นุชแจงสัมพันธ์ไมค์ยังเป็นแค่เพื่อน อนาคตไม่แน่-แฟนคลับฝ่ายชายเชียร์ให้คบกัน

สาวลูกครึ่งคนสวย "นุช"นีรนาท โคลท์ ยอมรับไปไหนมาไหนกับหนุ่มฮอต "ไมค์" พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล โดยเผยว่า

"กับไมค์ก็เป็นเพื่อนกัน แต่ก่อนหน้ายอมรับว่ามีคุยกัน ซึ่งตอนนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะมาจีบเรา แต่พอคุยกันไปแล้วก็ไม่ปิ๊งทั้ง 2 คน ก็เลยคิดว่าเป็นเพื่อนกันจะดีกว่า และยิ่งพอมีข่าวออกมาว่าเราคบกัน ก็เลยรอก่อน ยังไม่ถึงขนาดพัฒนาขึ้นไปเป็นแฟนกัน แต่ในอนาคตก็บอกไม่ได้ว่าจะพัฒนาไปขนาดไหน"

"ที่ผ่านมาก็มีบ้างที่ไปเที่ยวไปกินข้าวกัน แต่ก็จะมีหญิงแม้น(ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล) ไปด้วย ส่วนเรื่องที่มีภาพหลุดคู่กันออกมา ก็ยังไม่ได้คุยกันเพราะว่าเพิ่งจะรู้เรื่อง แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้ซีเรียส หลุดก็หลุด อยากจะถ่ายก็ถ่ายค่ะ"

ที่บ้านว่าอย่างไรบ้างกับข่าวที่เกิดขึ้น "ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขารู้ว่าเราเป็นเพื่อนกัน ส่วนแฟนคลับของไมค์ก็ไม่ว่าอะไรเหมือนกัน บางคนยังมาเชียร์เลยว่าทำไมไม่คบกัน ที่ผ่านมาเขามีชวนว่าอยากให้ไปฟีเจอริ่งให้เพลงของเขา โดยชวนหญิงแม้นไปร่วมด้วยอีกคน ซึ่งก็พูดกันสนุกๆ เพราะเขารู้ว่าก็มีค่ายเพลงมาชวนให้นุชไปทำเพลงด้วยเหมือนกัน"

แล้วตกลงว่าอย่างไร "เราเองก็ชอบร้องเพลง แต่เป็นการชอบที่จะร้องกันในหมู่เพื่อนฝูงมากกว่า ซึ่งถ้าถึงขั้นต้องออกอัลบั้ม อันนั้นคงต้องคิดกันอีกที กับไมค์ตอนนี้ก็ยังยืนยันว่าเป็นเพื่อนกันค่ะ"

ถามถึงหนังเรื่องแรก "รูมเมต เพื่อนร่วมห้อง...ต้องแอบรัก" ที่นุชเล่น เป็นอย่างไรบ้าง "สนุกดีค่ะ ความจริงนุชเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 12 จนตอนนี้ 16 แล้ว ก็เคยพูดว่าอยากจะเล่นหนัง แต่ที่ผ่านมาก็มีแต่งานเดินแบบ แล้วพอดีทีมงานเรื่องนี้ติดต่อมา แรกๆ ก็ไม่อยากเล่นแล้วเพราะคนมักจะมองว่า เป็นนางแบบแต่มาเล่นหนัง ซึ่งมันเหมือนกับว่าไม่ค่อยดี"

"จริงๆ ก็มีรุ่นพี่นางแบบที่เล่นหนังเล่นละครแล้วดีอย่างพี่ลูกเกด-เมทินี พี่พิม-ซอนย่า แต่นั่นเป็นระดับฝีมือแล้ว ส่วนหนูเพิ่งจะเริ่มต้นเลยไม่อยากเล่น เพราะพอเข้ามาเป็นนางแบบความคิดก็เปลี่ยน แต่แม่อยากให้ลองเพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ถ้าไม่เล่นอาจเสียโอกาสไปตลอดชีวิต ก็เลยตัดสินใจเล่นค่ะ"

"ยอมรับว่าแรกๆ ยากมาก เพราะมันไม่ใช่ชีวิตเราเลย อย่างนางแบบทำงานวันเดียวเสร็จ วันที่ไม่มีงานเราก็อยู่บ้าน หรือช็อปปิ้ง แต่เล่นหนังวันหยุดก็ต้องไปซ้อมแอ๊กติ้ง ไปเวิร์กช็อป ไม่มีเวลาหยุดเลย แรกๆ เกือบถอดใจไม่เล่นแล้ว เพราะเหนื่อย แต่ก็มานั่งคิดว่าเรารับงานมาแล้ว ต้องรับผิดชอบ เลยฮึดสู้ทำจนเสร็จ ซึ่งพอมันผ่านไปได้ก็รู้สึกสนุกและภูมิใจที่ตัวเองทำได้ค่ะ"