หวาน-พัสวีแฉกลับบี๋-สวิช ยักยอกเพชรมูลค่า8แสน

หวาน-พัสวี แฉกลับ "บี๋-สวิช" ยักยอกเพชร 2 กะรัต มูลค่ากว่า 8 แสนบาท ยันไม่ได้โกงตามที่ตกเป็นผู้ต้องหา บอกตัวเองก็โดนหลอก อยากให้บี๋มาร่วมตามตัวกัน...

ที่โรงแรมสยามโซไซตี้ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 เม.ย. น้ำหวาน-พัสวี พยัคฆบุตร อยู่บ้านเลขที่ 14/23 ลาดพร้าว 69 แขวง/เขต วังทองหลาง กรุงเทพฯ ได้เปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนหลังตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกงเงินโควต้าหวยออนไลน์ ตามที่บี๋-สวิช เพชรวิเศษศิริ นักแสดงชื่อดัง ได้ฟ้องที่ศาลแพ่งตามข่าวว่า ไม่เป็นความจริงโดยอ้างว่าพระเอกคนดังได้เข้ามาทำความรู้จักเธอผ่านเพื่อน กลุ่มหนึ่งโดยสนใจที่จะลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน และมีนางช้องมาศ เทภาศักดิ์ เป็นผู้ดำเนินการลงทุนทั้งหมด และตนก็ยังสูญเสียเงินจำนวน 10 ล้าน แก่นางช้องมาศเช่นเดียวกัน

น้ำหวาน-พัศวี เผยต่อว่า ตนเคยทำธุรกิจลงทุนกับช้องมาศ เทภาศักดิ์จริง โดยได้รับผลประโยชน์เดือนละ 6% มา 2ปีกระทั่งเมื่อปี 2552 นางช้องมาศไม่ได้จ่ายผลประโยชน์ ตนเองจึงได้ร้องกับเจ้าหน้าที่กองปราบเมื่อ15 มค.2553 กล่าวหา นางช้องมาศ เช่นเดียวกันว่า มีเจตนาโกงเงินตนและย้ำว่าตนเองไม่ได้ เกี่ยวข้องกับนางช้องมาศตามที่บี๋-สวิชเข้าใจแต่อย่างใด

"ช้องมาศมีโควต้าหวยออนไลน์จริง และได้ทำธุรกิจกันมาหลายปี แต่ปีที่แล้วเขาหายตัวไป เพื่อนๆ ทุกคนก็ตามตัวเขาอยู่ น้ำหวานไม่ได้เป็นคนกลางตามที่บี๋-สวิชอ้าง ไม่ได้ชักจูงเขา เขามาหากลุ่มเพื่อนน้ำหวานเอง บี๋เองก็รู้ดีแก่ใจว่าเงินอยู่ที่ใคร และเราก็เป็นแค่ข้าราชการธรรมดาไม่เคยที่จะไปข่มขู่ใคร ตามที่เขาอ้าง และไม่เคยนัดเจรจาไกล่เกลี่ยตามที่เขาอ้าง น้ำหวานเองก็สูญเงินไป 10 ล้านจากธุรกิจนี้ และตามตัวเขาอยู่ จริงๆ อยากให้บี๋มาร่วมกับน้ำหวานด้วยซ้ำในการตามตัวเขา เพราะน้ำหวานไม่ได้เป็นคนดังอะไร และไม่ได้รู้จักสื่อ"

น้ำหวาน เผยเพิ่มว่า เธอได้เข้าแจ้งความกับสน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2553 กล่าวหาบี๋-สวิชเช่นกันว่าได้ยักยอกเครื่องเพชร 2 กะรัตมูลค่ากว่า 8แสนบาทไป

"เรื่องแหวนเพชรนั้น บี๋เขาขอยืมไป เพราะตอนนั้นทำธุรกิจร่วมกันเหมือนการเล่นทองคำ เพราะราคาของเพชรจะปรับเปลี่ยนประมาณ 5% ทุกสัปดาห์ และจนวันนี้เขาก็ยังไม่นำมาคืน และขอยืนยันว่าการที่ให้เพชรไปนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว เป็นแค่การลงทุน และไม่เข้าใจว่าทำไมไม่นำมาคืน สร้างความเสียหายมาก"

นอกจากนี้ การที่ออกมาให้ข่าวนั้นก็เพราะคดีกำเข้าสู่การไต่สวนมูลฟ้อง ตนเป็นจำเลยที่ 1 ซึ่งแท้จริงตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องเลย และยังได้แจ้งความบี๋-สวิช ข้อหาบุกรุกเอาไว้ เมื่อ 24 ก.ค. 2552 อีกด้วย.