เจาะลึกผู้ชายน่ากอด ตุ้ย AF3

ในที่สุดก็ได้นักล่าฝันประจำปีที่สามตามโผที่ทุกคนหมายมั่นปั้นมือเอาไว้

หนุ่มผู้โชคดีคนนั้นก็ คือ ตุ้ย - เกียรติกมล ล่าทา ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย คงจะรู้จัก หนุ่มตุ้ย เป็นอย่างดี เพราะความสามารถ และ น้ำเสียงที่โดดเด่นทำให้เขาชนะใจคนดูทั้งประเทศได้

หลังจากได้รับตำแหน่ง ชีวิตของหนุ่มคนนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

วันนี้เราจะได้รู้กัน นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวต่างๆ หลุดออกมาอีกว่า ตุ้ย แกล้งสร้างภาพเป็นคนจนเพื่อเรียกคะแนนสงสาร รวมไปถึงภาพลับเฉพาะ ตุ้ย กับ แฟนสาว ฯลฯ และ อีกหลายประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ

อินฟราเรด ซูม ขอทำหน้าที่ตีแผ่เรื่องราวของ ตุ้ย ความเป็นมาของหนุ่มคนนี้ อยากรู้จัก ตุ้ย ให้มากกว่าเดิม ต้องรีบอ่านบทสัมภาษณ์โดยด่วน

ย้อนกลับไปวันที่ได้ตำแหน่ง ?

เป็นความรู้สึกที่เหวอในช่วงระยะเวลาตรงนั้น คงไม่เกิน 5 นาที หน้าชา ตื่นเต้นมาก แล้วก็ได้ยินแต่เสียงคนกรี๊ด ๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ได้ยินว่า อาต้อย ( เศรษฐา ) พูดอะไรเลย ตื่นเต้น ดีใจ ตื้นตัน ถ้าผมมองตัวผมเอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ผมควรจะได้หรือเปล่า เพราะผมก็เชื่อว่า ทุกคนเข้ามาก็เก่งกันทุกคน

ไม่งั้นไม่เข้ามาถึงตรงนี้ได้ ซาร่าก็เต้นเก่ง อาจจะร้องไม่เก่ง ผมก็เชื่อว่าทุกคนมีความสามารถ ผมไม่คิดว่าใครเก่งที่สุด ผมอาจจะได้เปรียบกว่าตรงที่มีประสบการณ์บนเวทีมาก่อนนิดๆหน่อยๆ

ภูมิใจกับสัปดาห์สุดท้าย ?

วีคสุดท้ายบอกตรงๆ ว่า ไม่ตื่นเต้น ตอนซ้อมมันอยู่ในอารมณ์ตื้นตัน ผมมองรอบๆ อัฒจันทร์ ผมเห็นคนนั่งเต็มเลยทั้งๆ ที่มันไม่มีคนนั่ง แล้วผมก็คิดย้อนไปว่า ตอนนั้นผมยังไปคัด 50 คนอยู่เลย

มันแว้บเดียว อยู่ๆมันมาถึงตรงนี้ ทำไม มาถึงตรงนี้ได้ยังไง มันภูมิใจตัวเอง มันมาถึงแล้ว มันครั้งสุดท้ายของเราแล้วที่จะได้ขึ้นไปเล่น

พอเป็นคนดังก็มีข่าวเพียบ ให้แก้ข่าวเรื่องคู่เกย์กับ โด่ง ?

อ๋อ ข่าวกับ โด่ง ถาม 100 รอบก็ตอบ100 รอบว่า ไม่ได้เป็น เกย์ แน่นอน ชัวร์ๆ ผมชอบผู้หญิงครับ เหมือนเดิมผมชอบผู้หญิง เหตุผลที่ดูเหมือนลึกซึ้งกับมันจังเลย อาจจะเป็นเพราะว่าผมอยู่ในบ้าน ผมให้ความสนิทกับมันมากที่สุด เพราะว่า อายุใกล้เคียงกัน

แล้วเวลาผมมีปัญหาชีวิต ปัญหาของผมในที่นี้ก็ คือ เวลาอยู่ในบ้านมันเก็บกด มันกดดัน สู้กับตัวเอง คนเคยเจออะไรรอบๆ ตัว เคยใช้โทรศัพท์ เคยดูทีวี เคยฟังวิทยุ แล้วอยู่ๆ เข้าไป คำพูดที่ไม่ควรจะพูด ก็ห้ามพูด หรืออยากจะบ่นขึ้นมา เบื่อเว้ย ก็ห้ามพูด เรารู้ตัวเราเองว่า ถ้าเราพูดมันก็เหมือนเราทำร้ายตัวเอง ทั้งๆที่เราตั้งใจเข้ามาแล้วมันไม่มีใครบังคับนะ

พอมันเครียดปุ๊บ ผมก็ไม่ชอบระบายกับใคร พอมาถึงจุดๆ นึง จะให้ผมระบายกับน้องซาร่าเหรอ หรือมิ้นท์ ผมก็ต้องไประบายกับคนใกล้ตัว แล้วบวกกับว่าที่เก็บของใกล้กัน คือ ได้คุยกับมันมากที่สุด ผมร้องไห้กอดมันก็จบ มันก็ปลอบผมได้ มันร้องไห้ ผมก็ปลอบมันได้

สนิทกับ โด่ง มากที่สุดในบ้าน ?

ใช่ครับ แต่ละภาพที่ผมเห็นตอนออกมา ก็ คือมันเป็นภาพที่ช่วงเวลาไม่กี่วินาที แต่เขาเอามาตัดต่อกัน เอารูปนั้นมาต่อ รูปนี้มาต่อ จนกลายเป็นคู่รักกันเลย

เปิดใจเรื่องแฟน ?

เรื่องแฟนขอตอบว่า เคยมีแล้วกันครับ ตอนนี้งานเยอะ และด้วยสิ่งแวดล้อม ผมเรียนจบแล้ว บวชแล้ว ถ้าผมจะมีคนคุยด้วย ดูใจ แปลกมั้ยครับ ไม่แปลก ถ้าผมบอกว่า ผมไม่มีแฟน พี่ๆ เชื่อมั้ยครับ ไม่เชื่อ โธ่พี่ ชีวิตผมโลดโผนมาตั้งแต่อายุเท่าไหร่ แล้วเป็นชีวิตกลางคืนอีก มันเป็นธรรมดาที่จะต้องมี ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียวที่ลงหนังสือพิมพ์หรา แน่จริงไปถ่ายมาให้ครบซิ


คือ ดูไปเรื่อยๆ ครับ เพราะตอนนี้คงยังไม่ถึงเวลาที่จะมาดูใจใครซักคน แล้วมานั่งแต่งงาน เพราะผมอยากให้แม่สบายก่อน อย่างที่ผมลั่นไว้บนเวทีว่า ผมอยากจะทำงาน แล้วก็มีเงินให้เขาหยุด ให้เขาหยุดตรงนี้ทั้งพ่อทั้งแม่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้แล้ว เพราะตอนนี้ผมก็ 23 แล้ว เขาส่งผมจนจบ ผมทำให้เขาเสียใจมาตั้งหลายอย่าง ผมก็อยากให้เขาสบายใจกับลูกชายคนเดียวคนนี้ได้แล้ว

ภาพหลุดที่ตกเป็นข่าว ?

ผมไม่ซีเรียสกับข่าวที้มันเกิดขึ้น โดยเฉพาะกับรูปผู้หญิง เช้ามามีตกใจนิดนึง อุ้ย ไปเอามาจากไหน ซึ่งมันเป็นไม่ได้เลยว่า รูปมันจะหลุดออกไป จะให้ผมเล่าเหรอ ก็ประมาณว่ามีพี่ๆจากหนังสือเขาไปถ่าย แล้วพ่อผมอยู่บ้านคนเดียวหรืออยู่กับแม่นี่แหละ ผมไม่แน่ใจ ไปถึงบ้านแล้วเหมือนกับว่าจู่โจมเลย ผมก็ไม่รู้ตัวเช่นกันว่ามันจะเป็นแบบนี้ เข้าไปถ่ายในบ้านผม ซึ่งน่าจะคุยกันก่อน พ่อแม่ น่าจะบอกผมก่อน


แล้วผมจะได้ปรึกษาพี่ๆทีมงาน พี่ก็จะได้บอกว่า ควรจะทำอย่าง ถูกมั้ยครับ มันน่าจะเป็นบันไดขึ้นไป แต่นี่พี่เขาขึ้นลิฟท์ขึ้นไปเลย ผมก็ไม่ทัน เช้ามาก็รูปผมโร่เลย คือ พี่เขาคงจะถ่ายในบ้านครบถ้วน แล้วก็ไปเจอในห้องนอน แล้วก็ไปเจอตรงกำแพงบ้านชั้นล่าง ได้ทั้งรูปที่ผมรับปริญญา แล้วก็มีผู้หญิงคนนี้ยืนอยู่ด้วย แล้วรูปถ่ายคู่กัน ผมบนหัวยังเตียนอยู่เลย มันนานแล้ว

แสดงว่ากับผู้หญิงคนนี้ คบกันมานานแล้ว ?

ก็เรื่อยๆ คุยบ้าง เลิกคุยบ้าง มันเป็นแบบนี้จริงๆ นี่ไม่ได้ตอบเพื่อจะเลี่ยงนะ แต่มันเป็นความจริง เพราะว่า ตอนนี้ออกจากบ้านยิ่งไม่มีเวลาใหญ่เลย ตั้งแต่ผมเข้าบ้าน ก็ไม่ได้ติดต่อใครอยู่แล้ว 2 เดือนครึ่ง รวมก่อนเข้าบ้านอีก 2 เดือนครึ่ง แทบไม่มีเวลาให้ผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง

เมื่อก่อนร้องเพลงกลางคืน สาวๆ เพียบ ?

จริงๆ ที่ผ่านมาผมร้องเพลง สาวก็ชอบใจ ลงไปผมก็ไปทักทายตอนเราร้องเสร็จ ก็รู้จักกัน เขาก็ติด มาดูทุกอาทิตย์ จะให้ผมเข้าไปจีบ ชื่ออะไร มีเบอร์โทรศัพท์มั้ย ผมไม่เป็นเลยครับแบบนั้น ส่วนใหญ่อยู่เฉยๆ ครับ ถ้าจะให้เลิกเจ้าชู้ก็ต้องแต่งงาน ตอนนี้ 23 ขอเวลาทำงานอีก 5 ปี ถ้ามีเงินเก็บซัก 10 ล้าน คงจะพาแม่ไปเที่ยว

อยากจะเปิดบ้านให้ดูกรุสมบัติ ?

ถ้าเกิดว่า อนาคตผมพอจะมีเวลา ผมอยากจะเปิดโอกาสให้เข้าบ้าน ไปดูทรัพย์สมบัติในบ้าน ผมจะไปเปิดทองให้ดูว่า มันมีไม่เยอะจริง ๆ บ้านผมไม่ได้รวยจริงๆ ครับ ที่เห็นแม่ใส่ทองมาดูผม แหม มันก็ต้องมีบ้าง จะให้แบบมะรอมมะร่อเลย มันก็เป็นไปไม่ได้ รถลูกชายก็มี มันอาจจะไม่หรู เนี่ย ผมก็ขับมา อยู่ข้างล่าง



รถคันนี้ที่ได้มา ก็ คือด้วยความรั้น ตอนนั้นเพิ่งร้องเพลงใหม่ ๆ มันก็ต้องใช้ มันต้องเดินทางจากร้านโน้นไปร้านนี้ แล้วรั้นด้วย รีบ ถ้าเกิดว่า ใจเย็นๆ หน่อยก็อาจจะมีเงินเก็บไปออกรถมือหนึ่งแล้วมานั่งผ่อน สบายใจกว่า นี่กลายเป็นเหมือนซวยซ้ำซวยซาก ออกมาก็ซ่อมๆๆๆ ก็มันเป็นมือสอง จนแม่ต้องไปเปลี่ยนเครื่องมาใหม่ รถคันนี้แสนสี่ แสนห้า นี่ปาเข้าไปสองแสนสามแสนแล้วครับ ผมเข้าอู่เป็นว่าเล่น ด้วยความดื้อ

มีเงินเหลือเยอะเมื่อไหร่ จะซื้อเพชรให้แม่ใส่ ?

ถ้าอนาคตผมมี พี่ก็ดูแล้วกัน เพราะว่าแม่ผมชอบอย่างนี้ เพราะตอนไปฮ่องกงก็มีโอกาสซื้อสร้อย 3 กษัตริย์ให้เขา เขาขอบเครื่องประดับ สมัยก่อนเวลาไปห้าง เขาจะชอบเลี้ยวไปเดินดูร้านทอง ซื้อไม่ซื้อก็ขอฉันไปดูไว้ก่อน

ตุ้ย ให้สัญญา ดังแล้วไม่ลืมตัว ?

ผมโดนถามอย่างนี้หลายครั้ง พี่ๆ ดูผมไปแล้วกัน เพราะผมไม่อยากตอบอะไรเยอะ ผมก็โดนตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าบ้านแล้ว ดังแล้วจะลืมตัวมั้ย ก็ดูกันไปแล้วกัน เพราะผมเป็นของผมอย่างนี้ ผมอยู่บ้านผมก็ไม่เฟค ผมกตัญญูผมก็ไม่อยากบอกใคร แต่ผมต้องบอก เพราะว่ามันกำลังจะเป็นคนที่มีคนรู้จักแล้ว พ่อผมทำรองเท้าผมก็ต้องบอก ทุกสิ่งทุกอย่างผมต้องบอก อันนี้ก็เหมือนกัน


ผมบอกตรงๆ ผมอยากได้ทำงานมากกว่า และที่สำคัญทำงานที่ผมชอบ คือ ฝันที่ผมล่าอยู่ ตอนนี้มันคือจุดเริ่มต้นเท่านั้นกับการได้ที่ 1 ซึ่งตำแหน่งมันไม่สำคัญเท่ากับการได้เข้าไปสู้กับตัวเอง 10 อาทิตย์ มันสุดยอดที่สุดแล้ว

วางแผนอนาคตในวงการบันเทิง ?

ทำงานที่เรารัก ที่เราชอบ อาจจะไม่ต้องถึงขนาดต้องออกเทป หรือดังแบบ พี่เบิร์ด ( ธงไชย ) ก็ได้ ไม่ต้องถึงขนาดนั้น ไม่ต้องดังแบบพลุแตก ขอให้ทำงานอะไรก็ตามที่มันอยู่ในวงการบันเทิง ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาส ผมก็จะรับไว้หมด ขอแค่หยิบยื่นให้ผม เพราะที่ผมทำมาร้อยแปดพันเก้า ผมคิดว่า คงไม่มีงานอะไรที่หนักไปกว่าสิ่งที่ผมทำมาแล้ว จริงๆ นะ ผมทำอะไรมาเยอะ ถ้าเผื่อผมคิดย้อนไปกว่าผมจะมานั่งให้สัมภาษณ์ มันเหนื่อยนะ ทุกอย่างมันต้องด้วยตัวเราเองจริงๆ เหนี่อยมาก มาถึงตรงนี้ได้เลยภูมิใจ ก็อยากจะรักษามันไว้นานๆ