เพชรลุยสร้างหุ่น ใช้เงินแม่ พ่อยังรัก-ห่วงใย

เตือนลูกพูดอะไรมากจะเข้ามัดตัว ต้องคิดให้ดี มีสติ โต้ข่าวล่วงละเมิดยืนยันไม่เป็นความจริงพันเปอร์เซนต์ ขณะที่ "ลูกเพชร" เตรียมใช้เงินพุ่มพวงสร้างหุ่น ย้ำมีสิทธิ์ใช้เงินของแม่

วันนี้ (19 มิ.ย.) นายไกรสร แสงอนันต์ หรือลีละเมฆินทร์ เปิดเผยผ่านรายการโต๊ะข่าวบันเทิง ทางโทรทัศน์ช่อง 3 ถึงกรณีที่นายสรภพ ลีละเมฆินทร์ อายุ 22 ปี หรือน้องเพชร ลูกชาย ออกมาประกาศตัดขาดพ่อและญาติของทาง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" อดีตราชินีลูกทุ่ง ผู้เป็นแม่ ว่า ลูกชายอายุ 22 ปีแล้ว สามารถที่จะตัดสินใจอะไรเองได้ แต่ดันไปอยู่ในสถานที่ซึ่งเขาตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ สมองเขาไม่ได้คิดด้วยตัวเอง ทำให้ภาพที่เห็นที่แสดงออกมา กลายเป็นว่า

น้องเพชร เป็นเด็กที่มีความก้าวร้าว ไม่เคารพพ่อ ซึ่งเมื่อก่อนลูกชายไม่ได้เป็นอย่างนี้เลย เมื่อมีปัญหาก็จะรีบมาปรึกษาพ่อ ตอนนี้ญาติพี่น้องทุกคนมีความเป็นห่วงเพชรมาก เพราะว่าเพชรไม่ใช่เพชรคนเดิม แม้ว่าในชีวิตจริงได้มีการแยกกันอยู่นานกว่า 3-4 ปีแล้วก็ตาม

นายไกรสร กล่าวต่อว่า ส่วนที่เพชรประกาศไม่รับตนเป็นพ่อ ประกาศตัดขาดจากกันนั้น ต่อไปตนก็คงยืนดูอยู่ห่าง ๆ

เพราะเขาเป็นลูก อย่างไรเสียก็ยังรักเขาอยู่ ผู้ดำเนินรายการได้ถามว่า มีคำพูดหนึ่งที่น้องเพชรบอกว่า "ถ้าไม่เป็นเขาจะไม่มีวันรู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้น" ทราบหรือไม่ว่าน้องหมายถึงอะไร นายไกรสร ตอบว่า ไม่ทราบ น้องต้องรู้ดีว่าอะไร และการอยู่กับตนมันเป็นอย่างไร อยู่กับครอบครัว กับปู่ย่าตายายเป็นอย่างไร เขาควรออกมาพูดในสิ่งที่ทุกคนพูด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ทางผู้ดำเนินรายการได้เปิดเทปที่ได้สัมภาษณ์ นายสรภพ หรือเพชร เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน โดยเพชร กล่าวว่า

"ในวันนี้ที่ผมมาเปิดใจ ขอให้ทุกคนหยุดดีกว่า เพราะว่า เห็นใจแม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ และส่วนตัวยอมรับว่า มีความเบื่อ ซึ่งตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่ต้องมาทะเลาะกับทางฝ่ายพ่อ ฝ่ายญาติแม่ ในวันนี้ผมขอให้ยุติทุก ๆ อย่าง เพื่อที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะกับครอบครัวต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปีหน้า หรือ 20 ปีข้างหน้า หรือ 50 ปีข้างหน้า หรือปีไหน ๆ ก็ตาม  และถ้าทางน้า ๆ บอกว่า ถ้าผมไม่บริสุทธิ์ใจที่เอาเงินของประชาชนมาสร้างหุ่นแม่ผึ้ง ก็ต้องขอขอบคุณน้า ๆ น้าไก่ที่มาช่วยจุดประเด็นทำให้ผมนึกได้ว่า ผมก็ควรที่จะใช้เงินของตัวเอง ผมมีสิทธิที่จะใช้เงินของแม่ผม ที่แม่ผมสร้างมาให้กับผม ผมก็ต้องมีสิทธิที่จะใช้มันจริงไหม"

ด้านนายไกรสร กล่าวภายหลังที่ได้ฟังการเปิดใจของลูกชายว่า

สงสารเขา การที่เขาออกมาพูดก็เป็นสิ่งที่ไม่ดีกับตัวเขา ตั้งแต่ออกมาเป็นข่าวตนปล่อยให้เขาออกไปลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง 3 - 4 ปี ก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรมากมายให้เขากลับคืนมา ซึ่งถ้าเขาอยู่แล้วมีความสุขตนก็ยินดีด้วย รู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีไทยบ้าง รู้จักญาติพี่น้องบ้าง แต่เรื่องไม่ได้เป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าลูกพูดอะไรมากก็เข้าตัวลูกมันจะมัดตัวลูก ลูกต้องคิดให้ดี มีสติ ตั้งสติให้ดี พ่อเป็นพ่ออยู่ตรงนี้อยู่แล้ว

ในช่วงท้ายผู้ดำเนินรายการได้ถามถึงกระแสข่าวการล่วงละเมิดทางเพศ นายไกรสร ตอบว่า

"มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรในชีวิต เพชรเขารู้ดี โถ ทำไม ถ้าลูกไม่ได้คิดเอง หรือถ้าลูกคิดเองพ่อก็ให้อภัย ลูกไปพูดอะไรกับใครตอนไหน พ่อก็คิดว่าเพชรมีเหตุผล เพราะต้องการให้ทุกคนสงสาร หรืออะไรก็แล้วแต่ที่บอกให้รู้ว่าเพชรไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้ว ไม่เป็นไร

แต่ถ้าเป็นคนอื่นคิด ผมว่าใจเขาไม่ใช่มนุษย์ คิดได้ขนาดนี้ พ่อจะทำกับลูกได้อย่างไร

ผมเป็นผู้ชายถ้ามีข่าวเรื่องผู้หญิงเจ้าชู้ผมจะไม่เถียง แต่ถ้าเป็นเรื่องแบบนั้น ผมไม่เข้าใจว่าคิดกันได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงพันเปอร์เซ็นต์ ต่อให้ตายไปกี่ชาติ มันไม่มีมูลเหตุแม้แต่นิดเดียว"