ยุ้ย ขอคืนวงการนางแบบอีกครั้ง ยันเลิกอัพยาอยากหาเงินช่วยแม่

สูงสุดสู่สามัญ นางแบบอินเตอร์ "ยุ้ย" รจนา เพชรกันหา เคยได้ค่าตัวปีละ 50 ล้านบาท ตกอับเช่าบ้านอยู่กับแม่เปิดร้านเสริมสวยเล็กๆ

พาร่างอวบอัดกว่าเดิมให้สัมภาษณ์ "บันเทิง คม ชัด ลึก" ถึงชีวิตที่เงียบหายไปกว่า 3 ปี วอนขอคืนวงการอีกครั้ง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว พร้อมสาบานเลิกเสพยาเด็ดขาด

คงยังจำกันได้นางแบบสาวโกอินเตอร์ที่โด่งดังที่สุดของไทย "ยุ้ย" รจนา ที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างแดน

แต่นั่นยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายเท่ากับข่าวใหญ่ที่เกิดเมื่อครั้งที่เธอกลับมาใช้ชีวิตในบ้านเกิด ตั้งแต่ข่าวอัพยาจนหมดสภาพ ข่าวกินเหล้าและตีแม่จนขึ้นโรงขึ้นศาล ทว่าหลังจากนั้นข่าวคราวของเธอก็ค่อยๆ เงียบหาย

จนกระทั่งวันนี้ เธอปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมแม่ และยินดีบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง

"ช่วง 3 ปีที่แล้ว ที่หายไปเพราะเบื่อวงการ มันไม่มีอะไรดีขึ้น คือไม่ค่อยมีงานด้วย อยากไปหาที่สงบเงียบๆ อยู่กับแม่ ตอนนั้นยังอยู่กรุงเทพฯ ช่วยแม่ทำงานร้านเสริมสวยเล็กๆ กลับไปอุบลฯ บ้าง ไปเที่ยวพักผ่อน ตอนนั้นชีวิตไม่ถือว่าลำบาก แต่ก็ไม่สบาย ยุ้ยก็ช่วยแม่สระผมให้ลูกค้า ไดร์ผม นวดหน้า อยู่อย่างประหยัด สมถะ ก็พออยู่ได้" ยุ้ย เล่าเสียงราบเรียบ

ยุ้ย รจนา เพชรกันหา

ใบหน้าเต็มอิ่มของยุ้ย ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนที่ดูเรียบง่าย นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงธรรมดาๆ ตรงหน้า จะเคยถ่ายภาพขึ้นปกนิตยสารอันดับหนึ่งอย่าง "โว้ค" ประเทศสิงคโปร์

รวมทั้งนิตยสารผู้หญิง-แฟชั่นต่างประเทศ ในเวลาไล่เลี่ยกันคราวละ 7-8 ปกต่อเดือน เธอคนนี้ยังเป็นนางแบบขายดีในอิตาลี ฝรั่งเศส เซาท์แอฟริกา ฯลฯ รวมทั้งเป็นนางแบบให้กับผลิตภัณฑ์ชั้นนำอย่าง ชาเนล อีกด้วย

การหันหลังให้วงการตั้งแต่วันนั้น ยุ้ยบอกว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีงานติดต่อเข้ามาด้วย หลังจากมีข่าวว่าเธอติดยา

แต่ยุ้ยและแม่ยืนยันว่าตอนนี้เลิกเด็ดขาดแล้ว เพียงแต่ยังต้องไปหาหมอเป็นประจำทุกเดือน เพื่อรักษาให้หายขาดจริงๆ

"ตอนนี้ดีขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จริงหายแล้ว แต่หมอให้กินยาจนกว่าจะบอกให้พอ ยังสูบบุหรี่บ้างนิดหน่อย แต่ก็ออกกำลังกาย ไปวิ่ง กระโดดเชือกที่สวนหลวง ร.9 ประจำ เหงื่อออกเยอะเลย แต่ก็ทำให้สดชื่นขึ้น ผอมลงด้วย ก่อนหน้านี้ยุ้ยอ้วนมาก เคยหนักถึง 64 กิโล ตอนนี้เหลือ 57 กิโลแล้ว กะจะลดให้ได้อีก 7 กิโล ถึงจะกำลังดี" อดีตนางแบบสาว กล่าวยิ้มๆ

เจ้าของความสูง 172 เซนติเมตร และเคยมีน้ำหนักตัวแค่ 49 กิโลกรัม บอกถึงรูปร่างที่ออกมาจะมากเกินขนาดของตัวเอง ถามถึงสาเหตุที่อยากกลับคืนแคทวอล์คอีกครั้ง เธอบอกว่า

"ยุ้ยคิดว่ายังทำงานวงการนี้ได้ คือหนูอยากหาเงินมาเลี้ยงแม่ อยากมีรายได้ ตอนนี้หนูไม่มีงานประจำ คิดว่าตัวเองก็ยังมีโอกาส อยากมาถ่ายแบบเดินแบบ งานอะไรก็ได้ถ้ามีคนสนใจเรา" ยุ้ย เปิดอก ก่อนจะบอกความรู้สึกต่อว่า

"ชีวิตของหนูที่ผ่านมา มีทั้งดี ทั้งเลวร้าย ที่ผิดพลาด หนูคิดว่าพอแล้ว ที่เคยขัดใจ หรือมีเรื่องทะเลาะ ตีกับแม่จนมีข่าวครึกโครม หนูคิดว่าพอแล้ว หนูปรับตัวเอง พยายามที่จะเป็นคนดีขึ้นมา เชื่อฟังพ่อแม่ ที่ผ่านมาหนูไม่ฟังพ่อแม่ ชีวิตหนูถึงล้มเหลว"

แม่จันทร์ดี ทองมี ที่นั่งข้างๆ เสริมว่า เป็นเพราะคบเพื่อนด้วย ช่วงมีเงินเพื่อนมาหาเยอะ แต่ตอนนี้ไม่มีใครเลย

"ช่วงที่เราไม่มีใครก็ไม่มีใครจริงๆ ถึงเราจะโกรธแม่ โมโหแม่ สุดท้ายก็มีแต่แม่ ที่คอยมาดูแลเรา ก็คิดว่าปลงแล้ว เห็นสัจธรรมชีวิตเลย" ยุ้ย กล่าวอย่างเข้าใจ

ถามถึงแฟน ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเธอคบหาฝรั่งสูงวัยชาวออสเตรเลีย และต่อมาเสียชีวิต ยุ้ย กล่าวยืนยันว่าคนนั้นไม่ใช่แฟน แต่เป็นผู้มีพระคุณกับเธอและแม่

"ยุ้ยยังไม่มีแฟน มีแต่คุณเรย์มอน เป็นเพื่อนที่ดีมาก คอยช่วยเหลือโดยที่ไม่หวังผลตอบแทน เขาเป็นเพื่อนกับผู้จัดการเก่าหนู เขาเป็นคนจิตใจดี คนมองว่าเขาแก่ มองหนูว่าเดินกับฝรั่งแก่ๆ เหมือนเมียเช่า เมียเก็บ

แต่คุณเรย์มอน เป็นดนคี ทำบริษัทอิมพอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต ตอนหลังมาทำบริษัทโทรศัพท์ ชื่อยูซีมี ตัวเขาเองไม่มีใครด้วย เป็นโรคหัวใจ ผ่าหัวใจครั้งที่ 3 ก็เลยเสีย เขาพาหนูไปรักษาตัวโรงพยาบาล พอเขาเสีย หนูเคว้งมาก มีแต่แม่และพี่เชอร์รี่ที่อยู่ข้างบ้าน" ยุ้ย กล่าว

อดีตซูเปอร์โมเดล ออฟ ไทยแลนด์ กล่าวต่อว่า ถึงอย่างไร ชีวิตก็ต้องเดินไปข้างหน้า แม้รายได้จะไม่เท่ากับเมื่อคราวที่เคยเดินแบบที่ได้อย่างน้อยที่สุดครั้งละ 2 หมื่นบาท ก็ตาม

"ตอนนี้คิดว่าหนูพอจะทำงานได้ อายุย่าง 31 แล้ว ยังมีใจรักอาชีพนี้ เรามาคิดได้หลายอย่าง อยากช่วยแม่ด้วย จะได้มีรายได้ช่วยแม่ สัญญาว่าไม่กลับไปยุ่งเรื่องยาอีก" นางแบบสาวให้คำมั่น