คนบางคนโดนข่าวล้างสมอง มุมมองของ ลีเดีย ศรัณย์รัชต์


หากพูดถึงนักร้องสาว ที่ร้องเพลงแนวอาร์แอนด์บีที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองที่สุด คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “ลีเดีย” ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา

เพียงเวลาแค่ 4 ปี แต่ชื่อของเธอ สามารถก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของวงการเพลงไทยได้อย่างสวยงาม แต่กระนั้นเธอก็ยังหนีไม่พ้นสัจธรรมของวงการบันเทิงในเรื่องข่าว ไม่ว่าจะเป็นความผูกพันกับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่มักจะนำเธอเข้าไปเกี่ยวเนื่องด้วยเสมอ รวมไปถึงคดีความฟ้องร้องกับหมอดู กฤษฏ์ คอนเฟิร์ม เปิดใจเธอกันได้แล้วที่นี่...

เจ้าหญิงอาร์แอนด์บี...
 
ผลงานตอนนี้  
 
ตอนนี้ทำอัลบั้มเพลงใหม่อยู่ ยังไม่เสร็จ ตอนนี้ในอาร์เอสเปลี่ยนทีมงาน ก็ทำงานกับทีมใหม่ ยังไม่เสร็จเลย ก็คงต้องดูว่าเดียจะเปลี่ยนไปแค่ไหน มันอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้นอยู่ เลยยังไม่รู้เลย ว่าภาพจะเปลี่ยนไปยังไง

ในใจอยากให้ออกมาเป็นแบบไหน 
 
ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดไว้ แต่ก็อยากทำเพลงออกมาให้ดีๆ แล้วพวกคอนเซ็ปต์อัลบั้ม เสื้อผ้าจะเป็นยังไง ก็คงต้องดู ตอนนี้โครงสร้างเพลงยังไม่ออกมา เลยยังไม่รู้ งานเสร็จไปแค่เพลงเดียวเอง


นักร้องใหม่ๆ ในสังกัดเพิ่มขึ้น มีส่วนให้งานเพลงล่าช้าไหม 
 
จริงๆ ไม่เกี่ยว เพราะที่มันช้า เป็นเพราะเราก็มีความคาดหวังระดับหนึ่ง ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ถ้ามันยังดีสำหรับเราไม่พอ เราก็ต้องทำรอจนกว่ามันจะดี ก็ต้องทำไปเรื่อยๆ จนกว่าเราชอบ เดียไม่ชอบทำให้มันออกมาลวกๆ


จะได้เห็นผลงานเมื่อไหร่ 
 
ก็คงต้องอีกสักพัก เพราะงานมันเลยเวลามา จริงๆ ต้องเสร็จตั้งแต่ต้นปีแล้ว ทำเพลงไปแล้วบ้าง แต่ทำเพลงมาปุ๊บ แล้วรู้สึกว่าบางเพลงมันยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็เลยต้องรื้อทำใหม่ เลยช้าหน่อย


ยิ่งทำเพลงหลายๆ อัลบั้ม ความกดดันยิ่งเพิ่มมากขึ้นไหม 
 
ถ้าเทียบกับอัลบั้มแรกๆ ความกดดันมันก็เท่าๆ กัน แต่อาจจะกดดันที่คนจับตามอง เพราะมันก็ต้องมีการพัฒนาให้มากขึ้น ถามว่าเดียมีพัฒนาการมากขึ้นไหม ก็พัฒนาการร้อง การโชว์ คนเราเวลามีประสบการณ์ มันก็ต้องมีอะไรมากขึ้น




ขึ้นชื่อว่าเป็น “เจ้าหญิงอาร์แอนด์บี” คนย่อมคาดหวังด้วย 
 
เดียก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด (หัวเราะ)


รู้สึกอย่างไรกับฉายานี้ 
 
ก็ดี แต่มันก็กดดัน เพราะพี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม เป็นคนให้ฉายานี้ พี่เขาบอกว่าเดียเสียงแปลกดี ตั้งแต่อัลบั้มแรก ฟังแล้วสะดุด เขาก็เลยให้ฉายามา เราก็ปลื้ม เพราะพี่เขาสุดยอดขนาดนั้น


คิดจะหันมาเอาดีด้านการแสดงบ้างไหม 
 
จริงๆ ก็มีคนเคยติดต่อมา ยื่นบทให้หลากหลายเหมือนกัน แต่ยังไม่รับ เพราะก็ยังไม่รู้เลย ว่าตัวเองจะทำได้หรือเปล่า ด้วยเรายังไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้เลย เดียยังไม่เคยลอง ก็ต้องลองทำดู แต่ถ้ามันยากมาก ก็อาจจะไม่มีความสามารถพอ คงต้องไปเรียนเพิ่มเติม  


ถ้าเป็นนักร้องคนอื่น เขาอาจจะหันมาจับงานแสดงควบคู่เร็วกว่านี้  
 
เดียเป็นนักร้อง เราถนัดด้านการร้องเพลงมากกว่า แต่การแสดงเราไม่มีพื้นฐานเลย ถ้าจะแสดงก็ต้องไปเรียนแอ็กติ้งเพิ่มเติม แต่นี่คือไม่เป็นเลย ก็ค่อนข้างมุ่งมั่นอยู่กับการร้องเพลงมากกว่า


เหมือนการร้องเพลงคือชีวิตจิตใจ 
 
เป็นอะไรที่ทำแล้วมีความสุข  
 
รู้ตัวว่าชอบการร้องเพลงเมื่อไหร่ 
 
ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว จริงๆ ก็ชอบ อยากเป็นนักร้อง ก็หาประสบการณ์ให้ตัวเอง หาคุณครูเรียนร้องเพลงเอง แล้วป๊ากับแม่ก็สนับสนุน ว่าอยากทำอะไรก็ทำ ตั้งแต่เด็กแล้ว

ถือว่าร้องเพลงเก่งที่สุดในบ้านหรือเปล่า
 
เรียนมาเยอะสุดมากกว่า แต่จริงๆ แล้ว ป๊าจะมีความเป็นนักดนตรีอยู่ในตัวอยู่แล้ว เพราะป๊าเล่นกีตาร์ เดียก็ได้รับการถ่ายทอดมานิดหน่อย (หัวเราะ)


แล้วลีเดียเล่นดนตรีเป็นบ้างไหม 
 
เท่าที่เรียนมา ก็จะมีวงในออเคสตรา ก็จะมีฟลุต แซกโซโฟน กับเปียโน แต่ตอนนี้ลืมหมดแล้ว (หัวเราะ) อาจจะมีเอามาใส่ในอัลบั้มได้บ้าง แต่คงไม่เก่งถึงขนาดอย่างพี่โก้ มิสเตอร์แซกแมน


มรสุมข่าว...
 
อยู่วงการบันเทิงมา 4 ปี แล้วเป็นอย่างไรบ้าง 
 
มันก็เรื่อยๆ มีทั้งข่าวอะไรเยอะแยะ ก็ชินแล้ว สิ่งที่ได้ก็คือประสบการณ์


ท้อกับข่าวบ้างไหม 
 
มีบ้างอยู่แล้ว เพราะข่าวที่เจอมาก็แรงๆ ทุกข่าว มันก็สอนให้เรารับมือกับมัน เวลาเจอข่าวหนักๆ


มีวิธีการรับมืออย่างไร
 
ถ้าเราพูดแต่ความจริง มันก็คือความจริงวันยังค่ำ




รับไม่ได้กับข่าวไหนที่สุด 
 
โอ้ย...เยอะแยะ


ความรู้สึกกับข่าวแรกที่เจอ

 
ข่าวแรกที่เจอ ตอนนั้นเดียยังเด็กๆ ว่าเดียดังแล้วหยิ่ง ซึ่งเราก็ต้องปล่อยมันไป มันเริ่มจากข่าวเล็กๆ กระทั่งเป็นข่าวใหญ่โต เรื่องการเมือง เรื่องอะไรแบบนี้


เกี่ยวไหมที่ข่าวแรงขึ้น เพราะสนิทกับอดีตนายกฯ
 
ก็คงเกี่ยว เพราะเป็นเรื่องการเมือง


ทุกวันนี้ยังมีให้กำลังใจทักษิณอยู่ไหม 
 
ไม่พูดเรื่องการเมืองดีกว่า เดี๋ยวซวยอีก (หัวเราะ)


มีคนเกลียดลีเดีย พ่วงไปกับเรื่องของอดีตนายกฯ 
 
ต้องมีอยู่แล้ว บางคนเขาก็ไม่รู้จักแยกแยะ ว่าอะไรเป็นอะไร เวลาเราคบใครสักคน บางทีก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง คือคบกันในฐานะของคนรู้จักกัน แต่บางคนก็เหมือนกับว่า โดนข่าวล้างสมองไปแล้ว ก็ไม่รู้จักแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไร อันนี้ก็แล้วแต่เขา เดียก็อยู่ในส่วนของเดีย แต่ยังไม่ถึงขั้นเคยโดนใครมาต่อว่า 


ลีเดียเจอผลกระทบอะไรกับตัวบ้าง 
 
ก็กระทบ เพราะมันมีแต่ข่าวไม่ดีออกมาเรื่อยๆ พอเจอเรื่อยๆ ก็เครียด ก็เซ็ง แต่ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน เวลาเซ็ง ก็ไปทำอย่างอื่น ไปเรียนเบเกอรี่ ปกติเดียจะไม่ค่อยเครียดเรื่องอะไร ยกเว้นถ้าเจอปัญหาหนักๆ


ความคืบหน้าเรื่องคดีกับ หมอดูกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม ล่ะ 
 
ยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพิ่งได้รับหมายศาล เขาก็เริ่มไต่สวนมูลฟ้อง เป็นเดือนหน้า (พ.ค.) ซึ่งเดียคิดว่าศาลก็คงจะยุติธรรมอยู่แล้ว คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ ตัวเดียขอให้จบอย่างยุติธรรมก็พอ


คุณแม่ว่าอย่างไรกับเรื่องนี้ 
 
จริงๆ ก็ไม่ค่อยได้คุยกันเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะมันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว มัวแต่หมกมุ่นก็ปวดหัว คดีในศาลก็ค่อนข้างยืดเยื้อเหมือนกัน สองฝ่ายฟ้องกันไป ฟ้องกันมา มันก็ทำให้เรื่องยืดเยื้อ ถามว่าเดียเบื่อไหม ก็เฉยๆ มากกว่า


ถ้าวันนั้นคุณแม่ไม่ได้ขึ้นบนเวทีไปด่าหมอกฤษฏ์ ตัวเองจะมีวิธีจัดการอย่างไร 
 
คือถ้าวันนั้นคุณแม่ไปเอง เดียคิดว่ามันก็คงต้องเกิดอะไรขึ้นอยู่แล้ว เพราะตัวเขาก็ยังพูดอยู่เรื่อยๆ ว่าผมก็แค่พูดยังงี้ๆ การพูดก็ทำให้เดียเดือดร้อนอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่แม่ออกไป ก็ต้องมีทางบริษัทอาร์เอสออกไป หรืออะไรก็แล้วแต่


แอบหวั่นเรื่องแพ้-ชนะคดีบ้างไหม 
 
เดียคิดว่าศาลเขามีความยุติธรรม หลักฐานก็เห็นกันทั่วประเทศอยู่แล้วว่าเขาทำอะไรไว้บ้าง เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีอะไรมากมาย


คิดอย่างไรกับการที่หมอดูดูดวงดารา 
 
คือดูได้ แต่ก็ต้องดูด้วย ว่าคุณทำให้เขาเดือดร้อนไหม ทำให้เวลาเขาเดินไปข้างนอก คนมองแต่ท้องเขาไหม ให้เป็นข่าวเม้าท์ทั่วประเทศไหม ถ้าทำอย่างนั้นแล้วคุณมีความสุขหรือเปล่า แต่ถ้าทำนายอะไร ที่เป็นการแนะนำ ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อน ก็โอเค ทุกวันนี้ก็ยังมีหมอดูเอาดวงเดียไปดูบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเสียๆ หายๆ เดียว่าดาราหลายคนก็คงเจอ คงไม่ถูกใจหรอกที่ไปดูเขาให้เสียหาย แต่ที่ผ่านมาคงไม่มีใครเจอหนักเท่าเดียแล้ว


เคยร้องไห้กับข่าวบ้างไหม 
 
ก็มีบ้าง แต่ก็จะไม่ค่อยร้องไห้เท่าไหร่  


ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ยังอยากจะเข้าวงการบันเทิงอยู่ไหม 
 
คือถ้าให้ย้อนเวลากลับไป เดียก็ยังเดินมาทางนี้เหมือนเดิม เพราะที่ผ่านมาที่เดียทำลงไป เราทำด้วยความจริงใจทั้งนั้น ไม่ได้เสแสร้งอยู่แล้ว




หัวใจลีเดีย


เวลามีข่าว แมทธิว ดีน ให้กำลังใจขนาดไหน 
 
ก็ช่วยได้เยอะ เป็นคนคอยให้คำปรึกษา


ความรัก 4 ปีแล้ว 
 
ดี ถือว่าเสมอต้นเสมอปลายดี


ภายนอกเหมือนแมทธิวเป็นคนใจร้อน 
 
จริงๆ แล้วก็ไม่นะ เทียบกันเดียยังใจร้อนกว่าอีก ภาพในข่าวก็เป็นอย่างหนึ่ง แต่จริงๆ ก็คนละอย่าง ถึงบอกว่าเวลาเสพข่าวก็ต้องฟังหูไว้หู ต้องชั่งน้ำหนักเอง ว่าอะไรจริงบ้าง อะไรไม่จริงบ้าง เหมือนของเดียนี่เจอข่าวมาเยอะแยะไปหมดเลย


ครอบครัวสองฝ่ายเข้ากันได้ดีไหม 
 
ครอบครัวยังไม่ได้เจอกัน เพียงแต่เดียเคยได้เจอคุณแม่เขาแล้ว และเขาก็เจอกับครอบครัวเดียแล้ว


4 ปี ต้องปรับตัวเข้าหากันอย่างไรบ้าง 
 
ก็เป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมากมาย เคล็ดลับไม่มี แต่เป็นคนตรงๆเหมือนกัน ถ้าพูดไม่เข้าหู ก็ทะเลาะกัน ถามว่าใครง้อใคร ก็แล้วแต่ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ส่วนมากจะทะเลาะกันเรื่องติงต๊อง แต่ไม่มีเรื่องขี้หึง


มุมมองความรักของลีเดีย 
 
ก็เป็นดาบสองคม ดีได้ด้วย ร้ายได้ด้วย สองอย่างทูอินวัน ทำให้เราเครียดได้ด้วย แฮปปี้ได้ด้วย  
 
นี่แหละจ้า...ลีเดีย


ประวัติ

ชื่อจริง ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา

ชื่อเล่น ลีเดีย

เกิดวันที่ 7 กรกฎาคม 2530

ผลงานชิ้นแรก มิวสิกวิดีโอ โฆษณา

อัลบั้มสร้างชื่อ ลีเดีย กับค่ายอาร์เอส




เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์