ด้วยความแปลกใหม่ ความเป็นธรรมชาติของการเป็นเด็กลูกครึ่งทำให้ "แร็พเตอร์" ได้รับความนิยมอย่างสูง จนคลอดงานเพลงมาถึง 7 อัลบั้ม
"ตอนนั้นชอบชีวิตมากๆ เพราะมีคนกรี๊ดเยอะ ชอบเวลาที่ไปห้างแล้วมีคนจำได้ อยากเป็นจุดสนใจของคนอื่น พาเพื่อนไปแล้วมีคนมาขอลายเซ็น เราก็ยิ้ม แล้วที่เซ็นไปก็เซ็นแบบไม่รู้เรื่อง"
เป็น
"หลุย แร็พเตอร์" ดาราหนุ่มสารภาพว่าฝืน เพราะไม่ชินกับคอนเซ็ปต์ ไม่ชินกับการไปโปรโมตไปให้สัมภาษณ์ แต่พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่า ควรปรับและทำความเข้าใจอย่างไร
คุณพ่อเสียไปตั้งแต่อายุ 3 ขวบ "หลุยส์" จึงเป็นเหมือนเสาหลักของบ้าน เขาดูแลครอบครัวมาตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยเขาเล่าว่า "ส่วนหนึ่งคิดว่ามันเป็นภาระหน้าที่ที่ต้องทำ เรื่องเหนื่อยไม่เท่าไร ชินแล้ว
อีกอย่างมีจอนนี่เป็นเพื่อนในการทำงาน ทำกันไปเล่นกันไปสนุกดี แต่ก็มีภาระที่ว่าได้เงินมาก็ต้องไปจ่ายให้พี่ชายเรียนหนังสือ มีบ้างที่น้อยใจว่าเงินเราก็อยากใช้บ้าง อยากซื้ออะไรที่เด็กอายุ 17 อยากได้ แต่ก็ต้องวางไว้ก่อน เลยต้องมีหัวธุรกิจว่าต้องเก็บตังค์ ใช้ในสิ่งที่จำเป็น แต่ลึกๆ มันเป็นความภูมิใจนะ เรารู้สึกว่าพอคุณพ่อเสียไป มาถึงเวลาที่เราหาเงินได้เราก็เป็นเสาหลักของบ้าน คุณแม่จะบอกทุกวันเป็นกำลังใจที่ผมต้องทำงานหนัก คุณแม่จะขอบคุณ"
กำลังโด่งดังอยู่แท้ๆ "แร็พเตอร์" มีอันต้องปิดฉาก เพราะต่างเริ่มโต เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง ที่สำคัญต้องแยกกันไปเรียน
"ผมพักไป 2 ปีกว่าก็ได้กลับมาออกอัลบั้มเดี่ยว 3 อัลบั้ม แล้วก็หายไปเลยคือไปเรียน พอจบไฮสคูลที่บางกอกพัฒนา ก็เข้าเรียนคณะบริหารธุรกิจนอก ที่เซาท์เทิร์น แฮมส์เชีย ตอนนี้อยู่ปี 4 แล้ว และกลับมาอีกทีคือมาโผล่ในงานละครอย่างจริงจังเรื่อง
"เพลิงพายุ" ที่มาเล่นละครตอนแรกคือเรื่องเวลา เพราะตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ ละครใช้เวลาแค่ 2 เดือนเสร็จ ขณะที่เพลงใช้เวลาถึงครึ่งปี"
ส่วนโอกาสที่จะได้ทำงานเพลงนั้น เจ้าตัวบอก "ต้องรอดูอีกที ตอนนี้ผมยังมีสัญญาอยู่กับอาร์เอสเหลืออีก 3 ปี ตอนนี้กำลังมุ่งเรื่องละคร อยากทำตรงนี้ให้ดีที่สุด เอาเป็นว่าสั่งสมแฟนคลับละครให้เยอะก่อนเดี๋ยวมีโอกาสแล้วไปออกเทป จะได้ใช้เวลาค้นหาแนวเพลงที่ชอบจริงๆ ด้วย"
ชีวิต ณ วันนี้ หลุยส์พอใจแต่ยังไม่ที่สุด ที่สุดของเขาคือการได้มีธุรกิจเป็นของตัวเอง
"ผมอยู่วงการมา 17 ปี วงการนี้ให้ผมทุกอย่าง ความรู้ในทุกด้าน ในแง่ความจริงของการทำงาน ได้เรียนรู้นิสัยคนมากมายทั้งที่จริงใจและเฟก มันไม่ใช่แค่เรื่องงาน เรื่องเงิน แต่มันเกี่ยวกับเรื่องเพื่อน ครอบครัว ได้รู้ว่าคนนี้รักเราจริงหรือไม่ มันได้หมดเลย"
ทั้งหมดที่หลุยส์ได้สัมผัส นั่นคือประสบการณ์ชีวิตที่ยิ่งใหญ่
แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
https://www.facebook.com/teeneedotcom