็นเดอะสตาร์ ดีใจและภูมิใจมาก

รู้สึกอย่างไรกับครั้งแรกที่ได้ขึ้นเวทีเดอะสตาร์
 ยังจำได้จนถึงวันนี้เลยว่ากันอยู่หลังเวที และมีจอมอนิเตอร์อยู่ เขาจะถ่ายบรรยากาศรอบๆ ซึ่งกันไม่เคยร้องเพลงที่มีคนดูเยอะขนาดนี้มาก่อน ยังคิดว่าเลยทำไมกองเชียร์เยอะขนาดนี้ เสียงปรบมือดังมากๆ ตอนนั้นใจเต้นตึก ตึก ตึก ตื่นเต้นไม่กล้าที่จะออกไปร้อง พอได้เดินออกไปร้อง ได้เห็นกองเชียร์ของเราที่มีกลุ่มหนึ่งใส่เสื้อสีฟ้าแล้วมีรูปกัน  มีป้ายไฟ แล้วเห็นคุณพ่อคุณแม่ก็รู้สึกว่าค่อยหายตื่นเต้น ทำให้กันร้องเพลงอย่างเต็มที่ เพราะก่อนที่จะขึ้นเวทีครั้งแรกกันไม่ได้เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่มาเดือนกว่าๆ พอมองเห็นท่านก็รู้สึกใจชื้นขึ้นที่คุณพ่อคุณแม่ของเรามาเชียร์ ทำให้คลายความตื่นเต้นของเราไปได้มาก

ความผิดหวังในการประกวดครั้งแรก
 ตอนแรกที่เข้ามากประกวดไม่ได้หวังอะไร เพราะคิดว่าจะมาหาประสบการณ์อย่างเดียวว่าเดอะสตาร์เป็นแบบนี้นะ วันแรกเข้ารอบ 30 คนภาคกลาง ก็ดีใจ วันที่สองเข้ารอบ 12 คนภาคกลาง ในใจคิดว่าเราน่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ เริ่มหวังแล้วจากตอนแรกที่ไม่หวังเลย พอวันที่สามเราคิดว่าเราทำดีมากๆ แล้ว เราทำดีที่สุด แต่พอเข้าประกาศว่าเราไม่ได้ไปต่อ ตอนนั้นเสียใจ วันนั้นกันจำได้เลยว่าร้องไห้ ร้องไห้หนักเลย เสียใจคิดอะไรไม่ได้ก็คือร้องไห้ แล้วก็คิดว่าไม่เอาแล้ว เลิกดีกว่า เพราะเราเต็มที่กับมันแล้ว  คิดว่าเขาคงไม่เอาเราแล้ว เขาคงไม่ชอบเรา 

 แต่พอมาคิดดูอีกทีว่ามันเป็นโอกาส เราอาจจะยังเด็กเกินไป หรืออาจจะไม่ใช่โอกาสของเรา เลยลองดูอีกครั้งหนึ่ง โดยเอาคอมเม้นท์ของพี่เพชร (เพชร มาร์) ที่บอกว่าเพลงลูกกรุง เพลงลูกทุ่ง ตลาดมันยาก กันกลับมาใหม่ โดยไปเรียนร้องเพลงป็อปจริงจังเป็นครั้งแรกกับครูเจี๊ยบ (นนทิยา จิวบางป่า) จนทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น การกลับมาสู้ของกันในครั้งนี้ เพราะกำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ ท่านอยากให้เราทำอะไรในสิ่งที่เรารัก พ่อบอกว่าถ้าชอบทำอะไร อยากจะทำอะไร ถ้าเรารักมัน และเต็มที่กับมัน พ่อเชื่อว่ากันทำได้ กันเป็นคนทำอะไรเต็มที่ กันไม่ชอบทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ถ้าทำแล้วกันก็จะทำให้มันดีที่สุด

ความรู้สึกที่มีเพลงแรกในชีวิตเป็นของตัวเอง
 วินาทีแรกที่รู้ว่าจะได้มีเพลงเป็นของตัวเอง รู้สึกดีใจ และตื่นเต้นมากๆ พอได้ฟังเพลงที่เขาร้องมาให้ฟังก่อน ทั้งดนตรี ทำนองเพลง เป็นสไตล์เพลงป็อปช้าๆ ซึ่งเป็นสไตล์ที่กันชอบและถนัด เพลงของกันชื่อเพลง "ระยะทำใจ" เนื้อหาประมาณว่าความรักของผู้ชายและผู้หญิง ที่ผู้ชายรอให้ผู้หญิงกลับมารักเรา แต่ผู้หญิงเขามีคนอื่นอยู่ เหมือนเป็นช่วงระยะเวลาทำใจ  แต่ระยะทำใจในที่นี้หมายถึงจากปีที่แล้วกันผิดหวัง ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา กันได้สู้ได้อดทนมากับ การผิดหวังในปีที่แล้ว เหมือนเป็นระยะเวลาทำใจที่ให้กันได้ก้าวมาสู่ปีนี้ จนได้มาเป็นเดอะสตาร์ กันเลยรู้สึกว่าเพลงนี้ตรงกับกันมากๆ

ชีวิตและตัวตน


ชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไรบ้าง
 กันเป็นเด็กซน จำได้ว่าตอนนั้นอยู่ประมาณป.1 แล้วอยู่โรงเรียนเดียวกับคุณแม่ คุณแม่เป็นครูประจำชั้นสอนกัน กันก็ทำตัวเป็นหัวโจกไม่ให้เพื่อนตั้งใจเรียน จนคุณแม่ทนไม่ไหวเลยให้กันย้ายโรงเรียน ให้ไปอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งคราวนี้จ๋อยเลย กันก็เลยหายซ่า หันมาตั้งใจเรียน แล้วเริ่มร้องเพลงมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ตอนนั้นดูละครเรื่องเสน่ห์ลูกทุ่ง ซึ่งพี่กุ้ง (สุทธิราช วงศ์เทวัญ) เป็นพระเอก มีเพลงประกอบ คือเพลงเสน่ห์ลูกทุ่ง กันชอบมากเลยร้องตลอด อาบน้ำก็ร้อง พ่อก็แอบฟัง พ่อเลยจับไปฝึก ตอนนั้นที่สุพรรณมีโครงการฝึกเยาวชนร้องเพลงลูกทุ่ง กันได้ไปฝึก แล้วก็เดินสายประกวดไปทั่วในจังหวัดที่มีเวทีประกวด ตอนที่ได้รางวัลใหญ่สุดคือตอนประมาณ 9 ขวบ ในการประกวดเคพีเอ็น  ได้รางวัลนักร้องยุวชนดีเด่นของประเทศไทย ได้รางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกง กันดีใจที่ได้พาคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศด้วย

ผ่านการเป็นเด็กวัดมาด้วย
 ตอน ม.ปลาย เป็นนักกีฬาฟุตบอล ทักษะฟุตบอลค่อนข้างจะดีก็เลยไปสอบที่กรุงเทพคริสเตียน แล้วติดด้วย แต่คุณแม่คิดว่าถ้าให้ไปอยู่ที่กรุงเทพคริสเตียน คงไปเป็นนักฟุตบอลตัวดำๆ แน่  ก็เลยลองดูว่าเราร้องเพลงได้จริงไหม กันเลยมาที่สวนกุหลาบ ซึ่งมีโควตาอยู่อันหนึ่งคือโควตาดนตรีไทย กันไม่เคยร้องเพลงไทยเดิม ใช้เวลาซ้อมคืนเดียว พอไปร้องก็ร้องผิด แต่คุณครูบอกว่ากันสามารถที่จะฝึกได้ เลยรับเราเข้าเรียน พอได้ที่สวนกุหลาบคุณพ่อคุณแม่รู้จักกับเจ้าอาวาสที่วัดเลียบ จึงฝากเรื่องที่อยู่ให้เรา ให้ไปเป็นเด็กวัด ตอนแรกๆ ก็รู้สึกน้อยใจคุณพ่อคุณแม่ว่าทำไมปล่อยเราอยู่คนเดียว ทำไมพี่สาวกับน้องชายถึงได้อยู่สุพรรณ แล้วเรามาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว พอกันได้กลับมาคิดว่าที่เขาทำ มันทำให้กันได้ฝึกตัวเองมากๆ ทุกอย่างเราทำเองหมดเลย มันเป็นการฝึกชีวิตเราด้วย

นิยามของผู้ชายชื่อกัน นภัทร เป็นแบบไหน
 กันขี้อาย ไม่ค่อยพูด พูดไม่ค่อยเก่ง เป็นคนซื่อๆ บ้านๆ ไม่ค่อยมีอะไร แต่อยากให้เห็นว่ากันมีความพยายาม อยากให้คนที่มีความฝันที่จะมาประกวดรุ่นต่อๆ ไป อยากให้คิดว่าถ้าเกิดเรารักในสิ่งที่เราทำ สิ่งนั้นก็จะออกมาดี ถ้าเกิดบางทีเราอาจจะท้อ และเคยล้มมาบาง แต่ก็อย่าถอย ให้กลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง กันจะเสียดายมากถ้าปีที่แล้วกันไม่ได้กลับมาลุกขึ้นสู้ เพราะกันจะไม่ได้มาเห็นวินาทีที่ยิ่งใหญ่ในการได้เป็นเดอะสตาร์ 6 แบบนี้

ณ ตอนนี้ชีวิตเปลี่ยนที่ไปไหม หลังจากคว้าแชมป์
 ชีวิตเปลี่ยนไปมาก เพราะไม่เคยคิดว่ากันจะได้มาเป็นเดอะสตาร์ในวันนี้ ปกติได้แต่ดูรุ่นพี่ที่ประกวดรุ่นก่อนๆ เพราะเห็นรุ่นพี่หลายคนประสบความสำเร็จ เราก็อยากที่จะเป็นอย่างรุ่นพี่บ้าง ได้เป็นนักร้อง ได้มีเพลงเป็นของตัวเอง และวันนี้กันมีโอกาสได้มีเพลงเป็นของตัวเองแล้ว และได้เป็นเดอะสตาร์ก็ดีใจมากๆ คิดว่าในวันต่อๆ ไปเราคงใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม เพราะว่าหลังจากวันนี้สิ่งต่างๆ ก็เข้ามาในชีวิตมากขึ้น อย่างเช่นงานที่ต้องทำมากขึ้น คนดูก็จะสนใจเรามากขึ้น เพราะว่าตอนนี้เราเป็นคนของประชาชน ทุกคนให้ความสนใจเรามากกว่าเดิม และตรงนี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำทุกวันให้ดีที่สุด กันอยากทำทุกงานให้ดีที่สุด อย่างถ้ากันได้มีเพลงของตัวเอง อัลบั้มของตัวเอง กันอยากจะทำงานเพลงของตัวเองให้ออกมาให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ทุกคนรักเรา เขาโหวตให้เรา ที่ทำให้กันได้เป็นเดอะสตาร์ เพื่อให้เขาภูมิใจ และมีผลงานดีๆ ให้ทุกคนได้ฟัง ได้ชมกัน

ตั้งรับกับสิ่งที่จะเจอในวงการอย่างไรบ้าง
 ตอนนี้คิดในแง่ที่ว่าจะมีงานเพิ่มมากขึ้น แล้วเรื่องสำคัญที่สุดของกัน คือเรื่องของการเรียน จริงๆ แล้วกันอยากจะเรียนให้จบเร็วๆ ถ้าเป็นไปได้อยากที่จะเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย แต่ว่าต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าสามารถที่จะเป็นไปได้หรือเปล่า เพราะด้วยความที่เราเป็นเดอะสตาร์ น่าจะมีงานเยอะมากๆ ก็คงต้องแบ่งเวลาให้ดีๆ มันสามารถที่จะเรียนไปพร้อมทำงานได้หรือเปล่า กันไม่อยากที่จะทิ้งการเรียน ส่วนการตั้งรับกับข่าวที่จะเกิดขึ้น กันเชื่อว่าข่าวคงจะต้องมี มันเป็นเรื่องธรรมดาของข่าว เพราะคงมีคนที่อาจจะไม่ได้ชอบเรามากนัก และอาจจะมีเรื่องไม่ดีของเราออกไป ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องจริง เราก็ไม่พยายามที่จะเอามันมาคิดมาก เพราะว่าจะรบกวนสมาธิในการทำงานของเรา กันอาจจะไม่ใช่คนเพียบพร้อมในทุกด้าน เพราะกันเป็นคนธรรมดา อาจจะมีบางมุมที่คนไม่ชอบก็บอกกันได้ว่ากันควรปรับปรุงตรงไหน กันพร้อมที่จะรับฟัง แล้วเอามาปรับปรุง(ยิ้ม)

กลัวจะหลงแสงสีในวงการมายาไหม
 ไม่...กันมั่นใจ เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ของกันสอนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ให้คิดอยู่เสมอว่าเรามาจากไหน อย่าหลงระเริงไปกับสิ่งที่มันเกินตัว หรือว่าอะไรต่างๆ กันมาเป็นคนสุพรรณ จากเด็กบ้านนอกธรรมดาๆ วันหนึ่งที่มีโอกาสที่คนไทยทั้งประเทศรักเรา เปิดโอกาสให้เรา เราอย่าไปหลงระเริงกับมัน เราต้องตอบแทนทุกคน โดยการทำตัวให้ดีๆ ที่สำคัญที่สุดคือการอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของกันสอนว่าถ้าเจอผู้หลักผู้ใหญ่กิริยามารยาทต่างๆ ก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน เขาจะได้รักและเมตตาเรา

ความรักของหนุ่มหน้าหวาน

ความรักของ กัน ตอนนี้ล่ะ
 ยังไม่มีใคร โสด กันอยากที่จะทำความฝันของตัวเองให้ถึงที่สุดก่อน แล้วถ้าจะมีใครเข้ามาเราก็พร้อมที่จะเปิดรับ แต่ตอนนี้ขอทำงาน และเรียนก่อนแล้วกัน และถ้ากันพร้อมหรือมีใครเมื่อไหร่ กันก็จะเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้ กันไม่ปิดบังแน่นอน

เอ...แล้วกระแสข่าวที่ว่ากันเป็นเกย์ล่ะ
 ก็ได้ยินมาบ้าง อาจจะเพราะว่ากันหน้าหวานมั้ง แต่จริงๆ ไม่ได้เป็น แต่คนอาจจะไม่เคยเห็นมุมอื่นๆ ของกัน อาจจะเห็นว่ากันเป็นคนขี้อาย พูดน้อย ก็เลยคิดว่ากันเป็น แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็น

 นี่แหละ  "กัน" นภัทร