หวานชื่น เต๋า-ยุ้ยสุดตื้นตัน!!

ชื่นมื่น!"เต๋า"ควง"ยุ้ย"หมั้นแบบจีน หอมแก้มโชว์สื่อ อุบสินสอด ลั่นขอทำงานก่อนยังไม่ฮันนีมูน รับอยากมีลูกเลย

หลังจากทั้งคู่ตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกันเงียบๆ ของวันที่ 14 พ.ค. ผ่านมา จนเป็นที่จับตามองการแต่งงานรอบ 2 แบบฟ้าแลบ ในที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ของ"เต๋า สมชาย เข็มกลัด" จูงมือเจ้าสาว'ยุ้ย อัฐมาศ อัศววิมล" เดินเข้าสู่ประตูวิวาห์แล้ว ในวันนี้ (14 มิ.ย.) ก็ได้ฤกษ์ฉลองแต่งงานขึ้น ณ โรงแรมเพนนินซูล่า ที่ทั้งสองต่างก็สวมชุดสไตล์จีนสีชมพู

โดยพิธีช่วงเช้าก็มีขบวนขันหมาก พร้อมไปด้วยกับญาติสนิทที่มาร่วมงาน

 และพิธีหมั้น ที่ทั้งสองต่างก็แลกแหวนให้แก่กัน และยังมีสินสอดอีกจำนวนชุดเครื่องเพชร ชุดเครื่องทองโบราณ เงินสดจำนวน 8 แสน ฯลฯ พร้อมทั้งโฉนดที่ดินที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศภายในงานเป็นแบบเรียบง่าย งานนี้ "เต๋า-ยุ้ย" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พร้อมกับหอมแก้มโชว์ผู้สื่อข่าว ก่อนจะเผยถึงความรู้สึก ในงานฉลองให้ฟังว่า

รู้สึกอย่างไรบ้าง

เต๋า : ผมก็รู้สึกอะไรบางอย่างที่ผมพูดไม่ได้ ผมก็รู้สึกดีแต่มันยังพูดอะไรไม่ได้
ยุ้ย : ดีใจค่ะ และก็ประทับใจ

มีน้ำตาคลอไหมค่ะ

ยุ้ย : มีแต่รอยยิ้มค่ะ แต่ก็เขินนะค่ะ
เต๋า : (หัวเราะ)

ช่วงในงานเต๋าจับมือยุ้ยตลอดเลย

เต๋า : ก็ต้องจับแหละครับ คือจริงๆต้องจับมือไปด้วยกันเพราะว่าเราต้องทำทุกวันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวันนี้พรุ่งนี้มะรืนนี้ส่วนวันต่อๆไปคือเราต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด

ทางผู้ใหญ่ให้โอวาทอะไรบ้าง

เต๋า : คือก็ให้เป็นมงคลนะครับ ให้ก็คือคำอวยพรที่เป็นมงคลและก็เป็นความภาคภูมิใจและชื่นใจ ดีใจครับ

คุณแม่ยุ้ยฝากอะไรเต๋าบ้าง

เต๋า : ฝากฝังมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วครับ(หัวเราะ)

ตื่นเต้นไหมเป็นเจ้าสาว

ยุ้ย : ก็รู้สึกตื่นเต้นสิคะ นอนไม่หลับ
เต๋า : เขานอนไม่หลับแต่ผมนอนหลับเพราะว่าผมง่วง ก็ผมนอนหลับนะ(หัวเราะ)ผมเชื่อว่าทุกๆวันของเรามีความสุขและก็ทำทุกๆวันให้ดีเพราะมันคือความสุขและก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา

เรื่องสินสอดเป็นยังไงบ้าง

เต๋า : ก็จริงๆแล้วก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันครับ เพราะจริงๆแล้วทุกอย่างก็อยู่ที่เราสองคน คือจริงๆเราไม่อยากเอาเรื่องสินสอดมาแทรกเรื่องความรักมันเป็นเรื่องของคุณค่าครับ มันเป็นความรู้สึกทางใจจริงๆครับ ผมทราบและเข้าใจว่าทุกคนเข้าใจนะ

มีการวางแผนในการใช้ชีวิตคู่ยังไง มีสัญญารักอย่างไรกันบ้าง

เต๋า : อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัว มีแต่ว่าเราคงบอกกันสองคน

หลังจากที่จดทะเบียนคบกันมายาวนานขนาดไหน

เต๋า : เรียนตามตรงนะครับว่าผมเจอกันมาสักห้าปีแล้ว ก็เดินผ่านกันไปมาสวนกันไปสวนกันมาผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ความรู้สึกบอกกับผมว่าคือมันสั่งให้เราพูดเราทำครับ จริงๆแล้วมันไม่ใช่แค่เวลาว่านานหรือน้อยช้าหรือเร็ว ผมเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่เราคุยด้วยความรู้สึกคือเราตัดสินใจอย่างนี้ แล้วเราต้องทำให้ดีที่สุดนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไม่ว่าจะออกมาแบบไหนมันคือสิ่งที่เราทำให้ดีที่สุด เราเชื่อว่าเรามุ่งมั่นและเราตั้งใจ

"ไม่ว่าจะยาวนานแค่ไหนก็จะรัก" ได้ยินแล้วรู้สึกยังไงบ้าง

ยุ้ย : คือจริงๆคำมั่นสัญญามันเป็นแค่คำพูดแต่ทุกวันมันพิสูจน์ได้ด้วยการกระทำและความตั้งใจจริงที่เราร่วมสร้างกันมา อย่างที่บอกบางทีความประทับใจมันบรรยายไม่ได้มันเป็นความรู้สึกที่เราสองคนมีต่อกัน

คิดว่าเร็วเกินไปไหม

ยุ้ย : เวลามันไม่ใช่เรื่องของการเอามาตัดสินใจค่ะ

มันมีความรู้สึกแว๊บมายังไง

เต๋า : อันนี้ต้องถามคนข้างบนนะ ต้องถามเบื้องบน

แต่งแล้วไปฮันนีมูนที่ไหน

เต๋า : ยังไม่ได้ไปครับ เพราะว่าเดี๋ยวต้องทำงานต่อทำงานสักพักหนึ่งและถ้าเกิดมีเวลาว่างเราแพลนกันไว้แล้วครับ แต่ว่ายังบอกอะไรไม่ได้เพราะว่าเดี๋ยวไม่ได้ไป จะเป็นที่ยุโรปหรือเปล่ายังบอกไม่ได้ครับถ้าไปแล้วเดี๋ยวจะบอกครับ

การมีทายาทจะมีเลยหรือเปล่า

เต๋า : (หัวเราะ)ก็จะตอบว่ายังไงดีอย่างที่เราบอกคือจริงๆแล้วการที่เราจดทะเบียนและแต่งงานก็คือการแต่งงานแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็บอกเลยว่าการมุ่งมั่นก็คืออย่างเดียวคืออยากมีลูก เราก็ไม่ได้มีอะไรนอกจากคือถ้าวันหนึ่งมันใช่ก็คือใช่วันหนึ่งถ้าเขาจะมาเขาก็มาเอง ผู้ชายผู้หญิงก็ได้ครับ ถ้ามีเสือก็คงสัก 11 ตัวครับ(หัวเราะ)
ยุ้ย : ไม่มีตัวสำรองเลย
เต๋า : ไม่ใช่ตั้งทีมฟุตบอลไม่ถึงขนาดนั้นพูดเล่น(หัวเราะ) เห็นเขาโฆษณาที่โทรทัศน์ก็เลยอยากพูดบ้าง คือจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องของอนาคตที่เราบอกไม่ได้แต่เราก็ตั้งใจและจะทำให้ดีที่สุดนั่นคือสิ่งที่เราอยากทำและต้องทำให้ได้ เพราะว่าผมก็ 36 แล้วก็อยากจะทำชีวิตให้เป็นชีวิตจริงๆครอบครัว คือเราก็ฝันและเราก็อยากทำ บางอย่างมันก็บอกไม่ได้จริงๆมันต้องดูกันต่อไปและก็ฝากให้อวยพรพวกเราแล้วกัน

ใช้ชีวิตหลักที่ไหน

เต๋า : กรุงเทพฯครับเพราะว่าผมกลับมาทำงานและก็สิ่งต่างๆที่จะทำมันเป็นเรื่องของครอบครัว

คุณแม่ของยุ้ยแฮปปี้ไหมแต่งเร็ว

ยุ้ย : คุณแม่ก็แฮปปี้ค่ะ ว่าลูกได้แต่งงานสักที คุณแม่ก็คงสอนแนะนำเหมือนคุณแม่ทั่วไปค่ะเขาก็คงฝากด้วยความเป็นห่วงเพราะว่าไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหนแม่ก็คงต้องเป็นห่วงค่ะและก็ยินดีชื่นชมในสิ่งที่เราทำ