ความจริงเปิดเผย 2คนนี้ทะเลาะกันหนักเรื่องอะไร ไม่คุยกัน15ปี

ทะเลาะกัน 15 ปี ไม่คุยกัน?
โก้ : ไม่อยากเชื่อเหมือนกันนะว่าพวกเราจะได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง เพราะไม่คุยกันนานถึง 15 ปีแล้ว

เริ่มตอนไหน?
โก้ :น่าจะ 17 ปีที่แล้ว สมัยออกพ็อกเก็ตบุ๊ก ที่ดาราออกพ็อกเก็ตบุ๊กของตัวเอง เราก็บอกว่าแหม่ม เดี๋ยวขึ้นไปเป็นพิธีกรให้หน่อยนะ แหม่มก็บอกว่าพิธีกรอะไร เป็นไม่ได้ ไม่พร้อม ทำไมไม่บอกก่อน
แหม่ม วิชุดา : อยู่ ๆ เรียกมัดมือชกได้ไง ทำไมไม่บอกก่อน
โก้ :จากนั้นก็มีเสียงข้างหลังเป็นซุปตาร์ข้างหลังบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเป็นแทนให้ก็ได้ หันไปคือ เก๋ ชลลดา เขาเห็นเราสองคนทะเลาะกัน แหม่มหันมาปุ๊บ บอกว่ามีพิธีกรแล้วใช่มั้ย ก็สะบัดลุกกลับบ้านเลย

อารมณ์นั้นที่พูดกับโก้ พูดแซวเล่นหรือคิดจริงจังจัง?
แหม่ม : สมัยก่อนพี่ไม่เหมือนตอนนี้ เมื่อ 17 ปีก่อน
โก้ : (หัวเราะ) หนักกว่าหนิงเยอะ หนิงเรียบร้อยไปเลย
แหม่ม วิชตา : สมัยก่อนพี่เฟียสมาก สุดๆ ปวดหัวมาก พี่ก็เป็นคนเดาใจไม่ถูก ที่รู้สึกว่าอ้าว มาตั้งนานแล้วทำไม่ไม่บอก ถ้าบอกจะได้ขึ้นให้ อยู่ๆมาบอกตอนนี้ ไม่ขึ้น เพื่อนสนิทมีสิทธิ์ทำทุกอย่างกับเพื่อนแบบบนี้เหรอ ตอนนั้นคิดแบบนั้น ฉันเป็นเพื่อนเธอ เธอควรรู้นิสัยฉัน ว่าฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้ เธอก็ควรบอกฉันก่อน ก่อนให้ฉันทำอะไร ตอนนั้นคิดแบบนี้ พอรู้ว่ามีคนทำให้แล้วก็โอเค ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วนี่ ก็กลับเลย

พี่โก้รู้สึกน้อยใจ?
โก้ : น้อยใจมาก เขาออกฤทธิ์ออกเดชกับดนรอบข้างอยู่แล้วเยอะแยะ เราไม่คิดว่าเราที่เป็นคนสำคัญที่สุดโมเมนต์นั้นของเขา เขาจะทำกับเราได้ ตอนนั้นนั้นเศร้าและเสียใจมาก กลางปีแหม่มเขาออกพ็อตเก็ตบุ๊กนักของเขา ที่ถักโครเซอะไรของเขา เราก็บอกว่าแหม่มถ้าสิ้นปีที่ออกพ็อตเก็ตบุ๊กของพี่ แหม่มมาเป็นพิธีกรให้บ้างนะ แค่นั้นเอง พอปลายปี เราก็ว่าเราย้ำบอกเขาแล้วนะ ไม่รู้เขาไปเดินสะลดหกล้ม หรือใครไปทำของใส่เขาหรือเปล่า เขาตีเบลอ แต่เรื่องตีเบลอกับแหม่มเป็นเรื่องปกติ ที่เล่นในเป็นต่อบางที่เป็นนิสัยเลย ดูสมบทบาท คาแรกเตอร์กวนประสาท แต่ก่อนหนักกว่านี้อีก

กี่เท่า?
โก้: โฮโห เป็นร้อย ไปงานไหนเราต้องคอยเป็นห่วงว่าแหม่มจะเหวี่ยงใครหรือเปล่า ซึ่งแหม่มเหวี่ยงทุกคน ยกเว้นเรา เราไม่คิดว่าเหดการณ์วันนั้นแหม่มจะมาเหวี่ยงใส่คนที่คิดว่าเหลือคนสุดท้ายแล้วนะ คนสุดท้ายที่ยืนข้างแหม่ม แหม่มยังจงจะเหวี่ยงอีกเหรอ

ร้องมั้ย?
โก้ : ไม่ร้อง แต่เสียใจมาก เหมือนคนเฮิร์ต ผิดหวัง โอ้โห นี่คือเพื่อน น้อง คนที่เรารักขนาดนี้
แหม่ม : เธอคิดกับฉันมากกว่านั้นแหละ เธอถึงได้เสียใจขนาดนั้น
โก้ : เราเสียความรู้สึกกับการเหวี่ยงของเขา
แหม่ม : จะบอกว่าวันนั้นมุมพี่ก็รู้สึกว่าพี่ไปก่อนใครเพื่อนเลยนะ ไปเร็วเพราะคิดว่าจะให้ทำอะไรหรือเปล่า ก็รีบไป ระหว่างนั้นรู้ว่าพี่โก้ยัง แต่ไปตั้งแต่งานยังไม่เริ่มหลายชั่วโมงมาก บอกตอนนั้นจะได้เตรียมตัว เพราะพี่ไม่ถนัดทำพิธีกร เป็นพิธีกรไม่เป็น ที่ก็คิดว่ามีอะไรให้ทำมั้ย ไม่มีเหรอ ก็เดร็ดเคร่ไปแถวนั้น พอเวลามาบอกหน้างาน เราก็รู้สึกว่า อ้าว อะไรวะเนี่ย
โก้ : อย่ามา พิธีกรก็เป็นอยู่แล้ว ไม่ได้ยากเลย
แหม่ม : ถึงบอกไงว่าเป็นเรื่องของการไม่สื่อสาร บวกกับพี่เป็นคนแบบนั้นด้วย เป็นคนเรื่องมาก

พี่ทิ้งเหตุการณ์ผ่านไป 15 ปีได้ยังไง?
โก้ :ระหว่างทางมันมีนะ อย่างเช่นเราต้องไปอัดรายการแล้วเขาเป็นพิธีกร ไหนบอกเป็นพิธีกรไม่ได้ (หัวเราะ) เราต้องไปขายของของเรา ก็คุยกับเขาเหมือนไม่เคยทะเลาะ แต่พอตัดก็แยกกันเลย แต่ก็ไม่พูดกับใครมะ แล้วไม่มีคนรู้ว่าโกกับแหม่มตีกัมดีกันอยู่เราเดอะโชว์มัสโกออน ศัพท์บ้านๆ คือเฟก
แหม่ม วิชุดา : สำหรับเธอคือเฟก แต่สำหรับฉันคือแยกแยะ (หัวเราะ)
โก้ : ยังมีอีก สวรค์เหมือนจะทดสอบ อยู่ดีๆ กลับบ้าน เฮ้ยแหม่มมาทำอะไรที่ร้านก๋วยเดี๋ยวเรา มีกองละครที่เขาเล่นอยู่ มาเล่นที่บ้านเรา เราก็ไปแยกแยะกับเขา สบายดีมั้ย (หัวเราะ) แต่ผ่านไปร่วม 10 ปีแล้วนะ ก็แยกแยะ จบ ไม่คยกันอีกเลย

โมเมนต์ไหนทำให้กลับมารักกันได้?
โก้ : จริง ๆ เรากันอยู่แล้วแหละ ทุกเหตการณ์เรณ์เราดส่องแหม่มออกทีวี เราดตลอด เดี๋ยวร้องให้ เดี๋ยวโดนของ ใจนึงเราเป็นห่วง แต่เรารู้จักแยกแยะ (หัวเราะ) ก็คิดว่ายังไม่ถึงเวลา ต่างคนต่างไปมีสังคมใหม่ๆ กันแล้ว จนสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีคอนเสิร์ตที่มีพี่นุ๊ก ลิฟท์-ออย เราก็ไปดูดอนเสิร์ตแล้วไปฝั่งนุ๊กตอนเลิกก็ไปหลังเวที เปิดไปห้องศีลปีน อ้าว เจอแหม่มอยู่ในห้อง
แหม่ม วิชุดา : เขารู้ว่าฉันอยู่ เขาจะมาหาฉัน เขารักฉัน

ปลดล็อกทั้งคู่?
โก้: ไม่ได้ปลดล็อกชะที่เดี๋ยว การที่เพื่อนทะเลาะกันแล้วจะกลับมาดีกัน มันไม่ใช่แค่ขอโทษแล้วจบนะ บางที่ต้องสะสางด้วย เวลานุ๊กด้วยคนกลาง ก็พยายามจับมากินข้าวด้วยกันเดือนละหนึ่งครั้ง เราก็ท่าแบบนี้สม่าเสมอร่วมปี โดยมีดตั้งแรกคือวันเกิดแหม่ม เราเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขา ขณะเดี๋ยวกันเขาก็เตรียมของขวัญย้อนหลังวันเกิดให้เรา จริงๆ แหม่มเป็นคนน่ารักมากเลยนะ พูดแล้วอยากร้องให้ แหม่มน่ารักมาก นิสัยดีมาก เป็นคนที่แคร์สุดๆ เตรียมของมาให้ ทำโน่นทำนี่ ของที่เขาประดิษฐ์แฮนเมด เป็นคนรายละเอียค แต่เขาเป็นคนอารมณ์อาร์ติสต์ เล็กท่าแล้วไม่มีอารมณ์ เขาก็ละไม่เฟก ก็เลิกทำไปเลย
แหม่ม : ไม่รักษาน้ำใจใครเลย