สิเรียมแจงสนิทพายัพแต่ไม่คลิก


        ม่ายสาวพราวเสน่ห์ "สิเรียม" เผย เสียใจเป็นข่าวชู้สาวกับ"พายัพ"รับคุยเรื่องธุรกิจ-ชอบทำบุญ ย้ำสนิทแต่ไม่ "คลิก" ปัดบินสวีทที่ดูไบ ฉุนนักข่าวถาม "เขามาจีบหรือไม่"


        หลังตกเป็นข่าวว่ามีความสัมพันธ์กับ นายพายัพ ชินวัตร น้องชายอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร อยู่พักใหญ่ แต่นางวิริญจน์ กิ๊บสัน หรือ สิเรียม ภักดีดำรงค์ฤทธิ์ ม่ายสาวพราวเสน่ห์ ยังไม่ยอมไขข้อสงสัยของสังคมแต่อย่างใด กระทั่งล่าสุดในงานแถลงข่าวของโรงพยาบาลพญาไท "40+ Working ทุ่มเทได้แต่อย่าละเลย" ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม อดีตนางเอกชื่อดังยอมเปิดใจให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก


        สิเรียมกล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อข่าวที่เกิดขึ้น เพราะเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพ สถานะหรือการรู้จักคบหา พอเริ่มทำธุรกิจ ก็ต้องเปลี่ยนไป


        "ไม่ได้คบเฉพาะคนรุ่นเราอย่างเดียว แอนต้องโตไปตามวัย ดังนั้นสังคมที่เรารู้จักไม่ได้เป็นนักแสดงอย่างเดียว เราเป็นนักธุรกิจด้วย บางทีเราทำหรือคุยอะไรเป็นเรื่องปกติ เพราะคุณพายัพก็เป็นนักธุรกิจ แต่เราไม่สามารถห้ามความคิดคนได้" สิเรียมพยายามอธิบาย


        ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพายัพมีทีท่าเข้ามาจีบหรือไม่ สิเรียมตอบเลี่ยงๆ ว่า ปกติคำถามแบบนี้ดูเหมือนไม่ให้เกียรติกัน เพราะอีกฝ่ายอายุมากกว่าตนเยอะ ทั้งนี้ไม่ได้มองว่าใครคิดอย่างไร เพราะห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่รู้ใจตัวเองมากกว่า เพราะถือว่าตัวเองโตพอที่จะทำธุรกิจกับใครก็ได้ เป็นสิทธิอันชอบธรรม และมองว่าบริษัทมีการพัฒนาตัวเอง


        "ระดับความสนิทก็ปกติ เท่ากันกับทุกคนสำหรับการทำธุรกิจ ความพิเศษในแง่ถูกคอ เพราะเป็นคนชอบทำบุญเหมือนกัน สนทนาธรรมแล้วมีความเห็นตรงกัน แต่ใช้คำว่าคลิกไม่ได้ แต่เรื่องที่จะคิดเป็นทางอื่น มันไม่ใช่ เป็นการได้รับความเมตตามากกว่า เรื่องเชิงชู้สาว จริงๆ แล้วแอนไม่โกรธ แอนแค่รู้สึกเสียใจ เพราะลูกแอน ("นนนี่" นนลนีย์ โอแกน) อยู่ในวัยกำลังโต บางทีมีอะไรมากระทบจิตใจเรากับลูก เพราะสื่อมวลชนเองก็ไม่ได้ติดต่อสัมภาษณ์เราเป็นจริงเป็นจัง อย่างวันนี้เราต้องเดินทางต่อ ถ้าบอกขอสัมภาษณ์เราให้สัมภาษณ์ เพราะเราไม่ใช่คนที่ติดต่อยาก" สิเรียมยืนยัน


        ส่วนข่าวที่บอกว่าจะลาออกจากวงการบันเทิงนั้น สิเรียมบอกว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าสร้างกระแส คิดว่าช่วงเวลานี้ อยากทำอะไรที่ชัดเจน เพราะทำงานในวงการมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนนี้อายุจะ 40 แล้ว ข่าวไม่มีผลกระทบ เพราะตนเป็นคนที่ยอมรับในสิ่งที่กระทบใจ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่แคร์ลูกมากกว่า


        "เรื่องข่าวที่เชียงใหม่ ที่บอกว่าใช้เส้นคุณพายัพเข้าไปอุ้มแพนด้า น่าจะจบไปได้แล้ว เพราะลูกสาวเฮิร์ตมาก น้องเขารู้สึกว่าข่าวไม่เป็นความจริง เขาอยู่ในช่วงวัยรุ่น ดังนั้นวุฒิภาวะทางอารมณ์ก็ไม่ได้เสถียรเท่าเรา กับแอนก็เฉยๆ เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญกับข่าว แต่ก็บอกกับลูกว่า นี่คือสิ่งที่ลูกเห็น ให้เรียนรู้และค่อยๆ ยอมรับกับมัน ตามยุค สมัย และการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้แอนก็ปรับเข้าหาลูกมากขึ้น ตอนเห็นข่าว เห็นบนเครื่องบิน ตอนขากลับมากรุงเทพฯ พอดี ลูกก็งง ลูกเราก็รู้สึกว่าไม่แฟร์ ทำไมเขียนข่าวแบบนี้ แถมมีข่าวด้วยว่าคนเชียงใหม่ที่ซื้อบัตรดูแพนด้าต่อต้าน ขอคืนบัตร แอนรู้สึกเสียใจ เพราะไม่มีข่าวแบบนั้นแน่นอน เพราะว่าไม่ได้ยินเสียงต่อต้านแบบนั้นเลย มีแต่คนมาขอถ่ายรูปกับแอน จริงๆ แล้วเรารู้จักเป็นการส่วนตัวกับคนข้างใน เพราะเขาเป็นคนจังหวัดเดียวกับเรา แต่ไม่ใช่คุณพายัพ และแอนเข้าไปแค่ 5 นาทีแค่นั้นเอง ไม่ใช่ครึ่งชั่วโมง" สิเรียมอธิบาย


        เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เดินทางไปดูไบกับนายพายัพจริงหรือไม่ สิเรียมกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง การที่เดินทางไปประเทศดังกล่าว เพื่อต้องการดูลู่ทางทำมาหากิน คือการขยายธุรกิจไปที่นั่น และการเดินทางไปต่างแดนถือว่าเป็นเรื่องสมควร


        "การที่เราไปต่างประเทศไม่ได้ต้องการเปิดสปา แต่ต้องการเป็นผู้ผลิตสินค้าซาลอนในประเทศนั้นๆ ไม่ใช่ในอาหรับอย่างเดียว เพราะตอนนี้สิเรียม บิวตี้ มีหุ้นส่วน และผู้ถือหุ้นด้วย ทำให้เราต้องขยายสายงานออกไปต่างประเทศ เพราะการที่เราผลิตสินค้าจากประเทศนั้นๆ โดยเอาวัตถุดิบของเขา แต่เป็นแบรนด์เราก็เป็นเรื่องดี เป็นความภาคภูมิใจ" สิเรียมกล่าว


        ขณะที่นายพายัพให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงตัดพ้อว่า "ผมไม่อยากพูด เดี๋ยวเขา (สิเรียม) จะเสียหายไปมากกว่านี้ อย่างที่เป็นข่าวไปแล้ว"


สิเรียมแจงสนิทพายัพแต่ไม่คลิก


สิเรียมแจงสนิทพายัพแต่ไม่คลิก


สิเรียมแจงสนิทพายัพแต่ไม่คลิก


สิเรียมแจงสนิทพายัพแต่ไม่คลิก


สิเรียมแจงสนิทพายัพแต่ไม่คลิก


สิเรียมแจงสนิทพายัพแต่ไม่คลิก

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์