ปุ๊กกี้โต้ขายตัวที่ดูไบ ปัดเป็นคนค้ายา

ชีวิตครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง "ก็ปกติดี แต่ก็ต้องปรับตัวมากขึ้นกับสังคมที่ต่างกัน ซึ่งเอ้ก็ต้องหนักในการใช้ชีวิต คือเขาไม่เคยไปอยู่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่มีปัญหา"

ทำไมถึงไม่กลับมาพร้อมกัน "คือ ลูกเกิดวันที่ 2 ธ.ค. แล้วเราต้องกลับมาให้ทันวันนั้น แต่เอ้ไม่สามารถลางานได้จนถึงวันคริสต์มาส24 ธ.ค. แล้วก็มาเจอสนามบินปิดอีก ตกใจกลัวจะมาไม่ทัน แต่สุดท้ายก็มาได้"

เอ้ อยากมีลูกมั๊ย "อันนี้ก็คือเป็นปัญหาใหญ่ที่เขาอยากมีลูก เพราะการมีลูกคนหนึ่งมันก็เป็นเรื่องใหญ่ แล้วเราก็มีแล้ว 2 คน

ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ต้องมีความรับผิดชอบเขา และเราก็ต้องช่วยเขาในเรื่องเงินทอง ณ ตอนนี้ไม่อยากมี"

เคยทะเลาะกันถึงเรื่องนี้มั๊ย "มันก็ต้องมีการบ้าง เขาอาจจะไม่เข้าใจ เพราะเขายังไม่เคยมีลูก บางทีเขาก็เข้าใจ เมื่อเขาเห็นเรามีลูก 2 คน ก็ต้องดูอนาคตก่อน"


เห็นว่าตอนนี้ก็คุยกับ พี่ต๋อง เข้าใจกันดีมั๊ย "ก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นที่ปรึกษากันได้ ก็คงจะดีกว่าที่จะเป็นคู่กัน "

รู้สึกอย่างไรที่มีข่าวว่าไปขายตัวที่ดูไบ "ก็รู้สึกตกใจมาก รูปร่างหน้าตาไม่น่าจะเป็นไปได้น่ะ คือดูไบไปจริง แค่แวะเปลี่ยนเครื่อง

คือตอนนี้ไปทำธุรกิจเกี่ยวกับกระเป๋าที่ฝรั่งเศส ก็เลยไปเยี่ยมเพื่อนแล้วก็กลับ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีข่าวได้ คงเป็นไปไม่ได้ มันก็ไม่ได้มีหนุ่มมาจีบเลย "

ส่วนเรื่องค้ายาเสพติดรู้สึกอย่างไร "คือถ้าเจอข่าวว่าเสพก็พอ แต่อันนี้เป็นค้ายาเลย ถือว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเจอค้า แต่ถ้าเป็นข่าวว่าเสพ คือไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ มันก็เป็นเรื่องปกติของอายุวัยนี้ ซึ่งกี้ก็อายุ 30 แล้ว ไม่น่าจะเจอเรื่องที่รุนแรงมาก เท่ากับอายุ 18 พอเห็นว่าเราไปเที่ยวก็คิดว่าเสพหรือเปล่า บางทีก็มีวิธีการไปเที่ยวต่างกัน แต่คือค้ายาไปเห็นตรงไหน ถ้ามีจริงมันก็ต้องตีพิมพ์แล้ว คงไม่ได้อยู่กันตรงนี้"
 
ทราบได้อย่างไร "ก็มีคนมาบอก ว่าค้ายาเหรอดูแรงน่ะ คือเรารู้จักเจ้าของร้าน ก็แวะไปหาแล้วจะไปทำการตลาด เพราะเห็นว่าร้านนี้เปิดใหม่ ก็เลยพาเพื่อนไปเที่ยว แต่ก็ไม่เป็นจำต้องค้ายาน่ะ "

จะหันกลับมาทำงานเพลงมั๊ย "งานเพลงคงไม่ค่ะ แต่ก็อาจจะมีบ้าง ยังเหมือนเดิม"

แต่พี่ต๋องมีคนใหม่หรือยัง "ก็ต้องไปถามเขาเอง แต่มันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้บางทีมนุษย์ต้องมีคู่ ก็มีปรึกษากันบ้าง"