ถึงเวลาแล้ว ต้องเปลี่ยนลุค!!
ช่วงนี้ไปไหนมาไหน จะได้ยินแฟนละคร พูดถึง “เพลิงสีรุ้ง” ทางช่อง 3 ที่ รวมดารา-นักแสดงมืออาชีพไว้เพียบ หนึ่งในนักแสดงที่ถูกเอ่ยถึงมากที่สุด ต้องยกให้นางเอกสาวสวย “น้ำผึ้ง-ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์” รับบท “แคท” เธอยอมพลิกบทบาทการแสดง จากผู้หญิงที่เรียบร้อย มาเป็นสาวร้อนแรงที่รักและลุ่มหลงผู้ชาย อย่างพระเอกในเรื่อง “สมาร์ท-กฤษดา พรเวโรจน์”
เชื่อมั้ยว่า กว่าเราจะได้มานั่งคุยกับ “น้ำผึ้ง” ที่บ้านพักของเธอ ย่านลาดพร้าว ยากมาก! เพราะคิวแน่นเอี๊ยด คนดังก็งี้แหละ พอได้คิวปุ๊บ..ไม่รอช้า เริ่มเมาท์เลยดีฝ่า
น้ำผึ้ง-ณัฐริกา เลิกเก๊ก...
**เป็นเพราะฟีดแบ็กละครแร๊ง..ง สุด ๆ ใช่มั้ย..
“คิวแน่นจริง ๆ ค่ะพี่น้อง พี่ก็เหมือนเดิมแหละ ฟีดแบ็กละครดีมากค่ะ น้ำผึ้งก็ปลื้ม มีทั้งคำชมและคำตำหนิ เค้าบอกดูละครแล้ว เชื่อจริง ๆ ว่าน้ำผึ้งร้าย.. ตัวจริงเค้าเป็นคนรักสัตว์นี่นา ทำไมร้ายจังเลย น้ำผึ้งบอกจริง ๆ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ แต่น้ำผึ้งรู้สึกดีค่ะ สิ่งที่เราเล่นไปเค้าเชื่อ แสดงว่าเราประสบความสำเร็จ ที่ทำให้คนเค้าเชื่อได้”
**ช่วงหลัง ๆ “น้ำผึ้ง” กล้าที่จะลุก ขึ้นมาเปลี่ยนลุคตัวเอง จากนางเอก ที่เคยรับบทเรียบร้อย กลับฉีกแนวมาเล่นร้าย..เซ็กซี่ แบบเกินความคาดหมาย มีคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
“ตอนแรกเราไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็เลยเรียบ ๆ ไว้ก่อนเอาปลอดภัยไว้ก่อน เราโตขึ้นเราก็เลยรู้ว่า ถ้าทำงานแบบนี้มันต้องกล้าในบางอย่าง ที่เป็นงานประเภทบันเทิง ทำงานเพื่องาน แต่โดยส่วนตัวน้ำผึ้ง นิสัยก็ยังเรียบร้อยอยู่นะ แต่งตัวเรียบร้อยไม่เหมือนในละคร แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีงานถ่ายแบบ ทำงานที่มันต้องซ่าส์เปรี้ยวอะไรอย่างเนี้ย เราก็ต้องทำให้มันเต็มที่ ไม่ถึงก็ให้ใกล้เคียงที่สุด”
**เพราะอย่างนี้ “น้ำผึ้ง” ถึงได้กล้าเล่นเลิฟซีน แบบจูบจริงไม่มีสแตนด์อิน (กับพระเอก “สมาร์ท-กฤษดา”)
“เรื่องนี้เยอะมากที่สุดในชีวิต ผู้กำกับเรื่องนี้เป็นคนที่หัวอาร์ตมาก แล้วเราคุยภาษาเดียวกัน เลยมองทิศทางการแสดงว่า โอเค..ตัวละครตัวนี้นะ มีความต้องการอย่างนี้ เราเล่นน้อยไปมันก็ไม่ใช่ ถึงเล่นเลิฟซีนมากกว่านี้ก็ไม่ใช่ เพราะมันต้องการแค่นี้ น้ำผึ้งก็เลยเล่นไปตามตัวละครแท้ ๆ โดยที่เราตัดความเป็นน้ำผึ้ง-ณัฐริกา ออกไป เพราะตอนแรก ๆ เลิฟซีนน้ำผึ้งยังแบบอาย เขินไม่กล้าเล่น เดินไปเดินมาเสร็จแล้วพี่ที่เล่นเป็นสารภีในเรื่อง เค้าเป็นครูการแสดง บอกปล่อยมันน้ำผึ้ง ตัวละครต้องการ น้ำผึ้ง- ณัฐริกา ไม่ต้องการอยากจูบเล่นเลิฟซีนขนาดนั้นหรอก แต่ตัวละครเค้าต้องการ”
“คิวแน่นจริง ๆ ค่ะพี่น้อง พี่ก็เหมือนเดิมแหละ ฟีดแบ็กละครดีมากค่ะ น้ำผึ้งก็ปลื้ม มีทั้งคำชมและคำตำหนิ เค้าบอกดูละครแล้ว เชื่อจริง ๆ ว่าน้ำผึ้งร้าย.. ตัวจริงเค้าเป็นคนรักสัตว์นี่นา ทำไมร้ายจังเลย น้ำผึ้งบอกจริง ๆ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ แต่น้ำผึ้งรู้สึกดีค่ะ สิ่งที่เราเล่นไปเค้าเชื่อ แสดงว่าเราประสบความสำเร็จ ที่ทำให้คนเค้าเชื่อได้”
**ช่วงหลัง ๆ “น้ำผึ้ง” กล้าที่จะลุก ขึ้นมาเปลี่ยนลุคตัวเอง จากนางเอก ที่เคยรับบทเรียบร้อย กลับฉีกแนวมาเล่นร้าย..เซ็กซี่ แบบเกินความคาดหมาย มีคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
“ตอนแรกเราไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็เลยเรียบ ๆ ไว้ก่อนเอาปลอดภัยไว้ก่อน เราโตขึ้นเราก็เลยรู้ว่า ถ้าทำงานแบบนี้มันต้องกล้าในบางอย่าง ที่เป็นงานประเภทบันเทิง ทำงานเพื่องาน แต่โดยส่วนตัวน้ำผึ้ง นิสัยก็ยังเรียบร้อยอยู่นะ แต่งตัวเรียบร้อยไม่เหมือนในละคร แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีงานถ่ายแบบ ทำงานที่มันต้องซ่าส์เปรี้ยวอะไรอย่างเนี้ย เราก็ต้องทำให้มันเต็มที่ ไม่ถึงก็ให้ใกล้เคียงที่สุด”
**เพราะอย่างนี้ “น้ำผึ้ง” ถึงได้กล้าเล่นเลิฟซีน แบบจูบจริงไม่มีสแตนด์อิน (กับพระเอก “สมาร์ท-กฤษดา”)
“เรื่องนี้เยอะมากที่สุดในชีวิต ผู้กำกับเรื่องนี้เป็นคนที่หัวอาร์ตมาก แล้วเราคุยภาษาเดียวกัน เลยมองทิศทางการแสดงว่า โอเค..ตัวละครตัวนี้นะ มีความต้องการอย่างนี้ เราเล่นน้อยไปมันก็ไม่ใช่ ถึงเล่นเลิฟซีนมากกว่านี้ก็ไม่ใช่ เพราะมันต้องการแค่นี้ น้ำผึ้งก็เลยเล่นไปตามตัวละครแท้ ๆ โดยที่เราตัดความเป็นน้ำผึ้ง-ณัฐริกา ออกไป เพราะตอนแรก ๆ เลิฟซีนน้ำผึ้งยังแบบอาย เขินไม่กล้าเล่น เดินไปเดินมาเสร็จแล้วพี่ที่เล่นเป็นสารภีในเรื่อง เค้าเป็นครูการแสดง บอกปล่อยมันน้ำผึ้ง ตัวละครต้องการ น้ำผึ้ง- ณัฐริกา ไม่ต้องการอยากจูบเล่นเลิฟซีนขนาดนั้นหรอก แต่ตัวละครเค้าต้องการ”
**อยากให้พูดถึง “สมาร์ท” ที่มีฉากจูบจริงด้วยกันเยอะมาก
“ต้องขอบคุณพี่สมาร์ทเพราะน้ำผึ้งรู้สึกว่า เล่นเลิฟซีนเยอะกับพี่เค้าเนี่ย น้ำผึ้งค่อนข้างโชคดีเพราะเค้าเป็นสุภาพบุรุษ เค้าเล่นจูบจริงแล้วเค้าก็ไม่เอาเปรียบผู้หญิงเลย ให้เกียรติผู้หญิง เล่นจบแค่ไหนก็จบ ไม่มีเกินเลยไม่มีนอกบท ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม น้ำผึ้งก็เลยกลายเป็นอย่างนี้เลยค่ะ พี่เล่นไปเลย แล้วน้ำผึ้งก็เล่นไปเลย ถ้าน้ำผึ้งเล่นเยอะไปพี่ก็ระวังตัวเองแล้วกัน (หัวเราะร่วนเชียว)
**เล่นจูบจริงแบบนี้ แฟนน้ำผึ้ง (เป้-ธิติวงศ์ นิกันติ) ไม่ว่าเหรอ..?
“เค้าดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง เค้าทำงานเยอะ เค้าเข้าใจเรื่องการทำงาน เค้าก็เป็นคนทำงาน”
**แล้วแคร์ความรู้สึกแฟนบ้างอ๊ะป่าว..
“ถ้าไม่ใช่การแสดง สมมุติว่าไปเที่ยวอะไรอย่างเนี้ย น้ำผึ้งแคร์ความรู้สึกเค้าแน่นอน น้ำผึ้งคงไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน แต่ถ้าเราจะทำอาชีพนักแสดงแล้ว น้ำผึ้งก็บูชาการแสดงค่ะ ตัวละครต้องการยังไงน้ำผึ้งก็ต้องเล่นให้เต็มร้อย เค้า (แฟนหนุ่ม) เป็นคนใจกว้าง แล้วเข้าใจเรื่องการทำงานอย่างดี น้ำผึ้งก็เลยทำได้เต็มที่ ผลงานก็เลยออกมาแฮปปี้”
“ต้องขอบคุณพี่สมาร์ทเพราะน้ำผึ้งรู้สึกว่า เล่นเลิฟซีนเยอะกับพี่เค้าเนี่ย น้ำผึ้งค่อนข้างโชคดีเพราะเค้าเป็นสุภาพบุรุษ เค้าเล่นจูบจริงแล้วเค้าก็ไม่เอาเปรียบผู้หญิงเลย ให้เกียรติผู้หญิง เล่นจบแค่ไหนก็จบ ไม่มีเกินเลยไม่มีนอกบท ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม น้ำผึ้งก็เลยกลายเป็นอย่างนี้เลยค่ะ พี่เล่นไปเลย แล้วน้ำผึ้งก็เล่นไปเลย ถ้าน้ำผึ้งเล่นเยอะไปพี่ก็ระวังตัวเองแล้วกัน (หัวเราะร่วนเชียว)
**เล่นจูบจริงแบบนี้ แฟนน้ำผึ้ง (เป้-ธิติวงศ์ นิกันติ) ไม่ว่าเหรอ..?
“เค้าดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง เค้าทำงานเยอะ เค้าเข้าใจเรื่องการทำงาน เค้าก็เป็นคนทำงาน”
**แล้วแคร์ความรู้สึกแฟนบ้างอ๊ะป่าว..
“ถ้าไม่ใช่การแสดง สมมุติว่าไปเที่ยวอะไรอย่างเนี้ย น้ำผึ้งแคร์ความรู้สึกเค้าแน่นอน น้ำผึ้งคงไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน แต่ถ้าเราจะทำอาชีพนักแสดงแล้ว น้ำผึ้งก็บูชาการแสดงค่ะ ตัวละครต้องการยังไงน้ำผึ้งก็ต้องเล่นให้เต็มร้อย เค้า (แฟนหนุ่ม) เป็นคนใจกว้าง แล้วเข้าใจเรื่องการทำงานอย่างดี น้ำผึ้งก็เลยทำได้เต็มที่ ผลงานก็เลยออกมาแฮปปี้”
**แฟนคลับดูละครเรื่องนี้ เมาท์กันว่า “น้ำผึ้ง” เก็บกดอะไรมาหรือเปล่า
“น้ำผึ้งระบายเหมือนกันนะ แต่เวลาน้ำผึ้งเก็บกดจะระบายใส่ภาพ เอาสีระบายใส่ภาพโอ้โฮ..เละเทะอะไรอย่างเนี้ย แต่การแสดงไม่เกี่ยวกับชีวิตน้ำผึ้งเลยค่ะ การแสดงเป็นเรื่องของตัวละครตัวนั้น ตัวละครตัวนี้เก็บกดจริง ๆ แล้วเป็นโรคจิต เล่นยากจริง ๆ น้ำผึ้งไม่ได้บอกว่าน้ำผึ้งเก็บกด แล้วเอาโรคจิตมาแสดงในเรื่อง มันไม่ใช่อย่างนั้น”
**จากนี้ไปจะยึดบทแนวนี้ไปเรื่อย ๆ หรือเปล่า
“ไม่ค่ะ เพราะน้ำผึ้งเชื่อว่าการเป็นนักแสดง ต้องเล่นได้ทุกบท ถึงแม้ว่าวันหนึ่งจะเล่นเป็นคนใช้ก็ต้องเล่นคนใช้ให้เป็นคนใช้ มันคือการทำงานให้เป็นอาชีพไปเลย เรื่องหน้าจะเป็นมงกุฎดอกส้ม เสร็จจากนี้น้ำผึ้งก็จะไปถ่ายโฆษณาที่ญี่ปุ่น เป็นเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่งค่ะ”
**ถามตรง ๆ ที่ “น้ำผึ้ง” ลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ ๆ เรียกความฮือฮาจากแฟน ๆ ได้ไม่น้อยทีเดียว สร้างกระแสหรือเปล่า
“สร้างกระแสไม่เป็น แต่การสร้างกระแสมันไม่ใช่เรื่องผิดนะ เป็นระบบธุรกิจอย่างหนึ่งล่ะ แต่น้ำผึ้งทำไม่เป็น ตอนเด็ก ๆ ที่เข้าวงการฯ อายุเราน้อย ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร ตกลงเราทำอะไร หรือต้องวางตัวอย่างที่ผู้ใหญ่ให้วางตัว แต่พอโตขึ้นมาเราก็รู้ว่าเราไม่ใช่อย่างนั้น มันอึดอัดนะ ที่ต้องเก๊กต้องจำกัดตัวเองตลอดเวลา ห้ามตัวเองทำอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้น้ำผึ้งต้องออกไปหาความจริงบนโลก ต้องไปหาประสบการณ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเรียนรู้เข้าใจตัวเองมากขึ้น”
“น้ำผึ้งระบายเหมือนกันนะ แต่เวลาน้ำผึ้งเก็บกดจะระบายใส่ภาพ เอาสีระบายใส่ภาพโอ้โฮ..เละเทะอะไรอย่างเนี้ย แต่การแสดงไม่เกี่ยวกับชีวิตน้ำผึ้งเลยค่ะ การแสดงเป็นเรื่องของตัวละครตัวนั้น ตัวละครตัวนี้เก็บกดจริง ๆ แล้วเป็นโรคจิต เล่นยากจริง ๆ น้ำผึ้งไม่ได้บอกว่าน้ำผึ้งเก็บกด แล้วเอาโรคจิตมาแสดงในเรื่อง มันไม่ใช่อย่างนั้น”
**จากนี้ไปจะยึดบทแนวนี้ไปเรื่อย ๆ หรือเปล่า
“ไม่ค่ะ เพราะน้ำผึ้งเชื่อว่าการเป็นนักแสดง ต้องเล่นได้ทุกบท ถึงแม้ว่าวันหนึ่งจะเล่นเป็นคนใช้ก็ต้องเล่นคนใช้ให้เป็นคนใช้ มันคือการทำงานให้เป็นอาชีพไปเลย เรื่องหน้าจะเป็นมงกุฎดอกส้ม เสร็จจากนี้น้ำผึ้งก็จะไปถ่ายโฆษณาที่ญี่ปุ่น เป็นเครื่องสำอางยี่ห้อหนึ่งค่ะ”
**ถามตรง ๆ ที่ “น้ำผึ้ง” ลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ ๆ เรียกความฮือฮาจากแฟน ๆ ได้ไม่น้อยทีเดียว สร้างกระแสหรือเปล่า
“สร้างกระแสไม่เป็น แต่การสร้างกระแสมันไม่ใช่เรื่องผิดนะ เป็นระบบธุรกิจอย่างหนึ่งล่ะ แต่น้ำผึ้งทำไม่เป็น ตอนเด็ก ๆ ที่เข้าวงการฯ อายุเราน้อย ไม่รู้ว่าเราเป็นอะไร ตกลงเราทำอะไร หรือต้องวางตัวอย่างที่ผู้ใหญ่ให้วางตัว แต่พอโตขึ้นมาเราก็รู้ว่าเราไม่ใช่อย่างนั้น มันอึดอัดนะ ที่ต้องเก๊กต้องจำกัดตัวเองตลอดเวลา ห้ามตัวเองทำอย่างโน้นอย่างนี้ ทำให้น้ำผึ้งต้องออกไปหาความจริงบนโลก ต้องไปหาประสบการณ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเรียนรู้เข้าใจตัวเองมากขึ้น”
**เอาล่ะ..ขอถามเรื่องความรักบ้าง
คบกับแฟนหนุ่ม “เป้-ธิติวงศ์” มา 6-7 ปีแล้ว
**เมื่อไหร่จะแต่งงานสักที
“ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็อยากจะมีวันนั้นใช่มั้ยคะ สำหรับน้ำผึ้งคิดว่า ตอนนี้ชีวิตตัวเองดีอยู่แล้ว รู้สึกพอใจในชีวิตตัวเอง ก็เลยไม่อยากจะรีบเปลี่ยนวิธีการ เราก็ไม่ชัวร์ว่าถ้าเปลี่ยนวิธีการ มันอาจจะแฮปปี้หรือไม่แฮปปี้ก็ได้”
**แล้วแฟนไม่เร่งเร้าขอแต่งงานเหรอ?
“เป็นคนที่มีความคิดคล้าย ๆ กัน ไม่ใจร้อนน้ำผึ้งรู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามเราแฮปปี้กันอยู่ ถึงแม้ทางสถานภาพจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ จริง ๆ ความสำคัญมันอยู่ที่ใจไม่ใช่เหรอ เราให้ความสำคัญเรื่องใจเป็นหลัก เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราทำงานไปก่อน”
**สรุป ณ เวลานี้ผู้ชายคนนี้ใช่หรือไม่ใช่
“เวลานี้..น้ำผึ้งว่าเค้าใช่ ตรงไหนรู้มั้ยตรงที่เราได้เรียนรู้อะไรดี ๆ จากเค้าทุกวัน เค้าไม่ใช่เป็นแค่แฟน เค้าเป็นเหมือนพี่ชายเป็นเหมือนเพื่อน เหมือน คนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข บางเรื่องน้ำผึ้งคิดไม่ได้ แต่เค้าคิดได้ มันก็เลยเป็นการเกื้อกูล ทางเรื่องสติปัญญา น้ำผึ้งก็ไม่ใช่คนฉลาดนัก ก็ต้องเรียนรู้จากเค้าเพื่อจะได้พัฒนาขึ้น”
จบแล้วจ้า.. เพราะเธอขอเวลาไปแพ็กกระเป๋า เพื่อเตรียมตัวบินไปญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะจ๊ะ.
คนกลาง : เรื่อง / กมล คำแหง : ถ่ายภาพ
คบกับแฟนหนุ่ม “เป้-ธิติวงศ์” มา 6-7 ปีแล้ว
**เมื่อไหร่จะแต่งงานสักที
“ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็อยากจะมีวันนั้นใช่มั้ยคะ สำหรับน้ำผึ้งคิดว่า ตอนนี้ชีวิตตัวเองดีอยู่แล้ว รู้สึกพอใจในชีวิตตัวเอง ก็เลยไม่อยากจะรีบเปลี่ยนวิธีการ เราก็ไม่ชัวร์ว่าถ้าเปลี่ยนวิธีการ มันอาจจะแฮปปี้หรือไม่แฮปปี้ก็ได้”
**แล้วแฟนไม่เร่งเร้าขอแต่งงานเหรอ?
“เป็นคนที่มีความคิดคล้าย ๆ กัน ไม่ใจร้อนน้ำผึ้งรู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามเราแฮปปี้กันอยู่ ถึงแม้ทางสถานภาพจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ จริง ๆ ความสำคัญมันอยู่ที่ใจไม่ใช่เหรอ เราให้ความสำคัญเรื่องใจเป็นหลัก เพราะฉะนั้นช่วงนี้เราทำงานไปก่อน”
**สรุป ณ เวลานี้ผู้ชายคนนี้ใช่หรือไม่ใช่
“เวลานี้..น้ำผึ้งว่าเค้าใช่ ตรงไหนรู้มั้ยตรงที่เราได้เรียนรู้อะไรดี ๆ จากเค้าทุกวัน เค้าไม่ใช่เป็นแค่แฟน เค้าเป็นเหมือนพี่ชายเป็นเหมือนเพื่อน เหมือน คนที่เราอยู่ด้วยแล้วมีความสุข บางเรื่องน้ำผึ้งคิดไม่ได้ แต่เค้าคิดได้ มันก็เลยเป็นการเกื้อกูล ทางเรื่องสติปัญญา น้ำผึ้งก็ไม่ใช่คนฉลาดนัก ก็ต้องเรียนรู้จากเค้าเพื่อจะได้พัฒนาขึ้น”
จบแล้วจ้า.. เพราะเธอขอเวลาไปแพ็กกระเป๋า เพื่อเตรียมตัวบินไปญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะจ๊ะ.
คนกลาง : เรื่อง / กมล คำแหง : ถ่ายภาพ
https://www.facebook.com/teeneedotcom