ศึกชิงมรดก "เอ๋ ไพโรจน์" เดือด! ภรรยา-ลูกสาว โต้กันยับ!

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในวงการบันเทิง หลังจากที่นักแสดงอาวุโส เอ๋ ไพโรจน์ ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่จบลงง่าย ๆ เมื่อภรรยาและลูกสาวของนักแสดงผู้ล่วงลับต่างออกมาโต้แย้งกันอย่างดุเดือดเกี่ยวกับเรื่องมรดกและสิทธิในทรัพย์สิน

ฝั่งภรรยา: อ้างสิทธิในฐานะผู้ร่วมชีวิต 20 ปี
พลอยรัชษ์ ภรรยาของเอ๋ ไพโรจน์ ได้ยื่นเรื่องต่ออัยการเพื่อขอความคุ้มครองสิทธิและขอความเป็นธรรม โดยเธอกล่าวว่าเธอและเอ๋แต่งงานกันที่ออสเตรียในปี 2552 และอยู่กินกันมาตั้งแต่ปี 2547 แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสในไทย หลังจากเอ๋เสียชีวิต เธอไม่มีโอกาสได้รับศพ ไม่มีใบมรณบัตร และไม่มีส่วนร่วมในงานศพเลย

สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้นคือ หลังจากที่เอ๋เสียชีวิตได้เพียง 15 วัน พลอยรัชษ์ อ้างว่าลูกสาวของเอ๋ (กับภรรยาเก่า) ได้แจ้งเธอว่าบ้านที่เธออาศัยอยู่กับเอ๋ได้ถูกโอนไปให้คนอื่นแล้ว และเร่งให้เธอย้ายออกไป

เหตุการณ์บานปลายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อ พลอยรัชษ์ กลับถึงบ้านแล้วพบว่าไม่สามารถเข้าบ้านได้ เนื่องจากลูกบิดถูกเปลี่ยน เธอจึงแจ้งตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นเธอกลับถูกตำรวจขอให้ออกไปจากบ้านในวันที่ 5 กรกฎาคม โดยอ้างว่าเธอเป็นผู้บุกรุก จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม เธอจึงตัดสินใจยื่นเรื่องต่ออัยการเพื่อขอความเป็นธรรม

ฝั่งลูกสาว: ยืนยันสิทธิตามกฎหมาย
ในทางกลับกัน เบสท์ ปณิชา ลูกสาวของ เอ๋ ไพโรจน์ ได้ออกมาโต้แย้งประเด็นดังกล่าว โดยชี้แจงว่า พลอยรัชษ์ ไม่ได้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และพ่อของเธอก็เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่าได้เลิกรากันไปแล้ว

เบสท์ เผยว่า หลังจากที่พ่อเสียชีวิต พลอยรัชษ์ ได้นำรถยนต์ของพ่อไปซ่อน และไม่ยอมคืน จึงได้แจ้งความในข้อหายักยอกทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่ามีทรัพย์สินบางอย่างในบ้านหายไป และยอมรับว่าได้เปลี่ยนลูกบิดบ้านจริง เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่กลับถูกสะเดาะกุญแจและเปลี่ยนล็อกใหม่ สลับกันไปมา จนทำให้เกิดปัญหาเรื่องสิทธิการอยู่อาศัยขึ้น

ขณะนี้ เบสท์ กำลังรอคำสั่งศาลเพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดกตามกฎหมาย โดยยืนยันว่าทรัพย์สินของพ่อมีเพียงรถและบ้านเท่านั้น และเคยเสนอเงินช่วยให้ พลอยรัชษ์ ไปตั้งตัวแล้ว แต่ถูกปฏิเสธ เพราะอีกฝ่ายอ้างสิทธิในฐานะภรรยาเพื่อเรียกร้องมรดก ทั้งที่ตามกฎหมายแล้วไม่มีสิทธิ์

สถานการณ์นี้จึงกลายเป็นมหากาพย์ที่ต้องติดตามว่าศาลจะตัดสินให้ฝ่ายใดมีสิทธิ์ในมรดกของ เอ๋ ไพโรจน์ กันแน่ และเรื่องราวจะจบลงอย่างไรในที่สุด?