กาละแมร์ ปรี๊ด กรี๊ดชั้นเหวี่ยงที่ไหน



งานเข้าเสียแล้วสำหรับผู้ประกาศข่าวฝีปากกล้า หลังจากที่มีกระแสข่าวเมาธ์ออกมาว่า สาวการ์ละแมร์หน่ะดังแล้วเรื่องมาก แถมล่าสุดไปวีนใส่พนักงานแบงค์ถึงขั้นชักชวนให้คนอื่นย้ายที่ฝากเงินกันเลยทีเดียว



เป็นนักข่าวมาก็นานแล้ว สำหรับสาว การ์ละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ แต่ต้องยอมรับจริง ๆ ว่ามาในระยะหลัง ๆ ที่เจ้าตัวจับปากกาเขียนหนังสือนั้นทำให้ชื่อเสียงของเธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น ยิ่งมาทำรายการ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง" ก็ยิ่งอวยให้เจ้าตัวดังไปกันใหญ่


ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าเลยนทำให้ มีข่าวลือออกมาว่าเจ้าตัวน่ะยิ่งดังยิ่งเรื่องมาก เวลาแต่งหน้าก็ต้องให้ได้ดั่งใจ ถ้างานไหนชุดไม่ถูกอารมณ์มีสั่งเปลี่ยนเดี๋ยวนั้น และที่หนักสุดเห็นจะเป็นข่าวที่ว่า เจ้าตัวเหวี่ยงจัดที่ธนาคารไม่อนุมัติวงเงินให้ จนถึงขั้นถอนเงินปิดบัญชีหนีไปฝากแบงค์อื่นกันเลยทีเดียว





เจอข่าวแรงเสียขนาดนี้ เจ้าตัวก็เลยออกมาชี้แจงแล้วว่า เป็นเพราะพนักงานที่ให้บริการแจ้งข้อมูลผิดทำให้เจ้าตัวไม่ไว้วางใจเองก็เลยขออนุญาตย้ายที่ฝากเท่านั้นเอง


"วันนั้นเนี่ยเราต้องไปรูดซื้อจองบ้าน ซื้อที่ แล้วปรากฏว่าเราได้ใช้เต็มวงเงินไปก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งเราก็เลยบอกว่าขอเปิดเพิ่มได้มั้ย ก็โทรไปถามที่พนักงาน พนักงานก็บอกว่า ไม่ได้ไม่อนุมัติ เราก็เลยบอกว่า งั้นลองถามหัวหน้ามั้ย เพราะว่าเผื่อว่าเขาจะไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ เขาก็ไปดำเนินเรื่องสักพักก็กลับมาบอกว่า ไม่อนุมัติครับ เราก็เลยขอพูดกับหัวหน้าได้มั้ย เพราะมันเป็นเคสฉุกเฉินนะ เพราะมันต้องรูดวันนี้ เพราะต้องชำระเงินค่าที่ ก็ไม่ได้อีก เราก็เลยบอกเอ้ย ... น้องเช็คมั้ย เขาก็ไปเช็คแล้วก็บอกว่าเราเป็นหนี้ธนาคาร เราบอกไม่มีทางเป็นไปได้ ชั้นเนี่ยหรอเป็นหนี้ช่วยไปตรวจสอบใหม่ได้ป่ะ


ทีนี้เราก็เลยรบกวนขอชื่อได้มั้ยเผื่อว่าจะขอติดต่อ เขาก็บอกชื่อทั้งตัวเขาแล้วก็ตัวหัวหน้ามาเสร็จ พอวันรุ่งขึ้นเราก็รู้สึกแบบเสียใจ เพราะเราฝากเงินกับธนาคารนี้มาโดยตลอด แล้วก็เป็นลูกค้าที่ดีของเขา ไม่เป็นหนี้แต่ฝากเงินอยู่ดี ๆ ก็ให้บัตรเครดิตมาใช้ แต่พอวันหนึ่งที่เราแบบขอเพิ่มวงเงิน ซึ่งไม่กี่แสนอ่ะประมาณสองสามแสนเอง ทำไมไม่ให้ งั้นเราขออนุญาตว่า เราขออำลาจากการเป็นลูกค้าแล้วกันนะ





จากนั้นเรื่องราวก็มาถึงผู้บริหารแบงค์ เขาก็จะมาขอโทษซึ่งเราก็แบบ ไม่ต้องขอโทษค่ะ คุณเป็นระดับผู้บริหาร มันไม่ใช่ความผิดของคุณ มันแค่แบบพนักงานที่อาจจะปล่อยปะละเลยหรือไม่เอาใจใส่ลูกค้าเท่าที่ควรเท่านั้นเอง มันก็อาจจะทำให้องค์กรระดับใหญ่เสียหายได้ เขาก็เลยเอาบัตรใหม่ให้เราซึ่งเพิ่มวงเงินเป็นหนึ่งล้านบาทมาให้ เราก็เอ้ยไม่รู้จะเอาไปใช้อะไร ปกติเป็นคนไม่ค่อยใช้ แต่ใช้แบบฉุกเฉิน

ซึ่งวันนั้นเนี่ย สมมติว่าเราเกิดเจ็บป่วย เป็นอุบัติเหตุแล้วเราขอเพิ่มวงเงินเนี่ยแล้วไม่ให้เรา เราไม่ตายหรอ แล้วถ้าหมอไม่รักษาเราเราจะทำยังไง เราพูดขนาดนี้กับเจ้าหน้าที่เขายังไม่เพิ่มวงเงินให้เราเลย

เราก็เลยแบบแล้วเราจะฝากเงินไว้กับแบงค์คุณได้ยังไง แล้วสิ่งที่รู้ก็คือพนักงานคนนั้นไม่ได้โทรไปถามหัวหน้าแล้วก็เมคชื่อขึ้นมา ตัวเองไม่ได้ชื่อนั้นแต่ไปแอบอ้างชื่อคนอื่นมา แล้วที่ไปเช็คว่าเราเป็นหนี้ จริง ๆ แล้วระบบผิด เราก็อ้าว ....เฮ้ยเรายิ่งไม่ควรฝากเงินแล้วล่ะ"

เพราะเราไปวีนเขาด้วยหรือเปล่า


"มันแล้วแต่การใช้คำหรือการใช้ศัพท์ก็ตาม แต่ถ้ารู้จักกันเราก็เป็นคนพูดของเราแบบนี้ พูดแบบตรงไปตรงมา





เท่านั้นไม่พอเจ้าตัวยังโดนข้อหาเรื่องที่ว่าไปเหวี่ยงใส่ช่างแต่งหน้าด้วย กรณีที่แต่งหน้าออกมาแล้วไม่ถูกใจ ทำให้หน้าตาของสาวแมร์ดูไม่มีมิติ ซึ่งงานนี้ทำเอาสาวแมร์ถึงขั้นงง ก่อนจะปฏิเสธว่าไม่มีแน่นอน


"ห๊า ...ไม่มี ไม่มี อันนี้ดิฉันว่าบวกกันไปเยอะแล้ว มันเหมือนกับว่าเซอร์วิสชาร์ตแล้วก็เป็นแทกซ์ด้วยนะคะ คือบวก 7 เปอร์เซ็นต์แล้วบวก 10 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ คือถ้าคนที่ทำงานกับเราจะรู้เลยว่าโดยเฉพาะช่างที่ทำงานกันอยู่ทุกวันเขาจะยิ่งชอบเลย

บอกแบบอยากให้แก้ตรงไหนมั้ย เพราะเขา ถ้าคนอยากทำงานให้ดีที่สุดเขาจะอยากแก้ไขข้อบกพร่อง หรือน้องที่ทำเสื้อผ้า พี่วันนี้ชอบมั้ย ถ้าชอบจะได้จำไว้ เอ้ยอย่างนี้ ถ้าไม่ชอบบอกหนูนะ ทุกคนถ้าใครอยากทำงานให้ดีขึ้น ต้องการการแก้ไข ไม่ใช่ต้องการการแก้ตัว"



เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์