เพราะเป็นฉากที่ตัวละคร “เชอรี่” (ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ) กับ “นุ่น”(จรินทร์พร จุนเกียรติ) ไปเจอเพื่อนซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทยสมัยเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งฉากนี้ต่ายจะต้องหลั่งน้ำตาแต่ในวันแรกของการถ่ายทำกลับร้องไห้ไม่ออก ผู้กำกับเลยสั่งยกเลิกการถ่ายทำเล่นเอาต่ายต้องขอโทษทีมงานที่เล่นฉากนี้ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้วันที่สองจึงต้อง ปักหลักถ่ายทำกันใหม่ ซึ่งวันนี้ต่ายเตรียมพร้อมเต็มที่แต่ก็ยังร้องไห้ไม่ออกอยู่ดี เลยต้องใช้วิธีโทรฯ คุยกับคุณแม่และคุณพ่อ พร้อมนึกถึงเรื่องที่ตัวเองเคยทำให้คุณแม่เสียใจสมัยเป็นเด็ก เท่านั้นเองน้ำตาจึงไหลพราก เลยได้ภาพตามที่ผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ต้องการโดย
ต่าย สารภาพฉากร้องไห้ สุดหิน
ถือเป็นฉากที่ ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ ยอมรับว่า “ยากสุด” ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “หนีตามกาลิเลโอ”
เพราะเป็นฉากที่ตัวละคร “เชอรี่” (ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ) กับ “นุ่น”(จรินทร์พร จุนเกียรติ) ไปเจอเพื่อนซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทยสมัยเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งฉากนี้ต่ายจะต้องหลั่งน้ำตาแต่ในวันแรกของการถ่ายทำกลับร้องไห้ไม่ออก ผู้กำกับเลยสั่งยกเลิกการถ่ายทำเล่นเอาต่ายต้องขอโทษทีมงานที่เล่นฉากนี้ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้วันที่สองจึงต้อง ปักหลักถ่ายทำกันใหม่ ซึ่งวันนี้ต่ายเตรียมพร้อมเต็มที่แต่ก็ยังร้องไห้ไม่ออกอยู่ดี เลยต้องใช้วิธีโทรฯ คุยกับคุณแม่และคุณพ่อ พร้อมนึกถึงเรื่องที่ตัวเองเคยทำให้คุณแม่เสียใจสมัยเป็นเด็ก เท่านั้นเองน้ำตาจึงไหลพราก เลยได้ภาพตามที่ผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ต้องการโดย
เพราะเป็นฉากที่ตัวละคร “เชอรี่” (ต่าย-ชุติมา ทีปะนาถ) กับ “นุ่น”(จรินทร์พร จุนเกียรติ) ไปเจอเพื่อนซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทยสมัยเรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส ซึ่งฉากนี้ต่ายจะต้องหลั่งน้ำตาแต่ในวันแรกของการถ่ายทำกลับร้องไห้ไม่ออก ผู้กำกับเลยสั่งยกเลิกการถ่ายทำเล่นเอาต่ายต้องขอโทษทีมงานที่เล่นฉากนี้ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้วันที่สองจึงต้อง ปักหลักถ่ายทำกันใหม่ ซึ่งวันนี้ต่ายเตรียมพร้อมเต็มที่แต่ก็ยังร้องไห้ไม่ออกอยู่ดี เลยต้องใช้วิธีโทรฯ คุยกับคุณแม่และคุณพ่อ พร้อมนึกถึงเรื่องที่ตัวเองเคยทำให้คุณแม่เสียใจสมัยเป็นเด็ก เท่านั้นเองน้ำตาจึงไหลพราก เลยได้ภาพตามที่ผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ต้องการโดย
ต่าย-ชุติมา เผยถึงการถ่ายทำฉากนี้ว่า
“ฉากโทรฯ หาพ่อแล้วร้องไห้เป็นฉากที่ยากมากสำหรับต่าย เพราะปกติจะเป็นคนที่ร้องไห้ยาก แม้จะพยายามทำอารมณ์ยังไงน้ำตามันไม่ยอมไหลเลย อีกทั้งอากาศที่นั่นหนาวมากและบริเวณนอกร้านอาหารที่ถ่ายฉากนี้เสียงก็ดัง พี่ต้นเลยตัดสินใจเลิกถ่ายทำไปก่อนในวันแรก ทำให้ต่ายเสียใจมากที่ทำไม่ได้ วันที่สองจึงขอแก้ตัวด้วยการทำความเข้าใจกับบทเลยทำให้เครียดมาก
จึงคิดถึงคุณแม่เลยโทรฯ ไปหาคุณแม่เพื่อขอกำลังใจ
คุณแม่ก็บอกไม่เป็นไรต่ายต้องทำได้เลยเกิดความรู้สึกว่าแม่เราเข้าใจเราที่สุด จึงขอโทษคุณแม่ถึงสิ่งที่เคยทำให้คุณแม่เสียใจตอนเป็นเด็ก ซึ่งพอคิดถึงเรื่องนี้น้ำตากำลังจะไหลแล้วพี่ต้นรีบสั่งถ่ายทันทีเหมือนรู้จังหวะ พอเข้าซีนก็โทรฯ คุยกับคุณพ่ออีกวางสายน้ำตามันก็ไหลพรากลงมาเลย เป็นซีนที่พี่ต้นยกให้ว่าเป็นซีน 5 ดาวของต่าย เพราะมันเศร้าทั้งในจอและนอกจอเลยค่ะ อยากรู้ว่าหนังน่ารักสนุกประทับใจและซึ้งขนาดไหนติดตามชมได้ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ”.
“ฉากโทรฯ หาพ่อแล้วร้องไห้เป็นฉากที่ยากมากสำหรับต่าย เพราะปกติจะเป็นคนที่ร้องไห้ยาก แม้จะพยายามทำอารมณ์ยังไงน้ำตามันไม่ยอมไหลเลย อีกทั้งอากาศที่นั่นหนาวมากและบริเวณนอกร้านอาหารที่ถ่ายฉากนี้เสียงก็ดัง พี่ต้นเลยตัดสินใจเลิกถ่ายทำไปก่อนในวันแรก ทำให้ต่ายเสียใจมากที่ทำไม่ได้ วันที่สองจึงขอแก้ตัวด้วยการทำความเข้าใจกับบทเลยทำให้เครียดมาก
จึงคิดถึงคุณแม่เลยโทรฯ ไปหาคุณแม่เพื่อขอกำลังใจ
คุณแม่ก็บอกไม่เป็นไรต่ายต้องทำได้เลยเกิดความรู้สึกว่าแม่เราเข้าใจเราที่สุด จึงขอโทษคุณแม่ถึงสิ่งที่เคยทำให้คุณแม่เสียใจตอนเป็นเด็ก ซึ่งพอคิดถึงเรื่องนี้น้ำตากำลังจะไหลแล้วพี่ต้นรีบสั่งถ่ายทันทีเหมือนรู้จังหวะ พอเข้าซีนก็โทรฯ คุยกับคุณพ่ออีกวางสายน้ำตามันก็ไหลพรากลงมาเลย เป็นซีนที่พี่ต้นยกให้ว่าเป็นซีน 5 ดาวของต่าย เพราะมันเศร้าทั้งในจอและนอกจอเลยค่ะ อยากรู้ว่าหนังน่ารักสนุกประทับใจและซึ้งขนาดไหนติดตามชมได้ทุกโรงภาพยนตร์นะคะ”.
https://www.facebook.com/teeneedotcom