ปูคบขุนพลอยู่หมัด ผวาดวงรักวาเลนไทน์

ดูเหมือนว่าความรักจะลงตัว หลังคบหากับหนุ่มตี๋ "ขุนพล อิสสระ" สำหรับดาราสาวร้อนรัก "ปู"ไปรยา ลุนด์เบิร์ก

ด้วยเป็นชายหนุ่มที่เธอรู้จักเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก รู้ไส้รู้พุงถึงวันนี้ก็ 7 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะตกลงคบกันเป็นแฟนไม่ถึงปี

-คบกับขุนพล เป็นแฟนกี่เดือนแล้ว?

ปู - "7-8 เดือนแล้วค่ะ"

-หวานกันไหม?

ปู - "รู้จักกันมา 7 ปี จากที่เขาพูดเขาบอกว่าเขารอมา 7 ปี เขาบอกว่าเขาไม่เบื่อหรอก ปูก็ไม่เบื่อ มันไม่มีอะไรจะเบื่อ"

-ครั้งนี้ความรักดูชัดเจนนะกับขุนพล?

ปู - "ครั้งนี้เรารู้จักกันมา 7 ปีแล้ว อีกอย่างถ้าครั้งนี้พังปูโดนด่าเยอะชัวร์ ทั้งเพื่อนปู เพื่อนเขา พ่อแม่เขา พ่อแม่หนู ไม่อยากจะคิด ปูบอกขุนพลแล้วว่าอย่ามากดดัน เพราะปูโดนคนอื่นกดดันเต็มที่แล้ว ตัวเองไม่ต้องมากดดันอีกคน(หัวเราะ) ขุนพลเขาเป็นคนขี้หึงแล้วก็เป็นคนที่อารมณ์ร้อนนิดหนึ่ง เขาหึงแต่เขาเป็นคนที่ปล่อยวาง คือเขาหึงแต่เขาจะพูดเหน็บๆ กัดๆ บ้าง อย่างเช่น นี่เธอคิดดูก็แล้วกัน ผู้ชายคนหนึ่งรักผู้หญิงคนหนึ่งมา 7 ปี แล้วเผอิญไปเห็นผู้หญิงคนนี้ไปคุยกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง แล้วผู้ชายคนนี้ไม่เคยทำอะไรเลย รักผู้หญิงคนนี้มา 7 ปี เธอว่าผู้หญิงคนนี้แย่มั้ย ปูกินข้าวไม่ลงเลย ปูเลยถามว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไรล่ะ เขาก็บอกว่าเปล่า แค่ถามดู แล้วเขาก็บอกว่า ตอนเข้าห้องน้ำวางโทรศัพท์บ้างก็ได้นะ เพราะปูเอาโทรศัพท์เข้าห้องน้ำด้วย"

-ติดโทรศัพท์หรือมีความลับ?

ปู - "ไม่ ปูเป็นคนที่ติดนิสัยตั้งแต่ตอนถ่ายละคร วางโทรศัพท์ไว้ไม่ได้ เดี๋ยวใครเอารูปในโทรศัพท์หรือเอาของเราไปทำไงล่ะ"

-เขาอยากเช็กโทรศัพท์ปูหรือเปล่า?

ปู - "ไม่หรอก เพราะปูอาบน้ำก็เอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย เขาก็เตือนว่าเดี๋ยวโทรศัพท์โดนไอร้อนจะพัง แม่ยังว่าปูเลย คือปูไม่ชอบให้ใครเปิดโทรศัพท์ดู"

-ตอนที่อยู่อังกฤษ ขุนพลโทร.หาบ่อยไหม?

ปู - "บ่อย เพราะเขามีคอลลิ่งการ์ด 800 นาที 20 ดอล ถูกมาก เขาเลยโทร.ได้บ่อย วันละประมาณ 12 รอบ เขาไม่ได้โทร.จิก แต่เขาโทร.มาบอกว่าคิดถึงแล้วก็โทร.คุยกัน ปูก็โทร.นะ วันละ 4-6 รอบ หยุดอยู่ที่ 6 รอบค่ะ"

-ดูแลยังไงเพราะอยู่กันคนละประเทศ?

ปู - "ปูว่าไม่ยาก สบายมาก ปูเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง อย่างคนเก่าๆ เวลามีใครมาบงการชีวิตมากๆ ปูจะไม่ชอบเลย มันถึงไปไม่รอดสักครั้ง เพราะปูไม่ชอบให้คนถามว่าเที่ยวที่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร แล้วปูเชื่อว่าถ้ารักกัน เชื่อใจกันแค่นั้นจบ ปูกับขุนพลก็เป็นอย่างนั้น เราไม่เคยทะเลาะกันเลย เหมือนกับว่าพอเราเริ่มเหม็นขี้หน้ากันก็จะมองหน้ากันแล้วก็เงียบ(หัวเราะ) เราไม่ทะเลาะกัน แต่บางทีมีร้องไห้คิดถึงกันมากกว่า ปูว่าอยู่ห่างกัน เวลาเจอกันแล้วมันทำให้รักกันมากขึ้น เพราะเวลาที่มีด้วยกันมันน้อยมาก อีกอย่างปูก็รักครอบครัวเขา"

-แหม...แต่ก่อนก็เห็นรักทุกครอบครัว?

ปู - "แซวแรงนะนี่(หัวเราะ) โดยเฉพาะครอบครัวนี้"

-ครอบครัวเขาดูอบอุ่นไหม?

ปู - "ครอบครัวเขาน่ารัก ตอนปูอยู่ที่โน่นเขายังโทร.หาปูเลย วันคริสต์มาสครอบครัวเขาก็มาทานข้าวบ้านปูกับพ่อแม่ มันไม่เหมือนที่ผ่านมา ครอบครัวเจอกันแต่มันไม่ถึงขนาดนี้ เพราะอย่างพี่น้องเขาก็เป็นรุ่นพี่ปู แต่นี่รุ่นน้องเขารุ่นเดียวกันแล้วเรียนอินเตอร์เหมือนกัน มันเข้ากันได้มากกว่าค่ะ"

-ขุนพลแนะนำให้ปูรู้จักกับครอบครัวเขาตั้งแต่เมื่อไร?

ปู - "ตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่เราคบกัน เขาถามปูว่าวันนี้ทำอะไรหรือเปล่า ปูบอกว่าไม่ได้ทำอะไร เขาก็บอกว่างั้นไปเจอแม่ ปูก็ตกใจแต่ไปก็ไป แล้วแม่เขาบอกว่าขุนพลเขาแปลกนะ เพราะลูกชายเขาไม่เคยดูละครเลย และตอนที่เขาอายุ 14-15 ปี ช่วงนั้นปูเล่นละครเรื่องแรก "สาวน้อยในตะเกียงแก้ว" เขาถามแม่เขาว่า ผู้หญิงคนนั้นสวยป่ะ แม่เขาก็งงลูกชายดูละคร แม่เขาก็บอกว่าน่ารักดี ขุนพลก็บอกแม่เขาว่าเขาชอบคนนี้"

-ตอนนั้น ปูอายุเท่าไร?

ปู - "14 ปีค่ะ ตอนนั้นปูรู้จัก เจอกันที่ห้องเอ็มโพเรียม เขาก็เดินยิ้มมาเลย ปูก็ว่าเด็กบ้าอะไรตัวดำ ตอนนั้นปูก็ตัวดำด้วย(หัวเราะ) เขาชอบปูตั้งแต่ตอนที่ปูยังตัวดำๆ ผอมๆ"

-ยังเก็บรูปตอนเด็กของกันและกันไว้?

ปู - "ปูไปบ้านเขา แล้วปูเจอข่าวของปูเก่าๆ เขาเก็บไว้ในลิ้นชักของเขา หนังสือที่ปูถ่ายเยอะมาก"

-มั่นใจไหมคนนี้?

ปู - "ไม่รู้ ต้องรอดูแล้วกัน แต่เขาเป็นสุภาพบุรุษน่ารัก เป็นคนที่จิตใจดี เป็นคนที่พื้นฐานดีมาก เขาเงียบ เราคบกันไม่ได้มาบังคับว่าต้องอยู่ด้วยกันทุกวัน เราดูกันไปเรื่อยๆ เรามองว่าอีก 2 ปีเราค่อยอยู่ด้วยกันก็ได้"

-ก่อนหน้านี้ปูเป็นคนติดแฟน?

ปู - "คนนี้ไม่ติดค่ะ ปูเชื่อใจขุนพล ปูรู้จักเขามา 7 ปี เขาเป็นคนที่โก๊ะมาก เขาไม่ค่อยมีมาดอะไร เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ บอกไม่ให้มองก็ไม่มอง"

-ทำไมถึงเชื่อใจขนาดนั้น?

ปู - "7 ปี เอาง่ายๆ แม่เขาบอกว่าปูเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาคบแล้วพามาหาแม่"

-แม่เขาจองไว้หรือยัง?

ปู - "อย่าเพิ่ง(หัวเราะ) ไม่รู้ล่ะ รู้อย่างเดียวว่าคนนี้นิสัยดี และคนที่เขาเคยคบปูรู้จักหมด และทุกคนก็เป็นเหมือนขุนพล เรียบร้อยน่ารัก ขุนพลเขาเป็นคนน่ารัก มีคนมาชอบเขาเยอะ แต่เขาไม่รู้ตัวว่าผู้หญิงชอบ"

-แม่ปูว่าไงบ้างกับขุนพล?

ปู - "แม่ปูรักขุนพลมาก ปูเรียกขุนพลว่า หลินปิงน้อยของปู เพราะเขาชอบหลับ"

-แล้วปูเป็นอะไรของเขา?

ปู - "อย่าดีกว่าเขิน เขาเรียกว่า กระรอกน้อย(หัวเราะ) เสียฟอร์มมากเวลาไปเที่ยวเขาเรียกปูกระรอกน้อย บางครั้งก็ลิงน้อย แล้วปูหันด้วยนะ ลิงน้อยกับหลินปิงไง ที่เขาเรียกปูแบบนี้เพราะปูซน แล้วก็ไฮเปอร์"

-อนาคตจะได้เห็นงานหมั้นหรืองานแต่งปูกับขุนพลไหม?

ปู - "โอ้...เขาบอกว่าเรียนจบปีหน้า แม่เขาว่าทำไมไม่เรียนต่อโทเพื่อให้จบพร้อมปู เขาบอกไม่เอา เขาอยากกลับมาแล้ว อยากตีเทนนิส อยากตีจริงๆ จังๆ เมื่อก่อนเขาตีให้ทีมชาติระดับเยาวชน แล้วตอนนี้เขาก็เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยที่โน่นด้วย เขาเก่งนะ"

-ปีใหม่ที่ผ่านมาเขาให้ของขวัญอะไร?

ปู - "เขาให้กำไล เขียนว่า ไอเลิฟยู"

-กำไลอีกแล้ว?

ปู - "เออใช่ แต่อันนี้ไม่ใช่คาเทียร์ เป็นทิฟฟานี่แอนด์โค ปูก็มีของขวัญให้ แต่ให้พ่อเขา เป็นเครื่องเสียงเพราะคุณพ่อเขาชอบ"

-วาเลนไทน์จะถึงแล้วนะ?

ปู - "ค่ะ ปูมีดวงว่าจะมีปัญหาเรื่องความรักช่วงวันวาเลนไทน์ทุกครั้งเลย ปูจะเปลี่ยนแฟนช่วงวันวาเลนไทน์ คนเข้ามาใหม่ตลอด 3 ครั้งแล้วนะ"

-กลัวไหม?

ปู - "ไม่กลัว กลัวทำไม ไม่มีปัญหากันเลย มีความสุขดีค่ะ"

หวานกันซะขนาดนี้ จะกลัวอะไรล่ะเนอะ

มุ่งมั่นเรียน

"ดีค่ะ ปูเครียดเรื่องเรียน เครียดจนผมร่วง เครียดจนร้องไห้" สาว "ปู-ไปรยา" เผยถึงเรื่องเรียนที่อังกฤษ

แล้วว่า "เพราะก่อนหน้านั้นปูอ่านหนังสือหนักมาก พอสอบแล้วมันยาก แต่คะแนนออกมาแต่ละครั้งก็ได้บี ก็ถือว่าดีค่ะ 75% ปูตั้งใจเรียนมากๆ คิดดูซิว่าปูไม่รับงานช่วงที่เรียน ไม่อยากให้งานมาขัดจังหวะ เป็นคนอื่นเขาก็ดร็อปเรียนมาทำงาน แต่ปูไม่เอา เพราะปูเพิ่งจะอายุ 20 เอง กว่าจะเรียนจบก็ 22 ปี ยังทำงานได้อยู่นะ"

ถามว่าเหลืออีกกี่ปีถึงจะจบ ดาราสาวกล่าวว่า

"อีก 2 ปีปูก็เรียนจบแล้ว ค่อยกลับมาทำงานตอนนั้นดีกว่า ปีนี้ก็ขึ้นปี 2 แล้วก็ต้องเรียนหนักกว่าเดิม อย่างที่ผ่านมาก็เหนื่อยนะ อ่านหนังสือถึงตี 5 พ่อโทร.มาบอกว่าหลับได้แล้ว เตรียมตัวไปสอบ ถ้าอ่านขนาดนี้แล้วสอบไม่ผ่านก็ไม่ว่าอะไร"

เรื่องเรียนที่บ้านหมดห่วง รวมถึงรูปหลุดต่างๆ ที่ดาราสาวการันตีว่าไม่มี

เนื่องจากระมัดระวังตัวเองมากขึ้น โดยกำชับเพื่อนไม่ให้ถ่ายรูป อีกอย่างเธอย้ำว่า "ตอนนี้เรามีแฟนแล้วทำอะไรมากก็ไม่ได้" ดาราสาวยอมรับว่าเธอเป็นคนเชื่อเรื่องดวงโดยไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน เจอทำนายแต่ละครั้ง เป็นต้องนอยด์ทุกที แต่มาครั้งนี้กับผู้ชายที่ชื่อ "ขุนพล อิสสระ" ปูบอกมั่นใจ"มีอะไรอย่างหนึ่งที่ปูมั่นใจ แต่บอกไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่รู้กันระหว่างเราสองคน ถ้าเกิดเราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ ยังไงก็ต้องมีเรื่องเกี่ยวข้องกันค่ะ"

ตบท้ายถามเรื่องงานละครวางแผนไว้อย่างไร ดาราสาวกล่าวว่า

"ช่วงปิดเทอมใหญ่ครั้งหน้าผู้ใหญ่ก็มีละครรอไว้ 2 เรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่ายังไงเหมือนกัน ปูไม่รู้ว่าถ้าถ่าย 2 เรื่องพร้อมกันมันจะทันหรือเปล่า ค่อยว่ากันตอนนั้นอีกทีค่ะ กับงานแสดงปูก็รับเรื่อยๆ ในช่วงปิดเทอมเพื่อไม่ให้หายค่ะ เรียนจบค่อยมาว่ากันอีกที ตอนนี้ขอเรียนเป็นหลักก่อน"

ช่วงนี้ทำอะไร ดูรุ่งไปโม้

ห่างบ้านช่วยเหลือตัวเอง-ประสบการณ์ชีวิต

ผ่านมาแล้ว 1 ปีเต็ม สำหรับการห่างบ้านที่เมืองไทยไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ สำหรับดาราสาว "ปู-ไปรยา" โดยเจ้าตัวเล่าถึงการอยู่ที่เมืองผู้ดีว่า

"ดีค่ะ เริ่มชินกับชีวิตที่โน่น ปรับตัวได้แล้ว เวลาจะต้องกลับไปที่อังกฤษก็ไม่รู้สึกเครียด แต่อยากกลับไปเรียน แล้วตอนนี้ปูมีบ้านที่โน่นแล้ว มีห้องครัวของตัวเอง จัดเสร็จแล้วและก็ชอบ"

ถามว่าบ้านหลังที่อยู่นี่ซื้อเลยหรือเปล่า หนูปูปฏิเสธ

"ไม่ค่ะ เช่าอยู่กับเพื่อนผู้หญิง และก็เพื่อนผู้ชายอีก 2 คน เดี๋ยวปีหน้าช่วงเดือนกันยายนปูก็จะออกจากบ้านไปอยู่คนเดียวที่อพาร์ตเมนต์ตัวเอง สวยค่ะ สองห้องนอน สองห้องน้ำ แต่ว่าอยู่คนเดียว"

ทำไมถึงย้ายไปอยู่คนเดียวล่ะ

ดาราสาวแจง "คนเราอยู่บ้านเดียวกันมันยากกับการที่ต้องมาอยู่ด้วยกัน เป็นเพื่อนกันได้ แต่พอมาอยู่ด้วยกันมันยากค่ะ เลยตัดสินใจว่าอยู่คนเดียวดีกว่า"

ไม่กลัวเหงาเหรอ

"ไม่หรอกค่ะ เพราะว่าอยู่ตึกเดียวกัน ปูอยู่ห้องเบอร์ 13 เท่านั้น ที่เลือกห้องนี้เพราะห้องสวยที่สุดในตึก แต่มันสร้างใหม่นะ คิดว่าไม่เจออะไรแล้วล่ะ ถ้าเจออีกครั้งปูร้องแน่"

ได้ข่าวว่าครั้งที่แล้วก็เจอไม่ใช่เหรอ

"ครั้งที่แล้วก็มีบ้าง แต่ไม่มีอะไรหรอก"

เจออะไรบ้าง

"บ้านที่ในออกซ์ฟอร์ดเป็นบ้านเก่า ไฟมันชอบดับ แล้วต้องลงไปสับสวิตช์ไฟขึ้นเพื่อเปิดไฟที่ห้องใต้ดิน แล้วต้องลงไปคนเดียว ห้องข้างล่างมันก็เย็น บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่า มีคนมาอยู่ก่อนปู 6 ครอบครัวแล้ว ประวัติมันก็ยาวนิดหนึ่ง แล้วปูไปซื้อผมต่อมาซึ่งเป็นผมคนจริงๆ ปกติปูก็ซื้อผมต่อมาบ่อยนะ เป็นผมที่ทำสีแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นผมที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วยังไม่เคยใช้ เป็นผมดำยาว แล้ววันนั้นไฟดับ ไม่มีใครอยู่ที่บ้านปูก็ต้องลงไปข้างล่างไปเปิดสวิตช์ ปูได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ คิดสภาพดูซิ ปูหน้าเย็น สับสวิตช์รอบแรกไม่ติดก็ต้องสับอีกทีมันก็ไม่ติด"

เสียงผู้หญิงร้องไห้แบบไหน โฮเลยหรือเปล่า

"เป็นเสียงร้องสะอื้นที่ไม่ดังนะ ไม่รู้ว่าปูคิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่หันไปเห็นเงาดำๆ เป็นผู้หญิงผมยาวแล้วก็ผมดำ โอ้ย...จบข่าวพาผีไทยไปอยู่ฝรั่ง(หัวเราะ) แต่เพื่อนปูว่าปูคิดไปเอง"

มีเพื่อนผู้ชายเช่าบ้านร่วมอยู่ด้วยแม่รู้ไหม

"รู้ค่ะ คือเขาเป็นฝรั่งคนหนึ่ง คนจีนอีกคน แม่รู้จักทั้งคู่เลย เขาแมนนะและก็มีแฟนแล้ว แล้วก็เพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่ง"

แม่ว่าไงบ้าง

"แม่โอเค เรามีเพื่อนผู้ชายซึ่งมันก็อยู่ต่างประเทศทำไงได้"

แม่ไม่ว่า ขุนพลล่ะว่าไง

"ขุนพลเขาสบาย ไม่ว่าหรอก เขาจะว่าอะไรล่ะ ขุนพลเขาไม่เครียดหรอก"

แหม...ก็ใจปูน่ะ ให้ขุนพลทั้งดวง

รู้ค่าเงิน

ไปเรียนที่อังกฤษ ใช่ว่าจะรอเงินแม่ส่งไปอย่างเดียว แต่ดาราสาว "ปู-ไปรยา" ยังทำงานพิเศษหาเงินเองด้วย โดยเล่าว่า

"เริ่มแรกเป็นเด็กเสิร์ฟ ที่เลือกทำงาน เพราะมันถึงเวลาต้องทำ เห็นคนอื่นเขาทำ เราทำบ้างก็ได้ (หัวเราะ) แต่เป็นเด็กเสิร์ฟได้อาทิตย์เดียวเอง เพราะทำไม่ได้ กว่าจะเลิกเรียนก็ 6 โมงเย็นแล้ว กว่าจะเลิกงานก็ตี 2-3 ต้องถีบจักรยานทั้งวันเหนื่อยและกลัวด้วย ก็เลยมาเป็นแคชเชียร์ที่ร้านท็อปช็อป เป็นมาได้ 2 เดือนแล้ว มันลงตัวเพราะเราก็ทำจัดเสื้อผ้า เอาเสื้อผ้าไปแขวนที่ราว แล้วก็จัดตัวหุ่นโชว์ตอนเช้า"

ถามว่ารู้ค่าของเงินเลยไหม ดาราสาวกล่าวว่า

"ปูรู้ค่าของเงินตั้งแต่ถ่ายละครแล้ว ถ่ายไปออนแอร์ไป(หัวเราะ) ไม่ใช่ว่ามารู้จักตอนนี้หรอกค่ะ แต่ตอนที่เล่นละครปูทำงานไม่เคยรับเงินเอง ปูให้แม่ตลอด อันนี้เป็นงานชิ้นแรกที่รับเงินเอง จากเมื่อก่อนรับเงินชั่วโมงละ 5-6 หมื่นบาท มาเป็นเด็กเสิร์ฟได้ชั่วโมงละ 5.95 ปอนด์(หัวเราะ) วันหนึ่งทำ 8-9 ชั่วโมง เหนื่อยนะ"