กุ้ง สุธิราช ยังหวังปาฏิหาริย์ น้องสาวป่วยหนัก รักษาตัวนานเกือบ 1 ปี

กุ้ง สุธิราช ยังหวังปาฏิหาริย์ น้องสาวป่วยหนัก รักษาตัวนานเกือบ 1 ปี เผยตอนนี้ยังเหมือนเดิม ยังคงไม่รู้สึกตัว ยังนอนอยู่โรงพยาบาล ครอบครัวยังคงรอคอยปาฏิหาริย์อยู่เสมอ หลังจากที่ วิ-วิรดา วงศ์เทวัญ น้องสาว กุ้ง สุธิราช ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกชนิดรุนแรง และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระยะเวลากว่าเกือบ 1 ปีแล้ว

ล่าสุด (10 ธ.ค.) กุ้ง ได้ให้สัมภาษณ์ พร้อมกับอัปเดตอาการของน้องสาว หลังรักษาตัวมานานเกือบ 1 ปี ที่บอกว่าตอนนี้ยังเหมือนเดิม ยังคงไม่รู้สึกตัว ยังนอนอยู่โรงพยาบาล

จะครบปีแล้ว เป็นยังไงบ้าง?
ก็ยังเหมือนเดิมครับ ยังคงไม่รู้สึกตัว ยังนอนอยู่โรงพยาบาลครับ ปลายปีนี้ก็จะครบ 1 ปีเต็ม

เฝ้ารอปาฏิหาริย์?
ก็เฝ้ารอครับ ยังรออยู่ ก็ยังมีความหวังเล็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่มีการสื่อสารอะไรออกมา ให้เราได้เห็นชัดเจนว่าดีขึ้น ก็ยังทรง ๆ

จิตใจคนในครอบครัวมันเริ่มห่อเหี่ยวไหม?
ทุกคนก็ยังสู้นะ ยังรอคอยความหวังอยู่แหละ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็อยู่กับความเป็นจริง ในส่วนตัวของผมเอง ก็อยู่กับความเป็นจริง ก็ต้องยอมรับให้ได้ในทุกแบบ แต่ก็พยายามให้กำลังใจคนในครอบครัว ให้กำลังใจญาติพี่น้อง คุณแม่นี่ก็คือคนสำคัญที่ต้องให้กำลังใจมาก ๆ

ในระยะเวลาเกือบ 1 ปี น้องยังเหมือนเดิมทุกอย่างไหม?
คือยังเหมือนเดิม ร่างกาย หน้าตา ยังเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่ว่าสมองยังไม่ทำงาน ไม่ซูบผอมลง ค่อนข้างปกติมาก ๆ

คุณหมอว่าอย่างไรบ้าง?
คือตอนนี้คุณหมอก็ไม่ได้ให้ความหวังอะไรมากครับ ก็คือรักษาไปตามอาการ พยายามไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้มีอะไรที่มันหนักกว่านี้ ซึ่งก็อยู่แบบทรง ๆ แต่ในเรื่องของสมองก็ยังคงนิ่งอยู่

ปาฏิหาริย์ที่เราหวังกัน คุณหมอว่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ไหม?
ทางการแพทย์ก็คงไม่ได้ให้ความหวังอะไรขนาดนั้นครับ ก็ยังสู้ครับ ยังไหว้พระขอพรกันอยู่ หวังว่าปาฏิหาริย์มันจะเกิดขึ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ

ครอบครัวตั้งใจจะรักษาไปตลอดเลยใช่ไหม?
ใช่ ๆ ยังคงดูแลรักษาน้องแบบเต็มที่ครับ เดี๋ยวดูว่าหลังจากนี้ ใกล้ครบประกันแล้ว อาจจะต้องย้ายอีก แต่ยังหาข้อสรุปกันอยู่

ประกันจะหมดเมื่อไหร่?
คิดว่าน่าจะอีกสักพักนึง สิ้นปีนี้ประกันยังถึงอยู่ แต่ปีหน้าน่าจะต้องเริ่มใหม่ เพราะน่าจะครบแล้ว

เรื่องค่ารักษาพยาบาล ครอบครัวเตรียมไว้อย่างไรบ้าง?
ก็ต้องสู้กันแหละ ยังไงเราก็อยากให้ดูแลน้องให้ดีที่สุด

หมดประกันแล้วจะทำยังไงต่อไป?
ที่คุยกับทางประกัน เขาก็ต่อให้แหละครับ แต่ว่าต้องเว้นระยะประมาณ 90 วัน ในช่วง 90 นี้ เราก็ต้องดูแลกันเอง น่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเยอะมาก ก็เตรียมไว้เท่ามีครับ สู้กันเต็มที่ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรื่องจิตใจมากกว่าที่สำคัญ เพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก จากเมื่อปีที่แล้ว จนมานี่จะชนปีแล้ว ก็ยังไม่เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็ยังทรง ๆ อยู่ ได้แต่ภาวนา ได้แต่ให้กำลังใจกันกับคนที่ไปเฝ้า

มีถอดใจไหม?
ถามว่าถอดใจไหมเหรอ มันไม่ได้ถอดใจครับ อย่างน้อยเราได้เห็นน้องเราอยู่ทุกวัน ผมก็เอาตามความเป็นจริง ถ้าอะไรมันไม่ดีขึ้น มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น ถ้ามันดีขึ้น เราก็จะได้เห็นกัน เพียงแต่ว่าเราดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง

จะดูแลจนกว่าเขาจะไปด้วยตนเองใช่ไหม?
ก็คิดอยู่ว่าเราจะต้องดูแลกันไป

ที่ผ่านมาค่ารักษาพยาบาลหมดไปเท่าไหร่แล้ว?
ตอนนี้ก็น่าจะ 10 กว่าล้านขึ้นแล้วครับ แต่ประกันเขาจะอยู่ที่ 15 แล้วหลังจากนั้นก็ต้องมาดูแลกันเองก่อน ก็ต้องเตรียมกันแหละครับ

หลังจากครบ 90 วัน ประกันที่ต่อให้จะมีข้อแม้อะไรเพิ่มไหม?
โชคดีที่เขาก็เหมือนเดิมครับ 15 ล้านครับ

หลายคนเป็นห่วงคุณแม่?
เขาก็เต็มที่ที่สุดแล้วครับคุณแม่ เราพยายามบอกเขาว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ถามว่าเรารักไหมห่วงไหม เราก็รักน้องที่สุด แม่ก็แน่นอนอยู่แล้ว ก็ทำให้เต็มที่ที่สุด แม่มีเวลาก็ต้องไปเฝ้า แต่ก็ไม่ได้ให้อยู่ตลอดเวลาทุกวันนะ บางทีผมไปงาน ก็พาคุณแม่ไปด้วย เพื่อที่จะให้เขาได้ออกมาข้างนอก ได้มีรีแลกซ์บ้าง

ท่านยังมีเศร้าหรือร้องไห้ไหม?
ผมว่าเขามีความหวังอยู่ตลอดเวลา ที่ไหนบอกมาเขาก็รู้สึกว่าเออ มันน่าจะได้นะ น่าจะช่วยได้ ก็หวังพึ่งเพื่อให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นตลอด ซึ่งเราก็ได้แต่บอกกับแม่ ให้แม่อยู่กับความเป็นจริง อยู่กับสิ่งที่เห็นว่าเป็นยังไง ดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้น คนอื่นมองไม่เห็นเท่าเราเห็น เพราะเราอยู่ใกล้ชิดที่สุด เพราะฉะนั้นคนอื่นที่บอกว่าจะดีภายใน 3 วัน 7 วัน เราเชื่อเขาไม่ได้ ก็รับฟัง แต่ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแต่ว่าเราเชื่อคุณหมอ แล้วก็พยายามดูแลกันมากกว่า

คือมีคนเอาดวงไปดูให้หรืออย่างไร?
ใช่ ๆ มีครับหลายที่ เขาก็จะให้ความหวัง มาช่วย คือถามว่ากลัวโดนหลอกไหม ก็คงไม่มีในเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง ที่จะต้องมาทำเท่านี้น้องถึงจะฟื้น เพราะเราก็จะคอยดูอยู่ บอกแม่ว่าอันไหนที่เราทำแล้วสบายใจ หรือเราหวังว่ามันจะดีขึ้นก็ทำ แต่ไม่ใช่ว่าเราไปทุ่มเทเสียเงินเสียทอง โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นยังไง ดูจากความเป็นจริงมากกว่า

มีอะไรฝากถึงแฟนๆ ที่เป็นห่วงไหม?
ก็ขอบคุณทุก ๆ กำลังใจครับ ที่มีมาให้ตลอด1 ปีเต็มๆ ผมว่าน้องก็คงรับรู้ได้ ส่วนคนในครอบครัวเราก็รับอยู่แล้ว ขอบคุณทุกๆ กำลังใจ ที่ส่งมาให้ เราก็พยายามทำหน้าที่แทนน้องให้ดีที่สุด ก็ยังหวังแหละ ยังไงก็ยังหวังให้มีปาฏิหาริย์เล็ก ๆ น้อยๆ อย่างน้อยมากที่สุด ก็คือให้อยู่ในสภาพนี้ ให้เราได้ดูแลน้อง

เครดิตแหล่งข้อมูล :วันบันเทิง