สาปลื้มเซเดย์เริ่มพูดได้-รับเป้ไม่เคยแล

เป็นหญิงเหล็กอีกหนึ่งคนของวงการ สำหรับ สา-วรรณษา ทองวิเศษ ที่ไม่ย่อท้อต่อให้ต้องเลี้ยงลูกชาย วัย 3 ขวบเศษ เพียงคนเดียว

และด้วยความที่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำจึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูกมากนัก จึงทำให้ น้องเซเดย์ ใช้เวลาอยู่กับทีวี และของเล่นมากเกินไป จนส่งผลให้กลายเป็นโรคไฮเปอร์ พัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วไป ซึ่งคุณแม่คนเก่งอย่างสาก็ไม่หมดหวังหาทางแก้ปัญหาได้อย่างถูกจุด ทำให้น้องเซเดย์เริ่มมีพัฒนาการมากขึ้น

"ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว พูดปลาบู๋ได้แล้ว สงสัยจะดูละครปลาบู๋มากไปหน่อย(หัวเราะ) ตอนนี้กำลังสอนเรียกแม่อยู่ ให้พูดอะไรเค้าก็พูดตาม แต่ยังไม่เป็นคำมากนัก แต่สาก็พอจะรู้ว่าลูกพูดตาม เพราะพยางค์มันได้ กำลังฝึกเค้าอยู่ แต่เรื่องระเบียบวินัยโรงเรียนสอนดีมาก เค้าจะรู้จักเก็บเป็นที่เป็นทางเฉพาะที่โรงเรียน แต่ที่บ้านก็จะเล่นเสร็จแล้วก็นอนเพราะมีคุณยาย คุณแม่ช่วยเก็บ



น้องเซเดย์เค้าเป็นไฮเปอร์เทียม ไม่ได้รุนแรงอะไรมาก แค่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง

เช่น การดูทีวี 3 เดือนก็หายแล้ว ซึ่งตอนนี้ผ่านมาประมาณเดือนกว่าๆ เค้าดีขึ้นเยอะมาก แต่สาก็ไม่ห้ามเค้าดูทีวีนะ เพราะเด็กไฮเปอร์ถ้าเค้าทำอยู่ก่อนแล้ว เราไปขัดปุ๊บ เค้าจะกลายเป็นหัวรุนแรงทันที ฉะนั้นต้องค่อยๆ ตัดเวลาในการดู จากเมื่อก่อนดู 1 ชั่วโมง ก็เหลือ 30 นาที แล้วค่อยเหลือ 15 นาที แต่เราต้องบอกเค้าว่าปิดทีวี เพราะอะไร อย่างเวลาจะไปเรียนก็บอกเค้าว่าต้องปิดทีวีนะลูก เค้าก็จะเดินไปปิด รู้เรื่องเยอะมากค่ะ"

สาเองก็ต้องหาเวลาอยู่กับลูกเพิ่มขึ้น

"เยอะมาก ที่ผ่านมาเราผิดเองมัวแต่ทำงานอย่างเดียว อย่างตอนนั้นทำร้านสปาก็ต้องไปอยู่ที่นั่นตลอดกว่าจะกลับลูกก็กลับแล้ว ก็ไม่เจอลูก ถามว่าตกใจมั้ยตอนที่ทราบว่าเค้าเป็นไฮเปอร์ จริงๆ เราก็คิดไว้อยู่แล้วตั้งแต่เค้าเป็นเด็กแล้ว แต่ทุกคนที่เคยพูดคุยเค้าจะพูดในเรื่องของออทิสติกมากกว่า เรากลัวว่ามันเป็นแฝงมากกว่า ก็เลยปรึกษาคนที่เค้ามีปัญหานี้เหมือนกันว่าเค้าจัดการยังไง เผอิญว่าเซเดย์เข้าโรงเรียนแล้วเค้าดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว เค้าบอกว่าไม่ซีเรียสเลยเป็นไฮเปอร์เทียม ไม่ใช่ไฮเปอร์แท้ เราไปสร้างพฤติกรรมให้เค้าเอง ต้องไม่ให้กระตุ้นเยอะ พวกสีแสด สีแดง สีน้ำเงิน เพราะสีพวกนี้ทำให้เค้าสนุกสนาน เค้าก็จะวิ่ง แต่อย่างอื่นก็ปกติ พอลดทีวีก็ช่วยได้หลายอย่างเลย คงต้องใช้เวลาอีกซักปีสองปี คงพูดปร๋อแล้ว เพราะบางทีเราพลาดลูกไม่พูดด้วยก็ไม่สนใจปล่อยไป เราต้องพยายามพูดกับเค้าไปเรื่อยๆ อย่าเบื่อ"



แล้วร้านสปายังทำอยู่มั้ย

"ไม่ได้ทำแล้วค่ะ ตอนนี้เพื่อนของเพื่อนเป็นเจ้าของอยู่ สาก็หันไปทำของส่งให้สปาแทน ทำธุรกิจนั้นก็ต้องใช้เวลาเยอะ มีปัญหาเรื่องบุคลากร แล้วก็เศรษฐกิจด้วย สาเองก็ต้องเล่นละคร อยากมีเวลาอยู่กับลูกเยอะๆ ด้วยค่ะ"

แล้วทางคุณพ่อ (เป้ ไฮร็อค) ได้ช่วยเหลืออะไรบ้าง

"ก็ไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ ไม่ได้เจอ ไม่ได้โทร ไม่ได้ถามอาการอะไรลูกเลยค่ะ"


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี INN NEWS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์