ภูริพาแท่งลุยเลนปลูกป่าที่สมุทรสงคราม

ทันทีที่สองหนุ่มก้าวลงจากรถตู้ ภูริ ซึ่งมีประสบการณ์การทำรายการท่องเที่ยวมาก่อน ก็ออกปากรับทำหน้าที่ไกด์พาพี่ชาย "แท่ง" เที่ยวในเชิงอนุรักษ์ เริ่มด้วยการไปให้อาหารลิงแสม ที่บริเวณป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ไม่รอช้าสองหนุ่มรีบพากันลงเรือหางยาว พอมาถึงที่หมาย ฝูงลิงแสมจำนวนมากก็ออกมาต้อนรับส่งเสียงร้องขออาหาร พี่แท่งกับน้องริ จึงผลัดกันโยนกล้วยน้ำว้า ที่เตรียมมาให้บรรดาลิงหม่ำกัน มิหนำซ้ำยังโยนมาทางทีมงาน พร้อมตะโกนบอกตามประสาหนุ่มอารมณ์ดีว่า "ตรงโน้นยังมีอีกตัว"

ออกเรือไปต่อเพื่อดูฟาร์มหอยแมลงภู่และหอยนางรม แต่ระหว่างทางที่เรือแล่นมานั้น ต้องตะลุยวิ่งบนพื้นขี้เลนด้วยความเร็ว จนเลนกระเซ็นเปรอะเปื้อนเต็มไปโม้ด ทำเอาภูริและแท่งตื่นเต้นสุดๆ บอกว่า "คนที่อาจจะเคยเห็นหรือว่าเคยดูในทีวี ไม่เท่ากับการที่เราได้มาเจอจริงๆ นะคร้าบ"

บ่ายโมงกว่า เริ่มหิวกันแล้ว นายภูริเลยพาแท่งไปกินมื้อเที่ยงสุดพิเศษบน "กระเตง" กลางทะเล ซึ่งไกด์ตัวจริงอธิบายว่าคือสิ่งปลูกสร้าง ที่เมื่อก่อนสร้างไว้เฝ้าฟาร์มหอย แต่พอมีเรื่องการท่องเที่ยวเข้ามา ชาวบ้านเลยเปิดเป็นโฮมสเตย์ นั่งพักรับลมเย็นๆ

เวลาผ่านไปสักครู่ ซีฟู้ดชุดใหญ่ทั้งกุ้ง หอยแครง หอยแมลงภู่ ปูม้า ปลากะพง ย่างกันสดๆ พร้อมน้ำจิ้มรสแซบและของขึ้นชื่ออย่างน้ำพริกปลาทูแม่กลอง ต้มส้มปลากระบอก ก็พร้อมเสิร์ฟ จบของคาว ล้างปากด้วยแตงโมหวานฉ่ำ กินไปคุยไป เพลินกันเลยทีเดียว ก่อนไปทั้งภูริและพี่แท่งขอสวมวิญญาณนักชิม ยกให้เมนูน้ำพริกปลาทูแม่กลอง ที่มีสโลแกน "หน้างอคอหัก" เป็นสุดยอดเมนูในวันนี้

มาต่อกันที่กิจกรรมยามบ่าย ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของวันนี้ คือการนั่งเรือไปปลูกป่าชายเลน งานนี้สองหนุ่มไม่ห่วงหล่อลงทุนเลอะเทอะนั่งกระดานถีบเลนนำกล้าแสมและโกงกางใบใหญ่ไปปลูก เพื่อช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ให้ป่า สำหรับภูรินั้นดูสบายๆ เรียนรู้จากชาวบ้านไม่นาน ก็ถีบกระดานได้ปร๋อ...ส่วนพี่แท่งถึงแม้ว่าจะดูเก้ๆ กังๆ ไปหน่อย แต่ความตั้งใจเกินร้อยอยู่แล้ว

เห็นน้องโชว์ลีลาน่าสนุก พี่แท่งเลยขอเอากับเขาด้วย และคงเป็นเพราะแท่งไม่เคยได้ทำอะไรทำนองนี้สักเท่าไหร่ พอเหยียบกระดานออกตัวปุ๊บเลยดูเหมือน ว่าท่าทางจะไม่รอด แต่พอเริ่มทรงตัวได้เท่านั้นแหละ ก็โชว์ลีลาท่าทางแปลกๆ โบกไม้โบกมือทักทาย 

แถมท้ายด้วยการปล่อยมือโชว์จนเสียหลักตกเลนจนได้ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทีมงาน พอขึ้นมาเขาก็ออกตัวว่า "นี่เป็นครั้งแรกเลยในชีวิตที่ได้เล่นอะไรแบบนี้ ตอนแรกก็กลัวว่าจะลำบากเหมือนกันนะ แต่ว่าพอจับจังหวะได้ก็โอเคแล้วครับ สนุกๆ"

และไม่ทิ้งลายความเป็น ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง เพราะขากลับไปขึ้นฝั่ง "แท่ง" ขอโชว์นอนบนสกีน้ำ เดี๋ยวลุก เดี๋ยวนั่ง โบกมือทักทายชาวบ้านริมสองฝั่งคลองอย่างเป็นกันเอง เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนน้องชายอย่างนายริ ก็ไม่น้อยหน้า แม้จะนั่งบนเรือ แต่ก็ส่งยิ้มทักทายอย่างเป็นกันเอง จนสองหนุ่มกลายเป็นขวัญใจของชาวบ้านคลองโคนไปเป็นที่เรียบร้อย

ก่อนโบกมือลากันวันนี้ หนุ่มแท่งและภูริ ฝากความรู้สึกที่ได้มาทำกิจกรรมในวันนี้ว่า "รู้สึกดีและสนุกมาก เพราะนอกจากเราจะได้เปิดหูเปิดตาแล้ว ยังได้เปิดใจด้วย มันทำให้เรามีมุมมองกับเรื่องใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ชีวิตของคนที่ผูกพันกับทะเล แล้วยังมีเรื่องชีวิตของทะเล สิ่งมีชีวิตในทะเลหลายอย่าง แล้วก็เรื่องโลกด้วย คนเคยท่องเที่ยวมาหลากหลายรูปแบบแล้ว อยากให้ลองแวะมาเที่ยวแนวนี้ดูสักครั้งในชีวิต อาจจะได้อะไรมากกว่าแค่เที่ยวครับ ลองดู"