เต๋าสมชายเบี้ยวยื่นหลักฐานเพิ่มตื้บโกตา
เต๋า สมชาย เบี้ยว ไม่ส่งพยานสำคัญให้ตำรวจลำปาง ตามนัด ทนายอ้าง เป็นพยานบุคคล ตำรวจต้องเรียกมาสอบเองลั่น สามารถพลิกข้อกล่าวหาได้เต๋าเบี้ยวนัดส่งพยานสำคัญอีกแล้ว
นายรัฐพล พุทธรอด ทนายความส่วนตัวของ เต๋า สมชาย เข็มกลัด เปิดเผยถึง การเข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติม ในคดี เต๋าทำร้ายร่างกาย นายวีระชาติ เด่นศิริกุล อายุ 56 ปี หรือ โกตา ที่ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง นัดไว้ในวันนี้ว่า วันนี้เต๋า ไม่สามารถนำหลักฐานสำคัญดังกล่าวไปให้พนักงานสอบสวนได้ เนื่องจาก พยานดังกล่าวนั้นเป็นพยานบุตคล และเป็นข้าราชการ ใน จ.ลำปาง จึงต้องประสานให้ตำรวจ ทำหนังสือเรียกพยานดังกล่าวมาสอบสวนเอง
ส่วนพยานเอกสานนั้นก็ยังไม่สามารถมอบให้พนักงานสอบสวนในวันนี้ได้เช่นกัน ซึงขอยืนยันว่า
พยานบุคคลดังกล่าวนั้น จะสามารถพลิกข้อกล่าวหาในคดีนี้ได้ และในเวลาประมาณ 12.00 น. ก็จะประสานกับพนักงานสอบสวน อีกครั้งหนึ่ง ส่วนการส่งตัวพร้อมสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวให้อัยการ ในวันที่ 17 มี.ค.นั้น เต๋า ยืนยันว่า จะไปพบ อัยการ ตามที่พนักงานสอบสวน นัดไว้ ไม่ขอเลื่อน และหากตำรวจ ยังไม่เรียกพยานคนสำคัญไปสอบ ก็จะทำหนังสือถึงอัยการด้วย
อย่างไรก็ตาม การส่งหลักฐานเพิ่มเติมในคดีนี้ เกิดจาก การที่ เต๋า ไปร้องเรียน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ลำปาง
ว่ามีหลักฐานสำคัญในคดี เจ้าหน้าที่จึงทำการนัดหมายให้ส่งมอบในวันนี้ แต่ก็เกิดปัญหาตามมา ซึ่งคดีนี้เป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกายเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา เต๋า ได้ไปร้องเรียน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอโอนย้ายคดี แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากพิจรณาแล้วพบว่า พนักงานสอบสวนในพื้นที่ ก็ดำเนินการตามกระบวนการ ไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด
พยานบุคคลดังกล่าวนั้น จะสามารถพลิกข้อกล่าวหาในคดีนี้ได้ และในเวลาประมาณ 12.00 น. ก็จะประสานกับพนักงานสอบสวน อีกครั้งหนึ่ง ส่วนการส่งตัวพร้อมสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวนนัดส่งตัวให้อัยการ ในวันที่ 17 มี.ค.นั้น เต๋า ยืนยันว่า จะไปพบ อัยการ ตามที่พนักงานสอบสวน นัดไว้ ไม่ขอเลื่อน และหากตำรวจ ยังไม่เรียกพยานคนสำคัญไปสอบ ก็จะทำหนังสือถึงอัยการด้วย
อย่างไรก็ตาม การส่งหลักฐานเพิ่มเติมในคดีนี้ เกิดจาก การที่ เต๋า ไปร้องเรียน ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ลำปาง
ว่ามีหลักฐานสำคัญในคดี เจ้าหน้าที่จึงทำการนัดหมายให้ส่งมอบในวันนี้ แต่ก็เกิดปัญหาตามมา ซึ่งคดีนี้เป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกายเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา เต๋า ได้ไปร้องเรียน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอโอนย้ายคดี แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากพิจรณาแล้วพบว่า พนักงานสอบสวนในพื้นที่ ก็ดำเนินการตามกระบวนการ ไม่ได้นิ่งเฉยแต่อย่างใด
https://www.facebook.com/teeneedotcom