ป๊อกขอมีแสงแค่ดาว ไม่ต้องสว่างจ้าเท่าพลุ

ด้วยคาแร็กเตอร์ของ ดร.วิกันดา ที่เรียบหรู ดูสุขุม เยือกเย็น ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวของเมียน้อยผู้รุกราน ชวนไปกะเทาะเปลือกใจของนักแสดงสาวมากฝีมือ "ป๊อก"ปิยธิดา วรมุสิก ผู้รับบทเมียหลวงกันถึงกองถ่ายละครกระแสดี "เมียหลวง"

ละครตอนนี้ฟีดแบ็กดี รู้สึกอย่างไรบ้าง?

ป๊อก - "ก็ดีใจค่ะ ไปไหนมาไหนใครเห็นก็จะเรียกด๊อกเตอร์ๆ หรือ ดร.วิกานดา เข้ามาจับไม้จับมือพูดให้กำลังใจว่าน่าสงสาร น่าเห็นใจจัง ประหนึ่งเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัวที่ป๊อกเจอ (หัวเราะ) บ้างก็บอกว่าชอบที่ได้เห็นเราเล่นบทนี้ เล่นได้อารมณ์ดี"

"เสียงชื่นชมเยอะ ทั้งคนรอบข้างและแฟนละคร ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ได้แฟนละครกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น สาวๆ มักชื่นชมกับความนิ่ง เงียบ อดทนอดกลั้น สายตาบ่งบอกความเจ็บช้ำ ที่ป๊อกแสดงออกไป เขาบอกว่ามันโดนใจเขามากๆ เหมือนเป็นการแนะให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย และด้วยตัวตนป๊อกเองยังไม่เคยเป็นสักอย่าง (เมียหลวง-เมียน้อย) แต่เราสามารถเล่นได้จนคนดูกลุ่มหนึ่งพูดได้ว่า เราเล่นได้เหมือนชีวิตจริงจังเลย"


ได้คะแนนนิยมจากชมรมเมียหลวง แล้วมีชมรมเมียน้อยแอบส่งเมสเสจกัดจิกบ้างมั้ย?

ป๊อก - "(ยิ้ม) ไม่มีค่ะ ทุกคนที่เข้ามาน่ารัก ส่วนมากให้กำลังใจ ป๊อกว่าคงไม่มีใครอยากมีชีวิตในรูปแบบไหนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เมียหลวง เมียน้อย แต่จะมีเพื่อนผู้ชายที่เขาต่อว่า เป็นละครที่เขาถูกแฟนสาวจับให้นั่งดูด้วยตลอด เหมือนละครชี้ให้เห็น ดูไว้เป็นตัวอย่าง พร้อมกับคำสั่งห้ามของบรรดาแฟนสาวว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้กับชีวิตคู่"

เข้าวงการมา 10 กว่าปี กับเรื่องงานแสดงเป็นอย่างไรบ้าง?

ป๊อก - "เข้าวงการปลายปี"39 ถึงวันนี้ 12 ย่างเข้า 13 ปีแล้วค่ะ รู้สึกดีที่ยังมีงานใหม่ๆ เข้ามาทดสอบตัวเองเยอะขึ้น จากแต่ก่อนที่เคยเล่นแต่บทกุ๊กกิ๊ก วัยใส สนุกสนานคอมเมดี้ เริ่มมีบทบาทหลากหลายให้ได้เล่น เป็นดราม่าเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวัยเราที่โตขึ้น เหมาะที่จะเล่นบทแบบนี้ได้ ผู้ใหญ่เลยมอบโอกาสที่ดีให้"


ปีสองปีนี้ถูกกล่าวขวัญถึงผลงานแสดงมากเป็นพิเศษ?

ป๊อก - "ค่ะ ค่อนข้างเป็นหัวข้อให้พูดถึงมากๆ ตั้งแต่มาเล่นปิ่นไพร จนล่าสุดรับเล่นบทคุณหญิงแย้มในนางทาส ช่วงนั้นหลายคนมองว่าภาพของป๊อกไม่ใช่และไม่คิดว่าป๊อกจะเล่นได้กับบทดราม่าหนักๆ แล้วจู่ๆ พี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร) จับมาเปลี่ยน เสนอชื่อไปทางสถานี ผู้ใหญ่ก็ผ่าน"

"พอวันฟิตติ้งลองชุด ดูภาพในเวลานั้นทำให้หลายคนเริ่มเชื่อว่าป๊อกดูเหมาะกับบทนี้ จนวันถ่ายทำจริง เราสามารถทำให้ทุกคนยอมรับว่าเราเล่นได้ ส่วนตัวป๊อกแล้วจริงๆ ก็ยังไม่เชื่อในสายตาผู้ใหญ่ที่ไว้วางใจ แต่ส่วนหนึ่งก็มั่นใจว่าตัวเองทำได้ เพราะก่อนนี้เราเคยเล่นละครเวทีกับบทเครียดๆ นิ่งๆ มาแล้วในเรื่อง กุหลาบสีเลือด"

จากบทคุณหญิงแย้ม มาถึงบทดร.วิกันดา แสดงว่าตัดสินใจไม่ยากที่จะรับเล่น?

ป๊อก - "คิดไม่เยอะค่ะ กับบท ดร.วิกันดา ผู้ใหญ่หมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าต้องเป็นป๊อก ซึ่งเรารู้แล้วว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าสนใจ ด้วยภาพ ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูเป็นคนจริงใจ รักจริง และไม่ใช่ผู้หญิงเปรี้ยว เมื่อผู้ใหญ่มองว่าเราเหมาะขนาดนั้น แล้วเราจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับเล่น และเช่นกันเวลาที่เล่นละคร นักแสดงทุกคนเล่นกันเต็มที่ ด้วยคาแร็กเตอร์ของแต่ละตัวละครมีความชัดเจน มีภาพที่ชัดมาก"

ขับเคี่ยวบทกับ ตุ้ย-ธีรภัทร ที่เป็นสามี และอั้ม-พัชราภา ที่เป็นเมียน้อย เป็นอย่างไรบ้าง?

ป๊อก - "ดีค่ะ สนุก กับพี่ตุ้ย ถือว่านานๆ ทีจะได้เจอนักแสดงที่ช่วยกันตีความ บางทีได้บทมาแต่ด้วยบทมันลึก เราก็มานั่งคุยกัน ลงความเห็นกันว่า คู่ดร.วิกานดากับดร.อนิรุทธิ์ น่าจะมีข้อตกลงอะไรบางอย่างก่อนหน้านี้ อาจจะมีสัญญาอะไรกันมาก่อนถึงเลิกกันไม่ได้ จะชวนกันวิเคราะห์เล่นๆ"

"ส่วนน้องอั้ม เป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่ง ไฮเปอร์ อารมณ์ขัน เป็นคนตรงๆ ตัวจริงต่างจากบทอรอินทร์ ด้วยการรับส่งบทเวลาเล่นด้วยกันไม่ได้รู้สึกเครียด น้องเขาจัดจ้านมา เราจะไปจัดจ้านตามเขาก็ไม่ได้ เราจะจัดในเรื่องของอารมณ์ แต่ไม่ได้จัดในเรื่องของท่าทางการแสดงออก"

จบจากเรื่อง "เมียหลวง" วางแพลนไว้อย่างไรบ้าง?

ป๊อก - "หลังจากนี้อยากรับบทให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ได้อยากติดอยู่กับภาพ "เมียหลวง" อย่างเดียว แต่ถ้าให้เล่นก็ยังเล่นได้ แต่เราไม่อยากจะเป็นนักแสดงขึ้นหิ้ง ที่เล่นบทนี้ได้ดีสุดๆ ถูกจับขึ้นหิ้งแล้ว ไม่สามารถเล่นบทอื่นให้คนดูเชื่อได้แล้ว เพราะคนดูเชื่อกับบทแบบนี้สุดๆ ไปแล้ว ป๊อกไม่อยากเป็นอย่างนั้น"

"เพราะถ้าขึ้นหิ้งแล้ว กลายเป็นว่าเราไม่สามารถรับบทบาทที่หลากหลายได้มากกว่านี้ กลายเป็นว่าเราเล่นได้รูปแบบเดียว การเล่นได้เพียงรูปแบบเดียวสำหรับป๊อกถือว่ามาถึงทางตัน ความตื่นเต้น ความกระหายใคร่รู้ของเรากำลังจะหมดไป มันจะนิ่ง ซึ่งป๊อกไม่ชอบ"

อะไรที่ทำให้ในวันนี้ ชื่อ "ป๊อก-ปิยธิดา" ยังคงเป็นนักแสดงนำแถวหน้า?

ป๊อก - "ป๊อกว่าเป็นเพราะวินัยของป๊อกมากกว่า ด้วยการทำงาน ป๊อกไม่ใช่คนเรื่องมากวุ่นวาย ไม่ใช่คนที่ทำงานด้วยยาก เหล่านี้เลยทำให้เรายังคงอยู่"

?ส่วนหนึ่งที่เห็นได้ ป๊อกดังโดยไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองหวือหวา?

ป๊อก - "ป๊อกไม่อยากเป็นพลุ ที่ขึ้นไปสาดแสงแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ดัง แต่ป๊อกอยากเป็นดาวดวงหนึ่งที่ร่วมประดับอยู่บนท้องฟ้า อยู่ทน อยู่นาน คืนไหนที่ฟ้าสว่างด้วยแสงจันทร์เต็มดวง อาจจะมองไม่เห็นดาว ทั้งๆ ที่มีดาวอยู่ แต่คืนไหนที่เป็นเดือนมืด คุณอาจจะได้เห็นแสงของดาว เห็นตัวตนของเราค่ะ"

แต่ไม่ว่าฟ้าจะมืดหรือสว่าง ทุกคนก็ยังคงเห็นแสงจากดาวที่ชื่อ "ป๊อก-ปิยธิดา" สว่างจ้าอยู่ทุกวัน


มีโอกาสแล้วควรทำ

ได้รับรางวัลบุคคลผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ประจำปี 2551 จากราชบัณฑิตยสถาน สำหรับนักแสดงสาว "ป๊อก"ปิยธิดา วรมุสิก

และก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งคว้ารางวัลชมเชยนักแสดงนำหญิง จากเวทีเอเชี่ยน เทเลวิชั่น อวอร์ดส์ 2008 ที่สิงคโปร์ โดยก่อนหน้านี้เธอเคยซิวรางวัลนักแสดงนำหญิงเมขลา จากละครเรื่อง "ปิ่นไพร" มาแล้ว อีกทั้งยังมีรายชื่อเข้าชิงเวทีต่างๆ ซึ่งป๊อกกล่าวว่า

"รางวัลเป็นสิ่งที่มีคนเห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน และเชื่อในสิ่งที่เราแสดงออกไป ยอมรับส่วนตัวแล้วทุกครั้งที่มีชื่อเข้าชิงก็ดีใจแล้ว แล้วยิ่งรางวัลที่ได้เป็นหนึ่งในพวกเรา เท่านี้ก็สุดยอดแล้ว"ในแต่ละรางวัลที่ได้รับ ป๊อกไม่เคยคาดหวัง เวลาทำงานเราเล่นให้สมบทบาทเท่าที่ควรจะเป็นได้ก็พอแล้ว แล้วพอมีโอกาสได้รับรางวัล เป็นความรู้สึกปีติมากๆ รู้สึกชื่นใจ"

โดยล่าสุดที่ได้รับรางวัลบุคคลที่ใช้ภาษาไทยดีเด่น จากราชบัณฑิตยสถาน ป๊อกกล่าวว่า

 "มีคำชื่นชมว่าใช้ภาษาไทยได้ดี ป๊อกอยากจะบอกว่า โดยส่วนตัวแล้วป๊อกเป็นคนพูดเร็ว เรื่อยเปื่อย แต่เวลาเล่นละครอยู่หน้ากล้องป๊อกจะเป็นอีกแบบ ค่อนข้างระวังในการพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ และโชคดีที่คุณพ่อคุณแม่เน้นให้ลูกๆ พูดคำควบกล้ำ ออกเสียง ร.เรือ ล.ลิง ชัดตั้งแต่เด็ก เวลาพูดผิดท่านก็จะคอยแก้ คอยสอนคอยบอก ทั้งนี้ เพราะคุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญกับการที่เราเป็นคนไทย อีกอย่างเราเป็นเด็กผู้หญิงด้วย เรื่องกิริยามารยาทของกุลสตรีไทยก็สำคัญ"



"และป๊อกเองก็เคยผ่านการเล่นละครเวทีมา สำคัญเรื่องของการพูดที่ต้องชัด พูดให้เต็มคำ ออกเสียงให้ชัดเจน ร.เรือ ล.ลิง คำควบกล้ำเพื่อผู้ชมจะได้เข้าใจว่าเราสื่อสารอะไร"

ปลื้มใจกับรางวัลไหนมากที่สุด "รู้สึกภูมิใจกับทุกๆ รางวัล โดยเฉพาะรางวัลราชบัณฑิตยสถานในเรื่องของการใช้ภาษา ป๊อกภูมิใจที่เราเป็นคนไทย พูดจาภาษาไทย ดีใจที่ผู้ใหญ่เห็นว่าเราเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนและคนอื่นๆ ได้ ดูเราเป็นบุคคลที่น่าเป็นแบบอย่างที่ดี ส่วนตัวรู้สึกขอบคุณมากๆ"

"เราดีใจที่เราทำงานในศาสตร์ของเราได้เต็มที่ ตัวป๊อกเองไม่อยากเป็นเป็ด ที่ทำได้หลายอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง ซึ่งป๊อกพยายามที่จะทำงานในสายของตัวเองให้ดีที่สุด"

โดยคติชีวิตที่เธอยึดถือคือ

"ถ้าเรามีโอกาสได้ทำอะไรแล้ว เราควรทำ แล้วทำให้ดีที่สุด เพราะเราอาจจะมีวันนี้แค่วันเดียว ทำให้เต็มที่ ไม่มีอะไรจะเสีย" break a leg : ทำให้เต็มที่ สุดขีดไปแม้แข้งขาจะหักก็ช่าง ซึ่งเป็นคำของนักแสดงที่ชอบพูดเมื่อต้องออกไปแสดงหน้าเวที"

ไม่รับตำแหน่ง"เมียหลวง-เมียน้อย"

"ป๊อกเคยประกาศไปแล้ว (หัวเราะ) ว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเมียหลวงหรือเมียน้อย"


สาว"ป๊อก"ปิยธิดา วรมุสิก กล่าวอย่างอารมณ์ดี เมื่อถูกแซวถึงการรับบทเมียหลวงได้เนียนทั้ง "นางทาส" และ "เมียหลวง" เป็นเพราะอินกับชีวิตจริงตัวเองหรือเปล่า จากนั้นก็กล่าวพาดพิงถึง "ตั๊ก"นภัสกร มิตรเอม แฟนหนุ่มว่า "พี่ตั๊กเองก็หัวเราะ บอกเขาไม่ใช่ท่านเจ้าคุณ และไม่ใช่ดร.อนิรุทธิ์ 7 ปีที่คบกันมาเป็นเรื่องที่ป๊อกเองก็ทราบอยู่แล้วว่าเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้ และป๊อกเองก็ไม่ใช่คนขี้หึง เราเชื่อใจกัน พื้นฐานความไว้เนื้อเชื่อใจเราแน่นมาก เป็นเหมือนกำแพงที่หนาแน่นจนอะไรก็มาทำให้กำแพงหวั่นไหวไม่ได้"

เอ่ยถามเรื่อง 7 ปีที่คบกัน...?

ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ สาวป๊อกก็เอ่ยสวนทันควัน "มีคนพูดเยอะมาก ป๊อกมองว่า กลับกลายเป็นเรื่องดีที่มีคนพูด ชวนให้เราคิดระมัดระวังตัว แคร์ความสำคัญของเขามากขึ้นอีกในระดับหนึ่ง"


แต่บางคนที่ถูกทักเรื่องรักปีที่ 7 มีอาถรรพ์ จิตตกทำเอาชีวิตรักเขวไปบ้างก็มี?

ดาราสาวกล่าวแจง "ป๊อกว่าเรามีพื้นฐานความรักค่อนข้างแน่นมากด้วยกันทั้งคู่ เลยทำให้มองว่าเลข 3 เลข 5 เลข 7 ที่ให้ระวัง มีคนพูดเยอะๆ จะทำให้เราหวั่นไหว จิตตกไปได้ ซึ่งเราเองก็ไม่ได้ปิดหูปิดตาตัวเอง ไม่รับรู้ แต่บางอย่างเราเรียนรู้ รับรู้ได้ด้วยตัวเราเอง ในวันนี้เรารับได้ในความเป็นเขา และเขาเองก็รับได้ในความเป็นเรา และอย่าไปคาดหวังให้ใครมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเรา เพราะแท้จริงเราเองก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร นอกจากจะทำด้วยความเต็มใจ"

ว่ากันว่า ผ่านรักปี 1-2 ระวังจะหมดโปรโมชั่น แต่คู่ของเธอกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเธอแย้งว่า

"คู่ป๊อกไม่ใช่โทรศัพท์ที่จะมีโปรโมชั่น คู่เราไม่มีฮาร์ตเซลส์ เราค่อยๆ เริ่ม และเดินคู่กันไปเรื่อยมากๆ คบกันช่วงแรกๆ จี๋จ๋า ตัวติดกัน มีบ้าง แต่ช่วงหลังเริ่มเป็นเรื่องที่เข้าใจ ต่างคนต่างทำงาน ว่างก็จะเจอกันตามความเหมาะสม โตๆ กันแล้ว"

ถามถึงผลงานภาพยนตร์ของแฟนหนุ่มเรื่อง "โมเม้นต์ อิน จูน" ที่เล่นเป็นคู่เกย์กับ "ชาคริต แย้มนาม" ได้เนียน ป๊อกแง้ม

"อย่างที่รู้ เขาสนิทกัน ร่วมงานกันมาเยอะมาก มีความสนิทกันอยู่แล้วเลยทำให้เขาเล่นหนังเรื่องนี้ได้โอเคมาก ฝีมือสุดยอดด้วยกันทั้งคู่ ป๊อกดูตั้งหลายรอบ ชอบถึงขั้นโหลดเก็บไว้ในไอโฟนป๊อกเลย"

แอบหวั่นๆ บ้างไหม ป๊อกกล่าวเข้าประเด็น

"มีคนกลัวว่าจะเป็นรักสามเส้า เราสามคน (หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ ป๊อกรู้จักดีทั้งคู่ คนหนึ่งแฟนเรา อีกคนก็เป็นเพื่อนสนิทแฟนเราที่เราสนิทด้วย เป็นเรื่องที่เราเข้าใจกันดี ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมานั่งอธิบายว่าใช่ไม่ใช่ ไม่ต้องแล้ว"


เห็นมีแพลนวิวาห์ปีหน้า ป๊อกกระเซ้า

"รอให้เขามาขอก่อนเถอะ (หัวเราะ) ที่ผ่านมาเขายังไม่ได้มาสู่ขอเลย แต่ก็เป็นเรื่องที่คุยกันเป็นจริงเป็นจังมากขึ้น อาจจะเป็นเรื่องของสถานที่ว่าจะจัดงานประมาณไหน ส่วนเรื่องวันยังไม่ได้กำหนด ก็คงจัดงานในกรุงเทพฯ เพราะคนที่เรารู้จักส่วนใหญ่อยู่ที่นี่ เราแค่อยากให้คนที่ไปงานเรารู้สึกสนุก ประทับใจ อยากมาร่วมงานของป๊อกกับตั๊ก ไม่ใช่มาเพราะความเกรงใจ"

เรือนหอพร้อมหรือยัง?

ว่าที่เจ้าสาวพยักหน้า "พร้อมค่ะ แต่งแล้วคงจะอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่ใครบ้านใดบ้านหนึ่ง ไม่อยู่บ้านเขา ก็อยู่บ้านป๊อก ไม่อยากแยกบ้านไปอยู่ต่างหาก อยากอยู่กับพ่อแม่ ที่สำคัญ กลัวต้องไปทำงานบ้านเอง (หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ ที่ไม่อยากแยกบ้านเพราะกลัวอยู่ 2 คนแล้วเหงา"

จะไปยากอะไร แต่งแล้วรีบมีลูกเร็วๆ แค่นี้ก็ไม่เหงาแล้ว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์