
เส้นทางความรัก วุ้นเส้น-นิกม์ ซุ่มคบเงียบ2ปีไม่เปิดตัวเพราะ...?

นิกม์ : เป็นเพื่อนของเพื่อนแนะนำให้รู้จักกันหลายปีแล้ว แล้วก็ไปนั่งสมาธิด้วยกันทุกปีที่เชียงราย เพื่อนเขากับเพื่อนผมเป็นกลุ่มเดียวกันก็จะเจอกันตามงานสังสรรค์ตามงานแต่งได้มีการเจอกันมากขึ้น
ชอบเขามั้ย ?
นิกม์ : ชอบซิ จริงๆมีเพื่อนเราสองคนพยายามบิวท์พอสมควรทำให้เรารู้จักกันมากขึ้น แต่พูดจริงๆก็เขินนิดนึงเวลาเจอเขา เพราะว่าไม่ค่อยได้คบกับคนที่เป็นดาราหรือมีชื่อเสียง
เพื่อนคนนี้เปลี่ยนเป็นรักเธอตอนไหน ?
นิกม์ : จริงๆตอนโควิดวุ้นเขาชอบส่งแอลกอฮอล์ลฉีดมือ แล้วผมก็ชอบคุยกับเขาเรื่องร้านอาหาร เพราะว่าผมอยู่ที่สิงค์โปร์เราก็รู้ว่าวุ้นชอบกินข้าวก็เลยคุยเรื่องร้านอาหารที่สิงค์โปร์ที่กรุงเทพฯ
วุ้นเส้น : เราจะไปสิงค์โปร์กับเพื่อนเราแล้วตอนนั้นก็ยังไม่อะไร แต่รู้ว่าผู้ชายคนนี้น่าจะเชี่ยวชาญที่โน่น เราก็เลยถามว่าแนะนำร้านอาหารหน่อย แล้วสิ่งที่เขาส่งกลับมาก็คือทำเป็นแบบ Excel ร้านอาหาร ตั้งใจทำมาก สไตล์หนุ่มไฟแนนซ์ทำละเอียดมาก ก็เลยมีความประทับใจแล้วในตอนนั้น

วุ้นเส้น : ตอนแรกก็คิดว่าเขาจะกลับไปทำงานสิงค์โปร์เราก็ไม่ได้อะไร ก็เหมือนกับโควิดเจอกัน ช่วงนึงเราก็จะชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน หลายคนก็จะไม่กล้าเจอคนอื่น ไม่กล้าออกไปข้างนอก ออกไม่ได้ก็จะสั่งอาหารมากินที่บ้านนี่แหละ นิกม์ก็เป็นหนึ่งในเพื่อนที่มา เพื่อนก็แบบนิกม์มาตลอดเลยเมื่อก่อนไม่เห็นนิกม์บ่อย
อย่าเพิ่งก้าวกระโดดข้ามไป ก่อนที่เพื่อนๆเขาจะมาคุณชอบสั่งอาหารแล้วก็นั่งกินกันอยู่ 2 คน ถ้ามีเพื่อนที่อยู่คอนโดเดียวกันมากดติ๊งต่อง คุณนิกม์ก็จะต้องไปหลบ ?
วุ้นเส้น : ไม่ได้หลบ แค่ไม่เปิดประตูให้เพื่อนเข้ามา(หัวเราะ) แล้วก็บอกเงียบๆ เพราะเราไม่รู้ว่าเขายังไงก็คือคุยกันอยู่ แต่ไม่รู้ว่าสรุปถ้าโควิดเปิดต่างคนต่างแยกหรือเปล่าหรือยังไง ก็ยังไม่รู้ว่าจริงจังมั้ยเพราะตอนนั้นแค่ไม่กี่เดือน ถ้าเกิดจะให้ผ่านจริงๆก็คือต้อง 6 เดือนก่อน ถ้า 6 เดือนเมื่อไหร่เพื่อนรู้ได้แล้ว
เรียกได้ว่าโควิดเป็นช่วงวัดใจว่าจะรอดหรือไม่รอด ?
วุ้นเส้น : ใช่ แต่ว่าเพื่อนชอบวีดีโอคอลมา ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกอยู่คนเดียว ขอดูหน่อยให้เดินทั่วห้อง นิกม์ก็เหมือนกันเพื่อนนิกม์ก็วีดีโอคอลมา แล้วยูก็ต้องเข้าไปในห้องน้ำไง บอกเขาไปซิ

วุ้นเส้น : นิกม์อยู่ในห้องน้ำ
เพื่อนในวงการที่รู้คนแรก ?
วุ้นเส้น : น่าจะนานานะเพราะว่านานาก็วีดีโอคอลมา แต่นานาเป็นคนที่ทำให้คนอื่นในโลกนี้รู้ค่ะ เพราะว่าเหมือนโควิดเริ่มเปิดออกไปงานแต่งงานได้แล้ว เราก็จะเริ่มมีรูปกับนิกม์เหมือนตอนนั้นเอารูปเขากับรูปเราขึ้นมือถือเป็นสกรีน แล้วเหมือนนานาเห็นแล้วนานาก็ถ่ายสตอรี่ ใครอ่ะๆ ก็เลยกลายเป็นโลกรู้แล้ว(หัวเราะ)
สายอาชีพคนละแนว พอตัดสินใจมีเขาเป็นแฟน ชีวิตเปลี่ยนมาอยู่กับเขาเลย ?
นิกม์ : สมัยก่อนเดินทางตลอด เดินทางแทบทุกอาทิตย์เลย แต่พอเจอวุ้นรู้สึกว่ามันลงตัว มันสบายใจ รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ผู้หญิงคนนี้มันมีสัญญาณอะไรบ้างอย่างว่าจะต้องอยู่แล้วหละ สมัยก่อนผมเดินทางตลอดแล้วรู้สึกว่าเมืองไทยไม่ใช่บ้าน แต่พอมีวุ้นปุ๊ปมันรู้สึกว่าเมืองไทยเป็นบ้าน อยากอยู่ด้วย
กลับมาอยู่เมืองไทยมาทำอะไรทุกอย่างที่เมืองไทยมีเผื่อใจเจ็บมั้ย ?
นิกม์ : จริงๆ ไม่ได้เผื่อเลย รู้สึกว่าวุ้นเป็นคนแคร์ความรู้สึกคนมาก พี่หนิงก็รู้ ก็เลยรู้สึกว่าเวลาเราทำอะไรหรือเขาทำอะไร เขาจะแคร์ความรู้สึกเรามาก ก็เลยรู้สึกว่าเป็นคนที่ไม่มีความเสี่ยงพูดตามตรงว่ารู้สึกไม่เสี่ยง

วุ้นเส้น : จริงๆ เอาตรงๆ ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะอยู่ถึงจุดไหนในชีวิตเรา เราก็อยู่วงการมา 20 ปีเพราะฉะนั้นคนก็จะรู้เรื่องราวของเราทั้งหมดในชีวิต เราก็ไม่อยากให้แบบสุดท้ายเปิดไปแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จไม่ถึงจุดนั้นอีก ก็จะกลายเป็นอดีตของวุ้นอีกละ มันก็รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้ ถ้าเกิดไม่บอกเราก็รู้สึกว่าถ้าเกิดวันนึงเขาไม่ใช่ ไม่มาถึงจุดนี้จริงๆ ก็จะไม่มีคนพูดถึงในทางต่างๆ อันนั้นคือคิดก่อน
คู่นี้แทบจะไม่มีทะเลาะกัน แต่วุ้นยังไม่ค่อยมั่นใจ ลึกๆกลัวอะไร ก่อนที่จะตัดสินใจมาถึงวันนี้ที่จะแต่งงานนะ ?
วุ้นเส้น : อย่างเรา เราก็รู้ว่าไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาเสียใจอยู่แล้วเพราะเราโตแล้ว แล้วอดีตทุกอย่างประสบการณ์ต่างๆ มันทำให้เราดีขึ้นในทุกๆ วันในการตัดสินใจ แต่ว่าสิ่งที่กลัวก็คือว่าเราไม่แน่ใจว่าถ้าเราข้ามขั้นต่อไปมันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมั้ย วุ้นคิดว่าทุกคนกลัวหมดแหละ ทุกวันนี้มันดีมาก มันดีเกินที่เราคาดหวังไว้เยอะมากในเรื่องของความรัก หลายคนก็รู้ว่าเรายังไม่ได้ประสบความสำเร็จในความรัก แล้วเรารู้สึกว่าเราไม่มีดวงเรื่องนี้หรือเปล่า สุดท้ายตอนนี้วุ้นรู้สึกว่าทำไมวุ้นโชคดีในเรื่องความรัก วุ้นรู้สึกเลย วุ้นไม่เคยพูดคำนี้ในชีวิต รู้สึกว่าทำไมคนนี้ทำให้วุ้นรู้สึกโชคดี มันไม่มีวันไหนที่วุ้นรู้สึกว่าเขาทำให้วุ้นร้องไห้หรือทำให้วุ้นรู้สึกเหมือนไม่มีค่าก็กลายเป็นว่าเขาคือคำตอบจริงๆ สิ่งที่เขาทำกับเราที่ผ่านมามันพิสูจน์ได้ว่าเราไว้ใจคนนี้ได้ ในอนาคตไม่รู้(หัวเราะ)
พี่นิกม์รู้มั้ยว่าพี่วุ้นเส้นคิดแล้วก็รู้สึกว่าเราทำให้เขาสบายใจขนาดนี้ ?
นิกม์ : เขาก็บอกนะเวลาอยู่กันสองคนเขาก็จะพูดตลอดแหละว่าเขารู้สึกยังไง ปรับจูนทุกอย่างความคิด ความรู้สึกตลอดเวลามันก็เลยอยู่ด้วยกันได้
พี่วุ้นหวานมั้ย ?
นิกม์ : หวาน เขาจะแพลนล่วงหน้าอะไรจะทำให้เรามีความสุข

นิกม์ : คือเขามีความน่ารักทุกวัน เราก็อยากจะจีบความน่ารักนั้นของเขาทุกวัน ก็พยายามทำอะไรให้เขารู้สึกดีทุกวัน
วุ้นเส้น : พูดหวานๆก็พอแล้ว วุ้นกับนิกม์ไม่ได้เป็นอะไรที่ต้องซื้อดอกไม้หรือให้ของอะไรกันเลย เหมือนแค่คำพูดดีๆทุกวันพอแล้ว ก็ชมหรือพูดอะไรที่เป็นคำที่ดูดี
ถ้าดีขนาดนี้ทำไมวุ้นเคยพูดว่ากลัวนิกม์ไปเจอผู้หญิงที่ดีกว่าวุ้น ?
วุ้นเส้น : เราก็คิดว่าเหมือนเขาก็อาจจะเลือกคนที่สวยกว่าเรา น่ารักกว่าเรา เด็กกว่าเราหรือว่าอาจจะไม่ผ่านประสบการณ์อะไรเยอะ เราอาจจะเป็นผู้หญิงอีกประเภทนึงที่อาจจะต้องได้คนโตกว่า สมมติว่าเราไม่เคยคิดว่าเขาอายุน้อยกว่าเราแต่ว่าเขาอาจจะอยากได้เด็กกว่าหรือเปล่าเราโตกว่าเขานะ ไม่ได้บอกว่าดีกว่าในแง่ไหนนะ เคยคุยกันว่าถ้ายูเจอคนที่โอเคก็บอกได้นะ เพราะว่าเราโตแล้วเราไม่ได้ยึดติด แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้แล้วนะ(หัวเราะ)
ตอนนั้นพี่นิกม์ก็รู้ว่าพี่วุ้นคิดแบบนี้ ?
นิกม์ : รู้ทีหลัง
พอรู้แล้วเราบอกอะไรเขาบ้างมั้ย ?
นิกม์ : ก็ไม่ได้บอกนะ เราคิดว่าเราทำเหมือนเดิมทุกวัน เขาก็สบายใจขึ้นทุกวัน บางอย่างการกระทำมันดีกว่าคำพูด

วุ้นเส้น : แอตติจูดหลายอย่างอย่างเช่นมุมมองความรัก มุมมองการสร้างครอบครัว งานหรือเทสต์ การเที่ยว การกิน เหมือนกันหมดเลย มันหายากเหมือนกัน แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่คล้ายๆกันก็คือทำงานหนักทั้งคู่ อันนี้คือไม่ดี มันกลายเป็นว่าเที่ยงคืน ตี 1 เรายังต้องคุยเรื่องงาน บางทีวุ้นต้องบอกนิกม์หยุดเถอะ เราอยากคุยเรื่องซีรีส์ อยากคุยเรื่องท่องเที่ยว บางทีเขาเป็นคนที่คิดได้แล้วต้องพูดเลย
หลายๆคนไม่เชื่อว่าวุ้นเส้นจะหวานได้ขนาดนี้ ในมุมของเพื่อนๆ ที่ทุกคนเห็น เขาจะนิ่งๆ ?
วุ้นเส้น : อยู่กับเพื่อนพูดน้อย ถ้าอยู่กับนิกม์ก็เป็นอีกคนหนึ่ง เพราะเขาจะเป็นคนที่พูดน้อยกว่าเรา เราสนุกในการที่ทำให้เขายิ้ม เรารู็เลยว่าถ้าเราพูดแบบนี้เดี๋ยวเขาต้องยิ้ม ไม่ใช่ให้เขาจีบเราอย่างเดียว เราต้องให้ความหวานเติมให้เขาบ้าง
เห็นว่าพี่นิกม์เคยมีความคิดในหัวว่าตัวเองอาจจะไม่ดีพอสำหรับคุณวุ้นเส้นหรือเปล่า ?
นิกม์ : มันก็ต้องมีอยู่แล้ว เราก็พยายามดูแลเขาเหมือนคนทั่วไป ไม่งั้นถ้าเราดูแลเขาแบบดาราเป็นคนมีชื่อเสียงตลอดก็คงจะเกร็งเกินไป ก็พยายามเข้าหาเขาในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง
จะ 5 ปีแล้ว ทะเลาะกันแค่ครั้งเดียว ทะเลาะกันเรื่องอะไร ?
วุ้นเส้น : ตอนนั้นเราเพิ่งคบกันปีนึงแล้วเป็นทริปแรกที่ไปด้วยกัน ไปนิวยอร์คด้วยกัน เหมือนกับว่าเป็นทริปที่เราถ้าไม่รักกันมากก็ต้องเลิกกันไปเลย เพราะว่าไปอยู่เดือนครึ่งที่โน่นแล้วไกลมาก แล้วไม่เคยไปเที่ยวไหนด้วยกันเลย ไม่เคยลองเดินทางด้วยกัน แต่ว่าประเทศแรกก็นิวยอร์คแล้ว แล้วเรารู้สึกว่าอยากเอาใจผู้ชายคนนี้ อยากพาไปเที่ยวเพราะเราเป็นคนชอบแพลนเที่ยว แพลนร้านอาหาร แพลนโรงแรม ให้เราแฮปปี้กัน เราก็จองร้านอาหารทุกวัน บางวันก็จอง 2 มื้อ อยู่ดีๆคนนี้ผ่านไปประมาณเกือบเดือนน้ำหนักขึ้นมา 8 โล เราก็ไม่รู้หรอกเพราะเราเห็นกันทุกวัน ไม่รู้ว่าน้ำหนักขึ้น เพราะเราก็ยังกินปกติ แล้วเหมือนกับเขาส่องกระจกแล้วเหมือนเขาจะร้องไห้ เขาไม่ไหวแล้ว ยูไม่ต้องให้เขากินอะไรแล้วได้มั้ย เราก็เลยบอกว่าโอเคยูขอโทษ คือจริงๆมันไม่ได้ทะเลาะกันแบบรุนแรง แต่เขาตามใจเรามาตลอดแต่ครั้งนี้เขาขอขัดใจเราโดยการที่เขาจะไม่ออกไปกินข้างกับเราแล้วหลังจากนี้ เพราะว่าเราจองเยอะเกินไป เราก็บอกว่าไม่เป็นไรนะทุกอย่างมีทางออก ฉันไม่อ้วน ฉันก็ไปกินต่อ ฉันก็ไปกินข้าวกับเพื่อนได้ เพื่อนที่นู่น แต่เขาก็เอนจอยนะส่วนใหญ่ ตอนนี้กินอะไรก็ได้ กินข้าวง่ายๆ





กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday
https://www.facebook.com/teeneedotcom