จากเหตุการณ์พิธีกรดังรายการโทรทัศน์ยอดฮิตของเมืองไทยทำสาวท้องแล้วหายหน้าทำให้ฝ่ายหญิงเครียดจัดเพราะใกล้คลอด ต่อมามีคนโทรศัพท์ไปด่าว่า
ผู้เสียหายอย่างหยาบคายแถมข่มขู่ ทำให้ฝ่ายหญิงเกิดความกลัวและเครียดจัด ขณะเดียวกันผู้ปกครองของผู้เสียหายบอกว่าไม่อยากเปิดเผยตัวเพราะกลัวมีปัญหา แต่อยากให้รับผิดชอบเด็กที่จะเกิดมา
เมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป มีพิธีกรชายหลายคนรวมทั้งพิธีกรที่ก่อเรื่องขึ้น ออกมาปฏิเสธ ขณะที่ภาคสังคม อาทิ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ออกมาฉะผู้ก่อเหตุ ขอให้รับผิดชอบและขอความร่วมมือผู้เกี่ยวข้องให้ไล่ออกนอกวงการบันเทิงนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายวัลลภ ปิยะมโนธรรม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตวิทยา ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ ว่า
สิ่งแรกที่ต้องระวังก็คือ ถ้าผู้เสียหายมีอาการซึมเศร้า ไม่พูดไม่จา เก็บตัว นอนไม่หลับหรือนั่งเหม่อลอย ทั้งหมดเป็นสัญญาณให้รู้ว่าผู้ป่วยมีสิทธิฆ่าตัวตาย
"สิ่งที่จะต้องปฏิบัติเมื่อเกิดปฏิกิริยาข้างต้นก็คือ ให้พ่อแม่ พี่น้อง หรือเพื่อนสนิทที่ผู้เสียหายไว้วางใจ คอยประกบดูแลอย่าให้คลาดสายตา และต้องดำเนินการเพื่อให้ผู้เสียหายมีอำนาจต่อรอง เช่น การไปแจ้งความ เป็นต้น ที่สำคัญพยายามให้อยู่ห่างจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ซึ่งหากไม่ทำเป็นขั้นเป็นตอนแบบที่แนะนำ เชื่อว่าไม่เพียงลูกในท้องมีสิทธิเป็นอันตราย ฝ่ายหญิงมีสิทธิคิดสั้นได้เพียงเวลาแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น" ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตวิทยากล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวที่ติดตามเรื่องนี้ได้ถูกคุกคามจากกลุ่มคนไม่หวังดี โดยส่งข้อความข่มขู่มาเป็นข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส ทางโทรศัพท์มือถือ แต่ผู้สื่อข่าวไม่กลัวยืนยันจะติดตามความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ต่อไป.
https://www.facebook.com/teeneedotcom