โคตรโดน!เตือนสติชาวเน็ตปมดราม่าออม กรณ์นภัส นี่ไม่ใช่วิจารณ์แต่คือBully!

กลายเป็นดราม่าแบบไม่ควรดราม่า กับกรณี ดาราสาว ออม กรณ์นภัส หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องพฤติกรรมประกาศรางวัลบนเวที Yentertain Awards 2025 ที่หลายคนมองว่าไม่เหมาะสม และดูไม่เป็นมืออาชีพ

ในคลิปที่ถูกแชร์ว่อนในออนไลน์ เผยให้เห็นจังหวะที่ออมกำลังประกาศรางวัล แต่มีการแลบลิ้น และหลุดหัวเราะ น่าจะเกิดจากความตื่นเต้น จนชาวเน็ตบางส่วนมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติกับงานและผู้ที่ได้รับรางวัล พร้อมทั้งคอมเมนต์ตำหนิอย่างดุเดือด และลามปามจนล่าสุดต้นสังกัดอย่าง BEC World ออกมาร่อนแถลงการณ์ดำเนินคดีชาวเน็ตทั้งแพ่งและอาญาชาวเน็ตที่วิพากษ์วิจารณ์แบบเกินเลย และหยาบคาย

 และล่าสุดเพจดัง #ตุ๊ดส์review ได้ออกมาโพสต์ถึงเรื่องนี้ซึ่งถือเป็นโพสต์ที่ได้รับความสนใจถูกแชร์และแทนใจแฟนๆของออมอย่างมาก ระบุว่า

ดราม่างานประกาศรางวัล ที่คนด่า ‘ออม' ไม่ยอมจบ

1) มันมีงานประกาศรางวัลเวทีหนึ่งที่น้องออม กรณ์นภัส #ormkornnaphat ได้รับเกียรติขึ้นไปประกาศรางวัลนักแสดงนำชาย แต่ด้วยความประหม่า ผิดพลาดใดๆ ที่ออกมาแล้วมันไม่ work ในสายตาคนดู ก็มีคำวิจารณ์ให้ปรับปรุงเรื่องความเป็นมืออาชีพ หรือการแสดงออก หรือการควบคุมสติอารมณ์ให้รับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้า ก็มีข้อความดีๆจำนวนมาก ที่หวังดี และมองเรื่องนี้ด้วยความเข้าใจว่าคนเรามันผิดพลาดได้ แก้ไขได้ พัฒนาได้

2) แต่น่าแปลกใจมาก ที่ Event ผ่านไปหลายวัน กลับมีหลายคนด่าไม่หยุด ไปขุดคลิปเก่าๆมาโจมตีน้อง เริ่มด่าทอไปที่เรื่องนิสัย การวางตัว มารยาท ไปไกลถึงกับเหยียบย่ำความเป็นตัวตนของเขา บางคนเอาคลิปของน้องไปเปรียบเทียบกับน้กแสดงคนอื่นที่มาประกาศรางวัล เพื่อกดอีกคนให้ต่ำกว่า ไปยกอีกคนให้สูงขึ้น เอาจริงๆคนเราอาจจะแค่วิจารณ์ เพราะแค่หาเป้านิ่งเพื่อไปด่าเขาเอาสนุกปาก สะใจไปวันๆเท่านั้นเอง โดยลืมความเป็นมนุษย์ไป ลืมไปว่าคนรับสารมีหัวใจ ลืมว่าเขาเป็นคนคนหนึ่ง อาจจะเพราะการพิมพ์ในโลกโซเชียล คนอยู่กับหน้าจอสี่เหลี่ยม จึงลดความเป็นมนุษย์ในใจคนไปมากทีเดียว

3) เราเชื่อว่า positive feedback หรือการ comment แบบชมเชย มันดูไม่ได้เป็นปัญหามาก แค่ชื่นชมความเก่งใครสักคนอย่างจริงใจ แต่ถ้าเป็น negative feedback ไม่ชม แต่จะติเพื่อก่อ เพื่อการพัฒนา จะทำอย่างไรให้คนอยากฟัง หรือรับฟังได้ล่ะ??? แล้วส่วนหนึ่งเลย พ่อแม่ หรือครู หรือคนไทยนี่แหละวิจารณ์กันไม่ค่อยเป็น ไม่ชม กลายเป็นด่าไปเลย เพราะขาด communication skills เรื่อง constructive criticism ครับ

4) การจะคิดได้ว่าจะโอเคกับคำวิจารณ์ของคนอื่นที่เข้ามาปะทะ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ เพราะเราเองก็ต้องเลือกสรรคำวิจารณ์ที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับกับเหมือนกัน เพราะบางคน comments ไม่ได้ให้คุณค่ากับเรา หรือให้สาระที่ทำให้เราพัฒนาได้ แต่ทำให้เรารู้สึกหดหู่ ตกต่ำ หรือเศร้าหมองก็มี เพราะคนใช้ความสะใจในการ comment มันกลายเป็น social bullying ไม่ได้ประโยชน์ต่อคนฟังใดๆ ทำร้ายคนอื่นเปล่าๆ

5) การให้ negative comments แบบ constructive criticism เป็นเรื่องต้องฝึกฝนนะครับ ฝึกอย่างไร? มันคืออะไรเหรอ? การวิจารณ์สร้างสรรค์ คือการวิจารณ์ที่มีองค์ประกอบหลัก 3 อย่าง ได้แก่

1. ต้องเป็นการให้ Feedback ที่นึกถึงผลประโยชน์ของผู้รับ : มีเป้าหมายและประเด็นที่ชัดเจนว่าเรื่องอะไร เพื่อให้ผู้รับเกิดการพัฒนา ไม่ใช่เพื่อทำลายความมั่นใจ ไม่ทำร้ายใครให้ตายทั้งเป็นเพราะคำวิจารณ์ลบๆ

2. ต้องตัดเรื่องอารมณ์ส่วนตัวออกไป : ไม่ว่าจะทั้งผู้ให้หรือผู้รับ ส่วนนี้อาจจะเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการให้ฟีดแบค เมื่อมีคนมาชี้ข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนของเรา ย่อมทำให้เกิดความไม่พอใจ ด้วยเหตุนี้การตั้งสติรับฟังและตัดอารมณ์ส่วนตัวออกไป จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ใช่การมุ่งด่า เหมือนเขาไปฆ่าใครมา หรือทำให้ผลักให้เขารับอารมณ์ทางลบ เพราะความไม่พอใจใดๆของเรา

3. ต้องเป็น Feedback สามารถนำไปปรับปรุงและพัฒนาได้จริง ไม่ควรให้ฟีดแบคที่แก้ไขไม่ได้ หรือคำแนะนำที่ผู้รับรู้สึกเกินเอื้อมเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง ถ้าพูดแล้วไม่ได้ให้ประโยชน์ในทางพัฒนาได้ นั่นไม่สร้างสรรค์เลยครับ

6) เราทำเพจวิจารณ์ (review) มันเป็นรูปแบบของการหาประโยชน์คุณค่าจากเรื่องราวรอบๆตัว เอามาเล่าต่อวิเคราะห์ และให้การต่อยอดมุมมองเพื่อทำให้คนมองเรื่องเดิมๆได้สร้างสรรค์มากขึ้น แต่คนมีความเข้าใจผิดว่า "ไปเขียนด่าคนนั้นคนนี้" ตรงนี้ทำให้เราพัฒนาไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถแยกการด่า กับการวิพากษ์วิจารณ์ หรือ feedback ที่เป็นประโยชน์ พอแยกไม่เป็น การวิจารณ์กลายเป็นการด่าไปหมด ซึ่งไม่ใช่ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเลย

7) เหตุผลที่คนไม่ค่อยกล้าฟัง feedback ทางลบ หรือคำวิจารณ์ที่ไม่ชม เพราะมันทำร้ายจิตใจ จากคนที่ให้ feedback ไม่เป็น เป็นการด่าทอมากกว่า แทนที่จะรู้สึกว่าฟังแล้วเอาไปพัฒนาได้ แต่ฟังแล้วเจ็บปวดใจ ใครจะอยากฟัง เราเรียกคำวิจารณ์แบบนั้นว่า "Destructive Criticism" การวิจารณ์แบบทำลายล้าง เราต้องเปลี่ยน negative feedback ให้กลายเป็น constructive criticism ให้เป็น เพื่อประโยชน์ของคนรับสารครับ

8 ) เรามาดูสถานการณ์ตัวอย่างง่ายๆที่ครูทำกับเด็ก แล้วมันเปลี่ยนความรู้สึกเด็กไปเลย แค่พูด feedback เด็กต่างกัน เช่น กรณีเด็กตอบผิด แล้วจะ feedback เด็กนักเรียน ระหว่าง A "ที่เธอตอบมาไม่ใกล้เคียงกับคำว่าถูกเลย" เปลี่ยนเป็น B "เมื่อครู่ได้ยินคำถามชัดไหม? มีตรงไหนที่ครูอธิบาย หรือพูดไม่เข้าใจ ถามครูได้เสมอนะ" ความรู้สึกของเด็ก จะแตกต่างมากเลยครับ

หรืออีกกรณีหนึ่ง การพูดถึงการปรับบุคลิกภาพ A "เธอขาสั้นจัง อย่าแต่งตัวแบบนี้อีกนะ" กับ B "ลองเลือกรองเท้า และทรงกางเกงทรงนี้ รับรองว่าจะช่วยให้ช่วงขายาวขึ้นได้นะ" ฟังแล้วต่างไหมครับ เข้าใจไหมว่า ทำไมคนวิจารณ์ไม่เป็น โคตรไม่ให้คุณค่าอะไรเลยกับคนฟัง

9) เราเชื่ออย่างหนึ่งนะ ว่าคนเราจะพัฒนาได้ ต้องกล้ารับคำวิจารณ์ได้ ต้องแตะต้องได้ สิ่งใดที่วิจารณ์ไม่ได้ แตะต้องไม่ได้ ไม่มีวันพัฒนา หรืออยู่ร่วมกับสังคมได้ เพราะไม่รู้ปัญหาของตัวเอง มองไม่เห็นหนทางการทำให้ดีขึ้น ไปสู่การปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ดังนั้นคนที่จะเป็นคนที่สังคมยอมรับได้ ย่อมต้องกล้ารับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เสมอ ให้ตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นครับ

10) คนที่อันตรายคือ คนที่รับฟังได้แค่คำชม คำสรรเสริญ ห้ามด่า ห้ามติ ห้ามพูดอะไรที่ไม่เข้าหู เราห้ามเสียงคนอื่นไม่ให้พูดถึงเราไม่ดี ควบคุมทุกคนห้ามพูดถึงเราในทางที่เราไม่ชอบไม่ได้ แต่เราต้องปรับตัว และเลือกฟังคำ comment ที่เป็นประโยชน์ให้เป็น และไม่เอาคำพูดแย่ๆของคนอื่น มาบั่นทอนทำร้ายจิตใจตนเอง จงเชื่อเสมอว่าเรามีคุณค่า และเราไม่ได้ชีวิตตกต่ำลงเพียงเพราะคำวิจารณ์ หรือคำพูดของใคร ทำร้ายชีวิตเราไม่ได้เลยครับ

11) สำรวจดูตัวเองง่ายๆ "อะไรที่ไม่กล้าพูดต่อหน้า อย่าพิมพ์ลงโซเชียล" จริงๆนะ เพราะแสดงว่าเรารู้ว่ามันต่ำ และน่ารังเกียจมากแค่ไหน อย่าเอามันออกมา ไม่มีค่าเลย มันแสดงความต่ำของคนที่พิมพ์มันออกมาได้อย่างดี นี่แหละบทเรียนที่เราต้องเรียนรู้ และอย่าลืมว่าทุกคำมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ ขึ้นศาลคดีหมิ่นประมาท ไม่สนุกขนาดนั้นครับ

ขอให้ผู้คนใจดีกับคนฟัง หมั่นให้คำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์มีประโยชน์ต่อสังคม และสร้างสรรค์ชีวิตเราต่อไปด้วยการรับฟังคำวิจารณ์อย่างเปิดใจ และอย่าปล่อยให้คำพูดใครมาทำร้ายเราได้นะครับ take care ครับ

#ตุ๊ดส์review

เครดิตแหล่งข้อมูล : IG ตุ๊ดส์review