หนูแหวนผวา!! เสพติดศัลยกรรม

"กลัวเหมือนกันนะ ยิ่งเห็นคนอื่นทำมาสวยๆ ยิ่งเกิดกิเลส อย่างผู้จัดการของแหวนจากตาตกไปทำมาตาโตแบ๊วเชียว"

"แต่คุณหมอก็ประหนึ่งพ่อกลัวคุณลูกสาวจะติดโรคนี้ เพราะคุณหมอไม่ใช่แนวการค้า ก็คอยเบรกเรา เอาไว้อายุ 30 แล้วค่อยมาคุยกัน เราก็จะบ่นอีกตั้งหลายปี ท่านก็คงรู้ว่าถ้าเราทำอันนี้แล้วก็อยากจะทำอันอื่นต่อ ท่านก็บอกว่าคนเรามันต้องมีจุดพอถ้าถึงจุดอิ่มตัวทำต่อไปก็จะไม่สวยแล้ว แต่ก็คงไม่มาแอบทำที่ไม่ใช่คุณหมอท่านนี้ คุณแม่ก็ไม่อยากให้ทำแล้ว ก็เลยสงบๆ ลงใจจริงแหวนก็อยากทำตาค่ะ

อยากไปเย็บกล้ามเนื้อตาให้เท่ากันเห็นคนไข้มาตาโตสวยมาก เลยเกิดกิเลส

พอขอทำบ้างคุณหมอก็จะบอกว่าหยุด ใช่ แต่ก็งงมากมีคนไปเม้าท์ว่าเราไปเหลากราม ไม่ได้เหลานะคะ เดี๋ยวจะเสียยี่ห้อ ถ้าเหลาทำไมหน้าใหญ่ขนาดนี้ แค่ไปเอาจมูกออกที่นั่นอย่างเดียว เพราะแหวนเป็นคนที่หนังจมูกบางคุณหมอก็เลยใส่หนังเทียมให้ ถ้าสมานแล้วค่อยกลับมาทำตามที่ต้องการใหม่"

ในอนาคตลูกค้าต้องแก้ไขอะไรอีกมั้ย

"ถ้าอย่างจมูกคงไม่ต้อง เพราะวัตถุดิบที่เค้านำมาใช้คือกลอเทคส์จะไม่เหมือนซิลิโคน มันจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกับเราหลังทำแล้วเพราะมันละเอียดมาก แต่ถ้าสมมุติลูกค้าทำไปแล้ว 3 ปีอยู่ดีๆ ก็อยากเอาออกมันอาจจะถอดยากนิดหนึ่ง เพราะเซลล์ เนื้อเยื่อไปหุ้มหมดแล้ว แต่มันก็ดีตรงที่ธรรมชาติมากจะตบตีโดนต่อยก็อยู่อย่างนั้นเหมือนเป็นกระดูกอ่อนของเราไปเลยไม่ต้องถอดเปลี่ยนเรื่อยๆ"

ได้ยินว่าเดี๋ยวนี้พี่ เอ-ศุภชัย ก็ส่งเด็กไปอัพหน้ากับหนูแหวนแทบจะทุกคน

" ก็มีบ้างค่ะ อย่างกุ๊บกิ๊บก็ตั้งแต่ปีที่แล้วตอนเปิดใหม่ๆ แต่บอกไม่ได้ว่ามีใครบ้างแล้วกี่คน เป็นความลับของคนไข้ แล้วแต่พี่เอจะเปิดเผยเองนะคะ อย่างเห็นข่าวกุ๊บกิ๊บตกใจมากฉันไม่ได้พูดนะ ถ้าเป็นคนในสังกัดพี่เอ แหวนก็จะไม่คิดแพง แทบจะไม่เอากำไรเลย ถ้าเป็นคนนอกก็ต้องบวกค่าบริการไปที่ควรจะเป็นค่ะ"

ธุรกิจไปได้สวยเลยใช่มั้ย

"ดีกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ สวนกระแสมากเลย ผู้หญิงเราเรื่องความสวยความงามก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง"