"ปู" เซ็งจัดเจอมรสุมข่าวฉาว ปลงถือเป็นเวรกรรม
ข่าวหนีกองฯ ตามเฝ้าหวานใจ โจอี้ บอย จนผู้ใหญ่ช่อง 7 เรียกอบรมเพิ่งเคลียร์ ไม่ทันได้หายใจหายคอ สาวมั่น ปู ไปรยา สวนดอกไม้ ต้องมาโดนอีกหนึ่งกระทง หลังปล่อยวาทะเด็ดให้สัมภาษณ์ฉะฉานกับหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับหนึ่ง ในทำนองที่ว่าเข้าใจว่านักข่าวต้องทำตามหน้าที่ เพราะต้องหาค่าน้ำค่าไฟจ่ายที่บ้านเป็นเหตุให้เจ้าตัวถูกมองว่าเป็นเด็กแรงเกินวัย!!เจอข่าวฉาวรายวันแบบนี้ กระจอกข่าวเลยถือโอกาสถามไถ่ถึงความรู้สึก ทำเอาเจ้าตัวเบรกแตก! ระบายไฟแล่บว่าคงเป็นเวรเป็นกรรมถึงต้องมาเจอแบบนี้ จึงทำได้ดีที่สุดแค่ทำใจ พร้อมยืนยันไม่มีเจตนาดูถูกนักข่าว เชื่อเป็นการสื่อสารผิดมากกว่า
เราอยู่วงการบันเทิงแบบว่าโกหกทั้งเพ โอเคมีข่าวไม่มีปัญหา ปูทนกับทุกวันที่ตื่นแต่เช้าเห็นข่าวแล้วน้ำตาร่วง มันอะไรนักหนา เราถือว่าเป็นเวรกรรมแล้วกัน เราไม่เคยทำอะไรใครแต่ชาติที่แล้วเราคงทำ ต้องมาโดนคนด่าคนดูหมิ่นดูถูก ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำอะไรให้ใคร
ปูรู้ว่าเราตรง เราเป็นในสิ่งที่เราเป็นและเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ปูรู้จักหลายคนที่เค้าเสแสร้งมาตั้งแต่แรก คือเจอกับตัวเอง...พอเป็นแบบนี้คนที่ตรงมักจะถูกเหยียบย่ำ ถูกด่าเสมอ เราถือว่าทำดีที่สุดแล้ว มุ่งมั่นที่สุดแล้ว"
"ช่วงนั้นครอบครัวปูเก็บข่าวทุกชิ้นเลยเพราะกลัวท้อแล้วไม่ไปทำงาน โดนแบบนี้มันก็ท้อเหมือนกันแต่มันมีหลายอย่างที่นักแสดงคนอื่นโดนแต่เราไม่โดน ซึ่งเทียบกับเราถือว่าน้อยสุดแล้วเลยไม่ซีเรียส
ด้วยความที่เป็นคนตรง ทำให้ถูกมองว่าเป็นเด็กแรง?
แรงกับตรงมันแตกต่างกันนะ ใครก็รู้ว่าแรงคือไม่มีมารยาทแต่สิ่งที่หนูพูดตรงนี้มันไม่ได้ทำร้ายจิตใจใคร และมันก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไร้มารยาท หนูไม่คิดจะโกหกเท่านั้นเอง ครอบครัวก็สอนมาว่า...เค้าถามอะไรหนูก็ตอบตรงๆ สิ
กับคำให้สัมภาษณ์ที่ว่าเข้าใจว่านักข่าวต้องทำตามหน้าที่ เพราะต้องหาค่าน้ำค่าไฟ จนถูกมองว่าพูดแรงเกินไป?...
ใช่หนูพูดอย่างนั้น คิดอย่างนั้น หนูไม่ได้พูดแรง หนูเข้าข้างพี่นะที่พูดอย่างนั้น นักข่าวคืออาชีพนึง ปาปารัซซี่คืออาชีพนึง พวกพี่ก็เป็นคนธรรมดามีค่าน้ำค่าเช่าบ้านค่าไฟ บางคนมีลูกด้วยซ้ำที่ต้องจ่ายทุกเดือน มันเป็นอาชีพเหมือนที่หนูทำ ไม่คิดจะทำร้ายจิตใจใคร หนูรู้แก่ใจ หนูอ่านข่าวไม่เคยโทษนักข่าว ไม่เคยโทษคนถ่ายรูปและไม่โทษเราด้วย แต่แค่หวังว่าคนอ่านต้องแยกแยะเท่านั้นเอง
คิดว่าเป็นการสื่อสารผิดหรือเปล่า?
เค้าอยากเขียนยังไงก็แล้วแต่เค้า แต่หนูให้ความจริงใจมาแล้ว เค้าจะเขียนยังไงก็เรื่องของเค้าหนูไม่ยุ่ง คือเราพูดอย่างที่เราพูด ส่วนพี่จะเขียนยังไงนั่นคือทางเลือกของพี่ เป็นสิทธิ์ของพี่ที่จะตีพิมพ์ยังไงให้ข่าวน่าสนใจ ถึงแม้ว่าคนทั้งประเทศจะเกลียดเรา แต่เมื่อเราเดินถนนเรายิ้มให้ คุยกับเค้าดี...อย่างน้อยก็หนึ่งคนล่ะที่ไม่ได้เกลียดเรา มันอาจจะใช้เวลาเรื่อยๆ แต่ไม่เป็นไรเราลงทุน
ไม่คิดท้อแต่พยามมองอย่างเข้าใจ และปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นจะได้ไม่ตกเป็นข่าวฉาวอีก
บางครั้งเศร้าใจ แต่ถามว่าท้อมั้ย...ไม่สามารถท้อค่ะ ถ้าเกิดจะท้อจะทำยังไงล่ะในเมื่อมันลงทุกฉบับแล้ว จะนอนร้องไห้ 4 คืน เค้าจะรู้เหรอว่าเราร้องไห้เค้าไม่รู้หรอก"
"ทางเดียวที่จะแก้คือทำตัวเองให้ดีกว่าเดิม เหมือนสุภาษิตน่ะ เราไม่สามารถทำให้คนที่เจอเราครั้งแรกชอบเราได้ มันก็ต้องเหม็นขี้หน้ากันอยู่แล้ว แต่เราสามารถพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้น ตัดข้อไม่ดีในชีวิตเราตัดให้หมด เค้าจะได้ติเราไม่ได้ไง เหตุผลที่เค้าติได้เพราะเรามีอะไรในตัวที่ไม่ดีไง
https://www.facebook.com/teeneedotcom