คนนี้ไงเพื่อนซี้ เจษฎ์พิพัฒ สนิทกันมาแต่สมัยเรียนยันเข้าวงการ
เพิ่งรู้ว่าคุณสองคนเป็นเพื่อนซี้กัน ?
เจษ : จริงเหรอ
อะตอม : คือผมกับเจษเรียนโรงเรียนเดียวกันครับ ก็คือกรุงเทพคริสเตียน แล้วก็แยกย้ายกันไปเรียนมหาวิทยาลัยหลายปี สุดท้ายก็มาอยู่กึ่งๆ บริษัทเดียวกันแหล่ะ ผมก็อยู่ในเครือแกรมมี่ เขาก็เป็นนักแสดงอยู่ในเครือแกรมมี่ ก็เจอกันไปเจอกันมาบ้าง แต่เรายังไม่เคยมีโอกาสทำงานด้วยกันเลยนะแปลกมาก
เล่าวีรกรรมของแต่ละคนที่แสบสุด ?
เจษ : สำหรับอะตอมถ้าแบบจี๊ดจ๊าดคงต้องเป็นสมัยมหาวิทยาลัยมากกว่า เขารับหน้าที่เล่นดนตรีกลางคืนอยู่ร้านๆหนึ่ง แล้วผมก็จะชอบไปหาเพื่อนที่ธรรมศาสตร์ก็จะเจอเขาตลอดเวลา สภาพคือกึ่งคนกึ่งเมาไปแล้วอ่ะ (หัวเราะ) เสียงก็จะเป็นแบบเปลี้ยๆ นิดหนึ่ง เราก็จะเจอเขาสภาพนั้นตลอดเวลา แล้วเขาก็จะเป็นคนแบบแต่งตัวดีตลอดเวลา แต่ว่าเขาไม่ค่อยมีเรื่องอะไรแสบๆตั้งแต่เด็กๆเลยนะ
อะตอม : เพราะว่าผมปิดคุณไว้หรือเปล่า (หัวเราะ)
เจษ : แต่พี่วู้ดดี้เชื่อไหม 12 ปีผมไม่เคยเรียนอยู่ห้องเดียวกับอะตอมเลย
อะตอม : ใช่ครับ จริงๆ มาเริ่มสนิทกันเพราะว่าเล่นดนตรี เจษเขาตีกลองแล้วก็พี่ชายเขาเล่นกีฬา แล้วก็มาตั้งวงดนตรีด้วยกัน ไปเล่นตามงานในโรงเรียน จอยๆ เพราะฉะนั้นเราก็จะคอนเนคกันเรื่องเพลงค่อนข้างเยอะ
อะตอม : ผมว่าเขาขี้แอค (หัวเราะ) คือมันจะมีกรุ๊ปลูกเสือที่เป็นหน่วยพิเศษในสมัยก่อน ซึ่งเขาจะเป็นตัวหล่อ เครื่องแบบก็จะไม่เหมือนคนอื่น เขาก็จะดึงๆแอคๆของเขา
คุณรู้ตัวไหมว่าคุณหล่อ ?
เจษ : ก็ประมาณหนึ่งครับ (หัวเราะ)
อะตอม : แต่สุดท้ายพอมาสนิทกันจริงๆ มันก็แอคจริงๆนินา (หัวเราะ) หยอกๆ ไม่ใช่หรอกทรงมันดีไง เราก็หมั่นไส้สักนิด
แต่จริงๆคนหล่ออย่างคุณก็มีความอาย ?
เจษ : ใช่พี่ผมเป็นคนที่ขี้อายมาก ตอนเด็กๆโคตรขี้อายเลย ไม่กล้าขึ้นเวที พูดหน้าห้องยังไม่กล้าเลย
แล้วเราเริ่มมาปลดล็อกตอนไหน ?
เจษ : ตอนเล่นละครโรงเรียน แล้วตอนนั้นคือผมเริ่มเล่นหนังของพี่พจน์ อานนท์ แล้ว คนก็จะเรียกเราว่าดาราๆ เสร็จปุ๊บก็คิดว่าเราเป็นดาราก็ต้องเฉิดฉายทางด้านการแสดง ก็เลยไปแคชละครเวทีของโรงเรียน เราต้องเจอคนเยอะๆ มาทำงานอยู่เอ็กแซ็กท์ก็ต้องถ่ายในกองละคร ไปงานอีเว้นท์ มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
https://www.facebook.com/teeneedotcom