ชีวิตจริงไม่อิงนิยาย แต่เรียบง่ายสไตล์ แตงโม

เติบโตมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่ต้องแยกทางกัน ทว่านางเอกชื่อดัง "แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง

โดยมีคุณพ่อเป็นแรงบันดาลใจ แม้ว่าเธอจะเอ่ยปากอย่างมั่นอกมั่นใจ ว่าหัวใจของเธอนั้นเข้มแข็งพอ แต่มองลงไปลึกๆ แล้ว ก็แลเห็นความอ่อนแอไม่น้อยเช่นกัน  ลองมาค้นหาตัวตนของเธอ โดยเฉพาะเรื่องราวข่าวค(ร)าว และเรื่องหัวใจในวันที่ไร้หนุ่มที่ชื่อ "ก้อง" กรุณ ซอโสตถิกุล กันเลย...



เรื่องงานในวงการบันเทิง
งานชุกเหลือเกิน

 ไม่ถึงกับมะรุมมะตุ้มหรอก ตอนนี้มีละคร 1 เรื่อง คือ "รักแท้แก้ได้" เรื่องเดียวก็กำลังดี เวลาที่เหลือจากนั้น เราก็รับงานอื่นๆ จิปาถะ ถือว่าเป็นแพลนที่ตั้งใจไว้ คือเคยลองมาทุกแบบแล้ว 2 เรื่องซ้อน 3 เรื่องซ้อน 4 เรื่องซ้อน แทบตาย (ถอนหายใจ) เรารู้สึกว่าเราไม่มีเวลาส่วนตัว ถ้าละครซ้อนจะมีปัญหาเรื่องคิว ตัวเราเองก็จะแย่ด้วย งานที่ออกมาก็จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์

ทำงานหนักแบบนี้เห็นบอกว่าเคยวูบมาแล้วด้วย
 เคยมีบ้าง แต่เรารู้ตัวเอง ก็เลยไม่อยากเอาตัวเองไปเป็นปัญหากับใคร  ถ้าไม่สบาย ก็ไปทำความลำบากให้คนอื่น ที่เขาถ่ายอยู่ ต้องมีปัญหาเรื่องคิวเพราะเราอีก ฉะนั้นเราดูแลตัวเองให้ดีดีกว่า

กับคำว่า "นางเอก" สำหรับแตงโมรู้สึกอย่างไร
 โมเฉยๆ มากกว่า โมไม่ไปคาดหวังว่าดีที่สุด จะต้องเพอร์เฟกท์ เพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เราก็ถนัดแค่บางบท ถ้าบทไหนไม่ถนัด เราก็พยายามเต็มที่ ณ ตอนนี้โมยังไม่สามารถสอบผ่าน ในเรื่องการแสดงได้ดี โมเคยทำได้ดีกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะตอนเด็กๆ อาจจะสุขภาพดีกว่านี้ ตอนนี้สุขภาพเราก็ไม่ค่อยจะดี อาจจะกังวลเรื่องอื่นๆ เพราะตอนเด็กเราไม่มีภาระเยอะเท่าไหร่ โมเป็นคนคิดมาก เป็นคนคิดอะไรตลอดเวลา แล้วคิดวนๆ ฉะนั้นสมาธิจะไม่ดี  จะเอาทุกเรื่องมาคิดรวมกันในเวลาเดียว แล้วคิดตลอดทั้งวัน แทนที่เราจะทำงานละครได้เต็มที่ แต่มัวไปคิดเรื่องภาระ เรื่องครอบครัว เรื่องอนาคต



แสดงว่าเป็นคนคิดมาก
 เป็นคนที่อยากจะทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด ปล่อยวางไม่ค่อยจะเป็น คือแทนที่จะแก้ไปทีละเรื่อง แต่เอาทุกอย่างมาคิดทุกเรื่อง เรื่องที่โมกังวลคือเรื่องภาระ แต่มันไม่ใช่ปัญหาเลยนะ อย่างตอนนี้เหลือภาระการผ่อนบ้าน แต่เราจะคิดว่าเมื่อไหร่จะหมด ทำยังไงให้หมดดีนะ ถามว่าหยุดคิดมันสบายใจมั้ย ก็สบายใจนะ แต่ก็ไม่รู้ทำมั้ย...ทำไม ถึงไม่หยุดคิดสักที คนอื่นภาระเยอะกว่านี้อีก สงสัยโมจะเป็นโรคจิต (หัวเราะ)

ข่าวคราวออกมาก็ค่อนข้างเยอะ
 โมจะไม่เอามารวมกับงานเท่าไหร่ โมจะเอาไปคิดเองที่บ้าน ช่วงที่ออกมาทำงานถือ ว่าป็นช่วงที่ทำให้โมดีขึ้น เป็นช่วงเวลาที่รักษาเรา  เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่ไปนั่งจมปลักกับตัวเองสักเท่าไหร่ โมเป็นคนที่ทุกข์หนัก แต่ไม่ยอมทุกข์นาน เป็นคนที่แก้ปัญหาเร็ว ตัดสินใจเร็ว ใจแข็งเร็ว ทุกข์ไปไม่มีประโยชน์ ไม่มีอะไรดีขึ้นมา
อยู่วงการมา 6 ปี เจอข่าวไหนที่คิดว่าหนักที่สุดแล้ว
 โมรับไม่ได้ตรงที่สิ่งที่เราไม่ได้พูด แต่เขาเอาไปแต่งเอง ไปเขียนเอง มันทำให้คนอื่นเข้าใจภาพเราผิด คือโมค่อนข้างตรงแล้ว โมเป็นคนพูดหมดจริงๆ เชื่อได้จริงๆ แต่สิ่งที่โมไม่ได้พูด แต่ไปบิดเบือนคำพูดโม ทำให้คนอื่นเข้าใจเป็นอย่างอื่นปุ๊บ เขาก็จะคิดว่าเอ้า...ตกลง โมเป็นคนยังไง ทั้งๆ ที่เราเปิดหมด
ชีวิตจริงๆ ของคนที่ชื่อ "แตงโม" ภัทรธิดา
 โมติดดินมาก ด้วยความที่เราไม่ได้โตมาจากกองเงินกองทอง เรามาจากชนชั้นธรรมดานี่ล่ะ เราเดินดินมาก่อน วันหนึ่งเรามาอยู่ในวงการอาจจะเป็นที่สบายขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าเราขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เราก็ยังเดินดินธรรมดาเหมือนเดิม



เรื่องครอบครัวและตัวตน
กับเรื่องครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องคุณแม่ที่เป็นข่าวออกมาทวงสิทธิ์เป็นคุณแม่
 เรื่องคุณแม่ไม่ใช่ปัญหาเลย ทุกอย่างเราก็ดำเนินการตามปกติเหมือนเด็กๆ ที่เป็นมา ถ้าช่วงงานหนักก็อาจจะไม่ค่อยได้เจอ คนที่เป็นข่าวก็คือคุณแม่นั่นแหละ แต่ข่าวมั่ว แล้วจับมาเป็นประเด็นข่าว ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีอะไรเลย ปกติก็คุยกันอยู่แล้ว

ถือว่าเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก รู้สึกมีอะไรที่ขาดหายไปบ้างไหม
 โมไม่รู้สึกขาดอะไร เพราะว่าคุณพ่อให้เกินร้อย เป็นทั้งพ่อเป็นทั้งแม่ คุณพ่อไม่ขาดตกบกพร่องในการเลี้ยงลูกเลย แต่ทำให้โมคิดว่าเราจะเดินพลาดไม่ได้ เราจะมีปัญหาให้เขาเหยียบเราซ้ำไม่ได้ คือเด็กที่มีปัญหาครอบครัวอยู่แล้ว ถ้าไปในทางที่ดีก็ดีไป แต่ทางที่ดีไม่ดี ก็มีให้เห็นในหลายครอบครัว ในสังคมเรา คือติดยา เป็นบ้า ออกแนวเละเทะไปเลย มันก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้โมต้องคิด ว่าเมื่อไหร่ที่เราจะประสบความสำเร็จอย่างจริงจัง เมื่อไหร่คุณพ่อจะสบาย ภาระจะหมด เราจะได้พิสูจน์ให้คนอื่นเห็น ว่าการที่ครอบครัวไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น มันไม่ได้เป็นปัญหาในการใช้ชีวิต นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราเป็นคนคิดมาก อยากจะเดินให้มันสวยงามตลอด

ทำให้หวาดกลัวเรื่องการแต่งงานเลยไหม
 กลัวมากๆ ในใจลึกๆ ผู้หญิงทุกคนอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่เรากลัวมากๆ ที่เราเห็นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง ญาติ หรือแม้แต่คุณพ่อคุณแม่เรา ก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ ว่าไม่ได้ประสบความสำเร็จไปซะทุกครอบครัว



ถือว่าเป็นคนพูดตรงคนหนึ่ง
 ก็นะ จะค่อนข้างปากตรงกับใจ คิดอะไรพูดอย่างนั้นเลย แต่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่เชื่อ
การพูดตรง เป็นข้อเสียสำหรับเราไหม
 มีตอนเด็กๆ คือโมเป็นเด็กที่มีความคิดเกินวัย เพราะฉะนั้นคำพูดคำจาจะดูเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นเด็กแก่แดด ก้าวร้าว แต่จริงๆ จิตใจโมคิดไปเอง โมโตมากับพ่อ  โตมากับครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ โมสู้คนเดียว ทำอะไรมากับคุณพ่อตลอด คนที่เคยอ่านข่าวเรา ก็เห็นเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ไม่ได้ทำไปเพราะความก้าวร้าว ตลอดระยะเวลา 6 ปี โมยังเป็นคนเดิม ไม่ได้สร้างภาพมาแต่ไหนแต่ไร วันนี้มันก็พิสูจน์แล้ว ว่าเรามีแต่ใจรักความยุติธรรม แต่ใครอย่ามารังแก

ต้องปรับเรื่องการพูดไหม 
 จริงๆ โมก็ไม่ได้พูดแรงไปทั้งหมด ถามว่ามีคนเตือนมั้ย ตอนเรกๆ มีคนเตือนเยอะ แต่โตขึ้นมาแล้ว เขารู้ว่าตัวตนเราจริงๆ แล้วเราไม่เคยทำให้ใครเสียหาย



เรื่องความรัก
ครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบนี้ แสดงว่าถ้าจะเลือกใครมาเป็นคู่ชีวิตคิดเยอะ
 โมชอบคนง่าย แต่รักคนยากมาก กว่าโมจะตัดสินใจเลือก หรือรักคนคนหนึ่ง มันต้องใช้เวลามากๆ กว่าที่เราจะมั่นใจกับคนคนหนึ่งได้
 
มีความคิดแวบๆ ไหม ที่คิดจะไม่แต่งงานเลย
 มีบ้างนะ รู้ตัวเองเลย ว่าเรากลัวความล้มเหลว

แล้วตอนนี้หัวใจเป็นอย่างไร
 ตอนนี้อยู่ในช่วงที่ยังรักความเป็นโสดอยู่ เราไม่ได้โสดมา 5 ปีแล้ว ตอนที่คบกับแฟนก็ติดกับแฟนตลอด เราเอาชีวิตเราไปผูกกับเขาครึ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นเมื่อวันหนึ่งเราออกมาอยู่คนเดียว มันก็เป็นอิสระอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเรามีความสุขกับมันเหมือนกัน ได้อยู่กับเพื่อนบ้าง ใช้เวลากับตัวเอง บำรุงรักษาตัวเอง เราได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง




แต่ยังไม่เข็ดกับความรักใช่ไหม

 ไม่เข็ด...โมว่าถึงเป็นโสดก็มีอิสระ แต่การมีความรักก็เป็นสิ่งที่ดี มันเป็นช่วงจังหวะที่เลือกยากสักหน่อย ถามว่าเหงามั้ย ก็เหงา แต่เราก็มีเพื่อนที่คอยให้กำลังใจเราตลอดเวลา

แล้วกับ "แดนนี่" ดานิเอล เบล็สซิ่ง ตกลงความสัมพันธ์อยู่ในระดับไหน 
 สนิทกันในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่สนิทพิเศษ อาจจะเป็นช่วงจังหวะที่โมเลิกกับพี่ก้อง(กรุณ ซอโสตถิกุล) ก็เลยเป็นข่าว แต่ถามว่าเขาหวังอะไรจากโมหรือเปล่า เขาจะมาเกาะกระแสโมหรือเปล่า เปล่าเลย เขาก็ใช้ชีวิตของเขาปกติ ไม่ว่าจะยังไง ถ้าโมยังไม่ประกาศ ว่าโมดูใครหรือจะศึกษาใคร แปลว่าโมยังไม่เลือกใครทั้งนั้น

ณ ตอนนี้ ยังติดต่อกับ "พี่ก้อง" กรุณ อยู่ไหม
 ยังติดต่อกันในเรื่องที่จำเป็น ส่วนหนึ่งเราก็ต้องให้เกียรติเขา เพราะว่าเราก็ไม่มีฐานะเท่าเดิมแล้ว เราเหลือไว้ คือความรู้สึกดีๆ เยื่อใยสายใยที่ดี มันก็คงยังสำคัญอยู่ พอเขาคืนอิสระให้เรา เราก็ต้องคืนอิสระให้เขา เพราะฉะนั้นมันก็ต้องมีกำแพงให้กัน

ก่อนหน้านี้แตงโมเคยออกมายอมรับ ว่ามีนอกใจก้องไปบ้าง แล้วจริงๆ แตงโมเป็นคนเจ้าชู้ไหม
 ถ้าโมมีแฟน แล้วจริงจังกับใครสักคน  โมไม่เจ้าชู้  แต่เมื่อไรที่โมเริ่มรู้สึก ว่าเราคงไปด้วยกันไม่ได้ในระยะยาว ก็คงมีบ้าง

 อู๊ย...ย พูดได้ตรงจริ๊ง...จริง หนูแตงโม



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์