หมิงโล่งอกแม่ไฟเขียว คบเปรมดูแลดีแต่ห้ามอ้วน

หน้าแรกTeeNee บันเทิงดารา ข่าวดารา, ข่าวบันเทิง ดาราไทย หมิงโล่งอกแม่ไฟเขียว คบเปรมดูแลดีแต่ห้ามอ้วน

ข่าวดาราล่าสุด star.teenee.com
บันเทิงดารา entertain.teenee.com

เดินตามหา "รักแท้ที่ใช่" มาตลอด สำหรับหมิง-ชาลิสา บุญครองทรัพย์ นักแสดงสาว จนเพิ่งเจอคนที่คุยถูกคอ อย่างเปรม บุษราคัมวงษ์ ร่วมกันปลูกต้นรัก 4-5 เดือน

แต่ "สวีต" ไม่แพ้ใครๆ ยิ่ง "หวานใจ" เล่นละคร หมิงขันอาสาเป็นติวเตอร์ส่วนตัว ต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยน่าดู๊ "คนดังนั่งคุย" ขอนัดเคลียร์ให้คนอิจฉาตาร้อนเล่นๆอ่ะ

ไปๆมาๆกลายเป็นโค้ชแอ็กติ้งให้กับเปรมไปแล้วเนอะ

"มีบ้าง ช่วยๆกัน พี่เค้าจะเครียดเวลาไปถ่ายละคร (ระบำดวงดาว) กลับมาจะบ่นว่าเครียด ผู้กำกับฯ ยังไม่ค่อยชอบ เราก็ลองอ่านบทให้และให้เค้าเล่นให้ดู เวลาไปเข้าฉากวันนี้พอเจอกันจะให้เค้าเล่นให้ดู หมิงว่าไม่ดีตรงนี้ เค้าจะถามเล่นดีหรือยัง หมิงจะค่อยๆดูให้ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้กำกับในแต่ละเรื่องด้วยแหละ" เปรมต้องต่อบทกับหมิงทุกครั้งก่อนเข้าฉาก "ถ้ามีโอกาสก่อนเข้าฉากถ่ายละคร (ระบำดวงดาว ค่ายโพลีพลัส) จะมีโอกาสช่วยเค้าต่อบท แต่วันไหนไม่ได้เจอกัน เค้าจะนั่งอ่านบทเคร่งเครียดคนเดียวจะไม่ค่อยคุยกับเรา เค้าเครียดจริงๆ เพราะเป็นละครเรื่องแรก ไม่ อยากให้ใครมาว่าเค้า พี่เปรมเป็นคนที่เวลาทำอะไรจะตั้งใจมาก"

งานละครของหมิง เองล่ะ

"ตอนนี้มีละคร 4 เรื่อง ไฟอมตะ, สวอ. ห้อง 2 รุ่น 44, สามหัวใจ ล่าสุดเรื่อง เจ้าสาวไร่ส้ม หมิงกลับมาเป็นนางเอก หลังจากหลงเป็นนางร้ายไป 3 เรื่อง ตอนแรกไม่คิด บทเด่นๆของละครจะวางตัวเป็นเด็กช่อง พอผู้ใหญ่ตัดสินใจให้หมิงมารับบทนี้ ขอบคุณผู้ใหญ่ให้ความเมตตากับเรา เพราะเราไม่ใช่เด็กในสังกัด ยังให้โอกาสเรา" เล่นร้ายแล้วเล่นบทคนดียากมั้ย "กลัวเหมือนกัน เล่นไปสายตาจะยังร้ายอยู่ เล่นร้ายจะเล่นยากกว่านางเอกอีกนะ อย่างบทร้ายที่หมิงเล่น สามหัวใจ เล่นเป็นโรคจิตเลย เล่นแล้วเครียด หงุดหงิด อารมณ์ไม่ค่อยดี คือเล่นแล้วเรายังไม่ค่อยหลุดจากตัวละครตัวนั้น"

เห็นว่ากำลังลุยธุรกิจด้วย

"ตอนนี้รอเปิดตัว เป็นอาหารเสริมของอเมริกา ฮอลลีวู้ด ทริมมิ่ง โปรแกรม หมิงรู้จักเพราะรู้จักพี่ลูกหมี รัศมี แล้วหมิงจะบ่นกับพี่เค้าตลอดมา หนูอ้วนๆ พี่เค้าแนะนำมา และทางอเมริกาอยากจะหาตัวแทนมาขายเมืองไทย พี่ลูกหมีเลยชวนหมิงมาหุ้น" ไม่ชวนเปรมหุ้นด้วยล่ะ "ถ้ารู้จักกันก่อนหน้านี้ก็ไม่แน่ (หัวเราะ)" ตัดสินใจนานมั้ยกว่าเริ่มทำธุรกิจ "จริงๆแล้วเป็นคนทำธุรกิจยาก ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย แต่ธุรกิจตัวนี้เหมือนเป็นปัจจัยที่ 5 อาหารลดความอ้วนเพราะผู้หญิงจะต้องอยู่กับการรักสวยรักงาม หมิงจะเป็นคนกังวลเรื่องรูปร่างมาก เป็นคนกินเก่ง และเป็นคนไม่ค่อยออกกำลังกาย"

ได้ยินว่าเปรมชวนหมิงออกกำลังกายบ่อยๆ

"มีชวนเหมือนกัน แต่หมิงไม่ชินกับการออกกำลังกาย" เปรมทำให้ ตารางชีวิตเปลี่ยนไป "เปลี่ยนค่ะ ปกติจะเป็นคนไม่ชอบออก กำลังกาย พอวันว่างไปค่ายไปซ้อมมวย บางวันไปฟิตเนสกัน ต้องเปลี่ยน แปลงตัวเองนิดนึง" ออกกำลังกายเสร็จชวนไปกิน "ถูกต้อง (ยิ้มตาหยี) หมิงจะกินเยอะกว่าพี่เค้าอีก เค้าจะนั่งมองแล้วพูดเหน็บๆ ไปชกทำไมนะเมื่อกี้ เค้าจะเป็นคนดูแลเยอะกว่าหมิง จำกัดไม่กินแป้ง ไม่กินขนม เวลาหมิงกินจะโดนสายตาอาฆาตกินอีกแล้ว ไม่ได้มีความสุขนะ เวลาทานข้าวด้วยกัน (หัวเราะ)"

เคยเจอคนที่เราคุยด้วยมาตีกรอบชีวิตขนาดนี้

"ไม่เคย แต่ด้วยพี่เค้าจะคลุกคลีกับการออกกำลังกาย เค้าฟิตของเค้า เรานั่งกินคนเดียว จะอายบ้าง" ภายนอกดูเหมือนเปรมจะเป็นแนวตามใจ "เป็นคนตามใจ อยากกินอะไรกันก็กิน แต่จะคอยเตือนหมิง จะบ่นว่าอ้วนๆ เค้าคงขี้เกียจฟัง" ทัศนคติเรื่องอื่นๆ ความเห็นไม่ลงรอยกัน "มีบ้าง จริงๆแล้วเราเพิ่งเรียนรู้กันมาไม่กี่เดือน อยู่ในช่วงปรับตัว เติบโตกันมาคนละครอบครัว มารู้จักกันใหม่ๆต้องปรับตัว ค่อยๆจูนเข้าหากันมากกว่า" ทุกวันนี้เปรมฝ่าด่านคุณแม่คุณพ่อหมิงหมดแล้วสิ "กับคุณพ่อคงยัง เพราะคุณพ่อจะยังไม่ค่อยรู้จักพี่เค้า ถ้าจะฝ่าด่านมั้ย? สำหรับหมิง มันต้องเป็นคนที่ใช่จริงๆ ถึงขั้นจะต้องอยู่ด้วยกัน ถึงเรียกว่าฝ่าด่าน 100% แต่ตอนนี้พี่เค้าถือว่าเป็นคนที่เวลาไปไหนด้วยแล้วคุณแม่หมิงสบายใจ ไม่ห่วงเท่าไหร่ พี่เค้าไม่ค่อยส่งหมิงกลับบ้านดึกเลย ทำให้คุณแม่สบายใจตรงนี้ด้วย"

นิสัยส่วนไหนที่รู้สึกคุยกันได้แล้วสบายใจ

"หมิงว่ามันเริ่มจากความเป็นเพื่อน หลายๆคนเข้ามาในชีวิตจะมาจีบ แต่หมิงกับพี่เริ่มมาจากความเป็นเพื่อน มันเลยเห็นกันหลายมุมมาก่อนคบกัน ต้องยอมรับบางส่วนโดยปริยาย บางสิ่งที่เกิดขึ้นเลยทำให้จูนกันเร็ว" สายตาคนภายนอกมองคู่สวีต "คนเราเรียนรู้กันต้องมีมุมกุ๊กกิ๊กบ้าง แต่ถามว่าเอาจริงๆอยู่ด้วยกันไม่ค่อยกุ๊กกิ๊ก พี่เปรมจะเป็นคนตรงๆ พูดจาห้าวๆ บางคนมองเค้าหวาน แต่พอรู้จัก เราสองคนเป็นอะไรที่ตรงๆไม่ ค่อยกุ๊กกิ๊ก จะมีแค่ บางอารมณ์ ตอนนี้คบกันสบายใจในระ-ดับนึง" จะมีโอกาสรับงานคู่ กันมั้ย "จริงๆก็มี แต่ เราเลือกที่จะรับ ไม่อยากให้ทุกๆคนรู้สึกมาคบกันเพื่อธุรกิจ เราต่างคนต่างเดินมาเจอกันด้วยความรู้สึกที่ดีๆต่อกัน เราอยู่ท่ามกลางกระแสสังคม บางทีเข้าหูมาอาจจะรู้สึกเสียใจ ไม่พอใจ น้อยใจบ้าง ถ้าเราระวังตัวไว้ดีกว่า มีงานติดต่อมาถ้าดูเยอะเกินไป ไม่เข้ากับคู่เราก็ปฏิเสธแบบนอบน้อม ไม่อยากให้ดูเยอะเกินไป ไม่ใ่ช่เปิดไปหนังสือเล่มไหนมีแต่เรา เราอยากให้ทุกคนรู้ว่าเราคบอย่างจริงใจ"
มีเวลาให้พิสูจน์อีกเยอะ อย่าเพิ่งด่วนชราก่อนละกัน!!

เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ