ลิลลี่เหงียน เฉลยแล้วคนใหญ่คนโตที่เคยคบคือใคร?ขอโทษทักษิณ พลอยถูกโยง

ลิลลี่ เหงียน ยันไม่เคยเป็นเมียน้อย รับเคยคบอดีตประธานสภา ขอโทษ ‘ทักษิณ' พลอยถูกโยงไปด้วย

จากกรณีที่ ลิลลี่ เหงียน นางแบบสาวชาวเวียดนาม ได้ไปออกรายดัง โดยในตอนหนึ่งได้มีการกล่าวถึงสามีคนที่ 3 ของเธอว่า เป็นประมุขของไทย เป็นนักการเมือง ที่ถ้าพูดชื่อไปทุกคนก็รู้จักหมดเลย ทำให้มีคนโยงไปถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งล่าสุดลิลลี่ก็ได้เดินทางมาที่ไทยรัฐ พร้อมกับ อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ที่ปรึกษากฎหมาย และ ทนาย ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมพูดถึงกรณีที่ เอิร์ก เลเดอเรอร์ ออกมาแฉว่าตนเป็นเมียน้อยนักการเมืองว่า

"ก่อนอื่นตนต้องขอโทษ และขอชี้แจงตรงนี้เลย ว่าตนเข้าใจผิด แต่ความเข้าใจของตน คำว่าประมุขของประเทศไทย ขอชี้แจงว่าอดีตแฟนของตนคนที่ 3 เป็นนักการเมือง ซึ่งสามารถพูดได้อย่างเปิดอกเลยว่าท่านไม่เคยมีภรรยา ท่านเป็นอดีตประธานสภา และตอนที่ตนอยู่กับท่าน ตนเคยได้ยินว่าตำแหน่งประธานสภา ก็เหมือนตำแหน่งประมุขของประเทศไทย ตนอาจจะไม่เข้าใจความหมายมาก ตนต้องขอโทษจริงๆ"

ลิลลี่ กล่าวต่อว่า ในส่วนที่โดนนายเอิร์กกล่าวหา ว่าตนเป็นเมียน้อย ณ วันนี้ ตนขอชี้แจงอีกครั้งหนึ่งอย่างชัดเจน กล้าพูดด้วยจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ ซึ่งตนก็ได้ขออนุญาตปะป๊า (แฟนเก่า) แล้วท่านก็อนุญาต จริงๆ ก็สามารถพูดชื่อได้เลย แต่ด้วยความที่ตนเคารพปะป๊า และเคารพครอบครัวของปะป๊าอยู่ และท่านเองก็ยังคงมีความเมตตาให้ตนอยู่ เนื่องจากว่าเราเลิกกันมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งตนก็ไม่อยากให้ท่านต้องมาลำบากใจในเรื่องนี้ แต่ตนก็เชื่อว่าพี่ๆ ทุกคนและหลายๆ คน ก็คงทราบว่าท่านคือใคร แต่ตนจะไม่ขอเอ่ยชื่อ

"ลี่ขอย้ำชัดเจนตรงนี้เลยนะคะว่าก่อนที่ท่านจะมาเจอลี่และลี่เจอท่าน ลี่เลิกกับแฟนและมาเจอท่าน แล้วท่านก็ได้เลิกกับอดีตภรรยาแล้ว ซึ่งเราทั้งคู่ไม่มีใคร เราคบกันด้วยใจที่บริสุทธิ์ ไม่มีผิดศีลธรรมใดๆ ทั้งสิ้น เราคบกันอย่างเปิดเผย อย่างภาคภูมิใจ และอยู่ด้วยกันหลายปี ที่สำคัญก็คือ หนูไม่เคยเป็นเมียน้อยของใคร เพราะลี่เคยพูดแล้วว่าเคยมีปมตอนเด็ก คือพ่อกับแม่แยกทางกัน คุณพ่อเอาคนใช้มาทำภริยา แล้วมีแม่เลี้ยงใจร้ายมาก อีกทั้งแม่เลี้ยงยังทำให้แม่ของลี่เสียใจมาก และเราก็ไม่อยากเป็นแบบนั้น มันคือปมและกฎเหล็กของลี่"

ทั้งนี้เมื่อถามว่า มันมีการลุกลามพาดพิงไปถึงบุคคลที่ 3 ก็คือคุณทักษิณ ชินวัตร งานนี้ ลิลลี่ ก็ยกมือไหว้พร้อมขอชี้แจงว่า ตนต้องกราบขอประทานอภัยจริงๆ ตนไม่มีเจตนาจริงๆ ตนไม่รู้จักท่านทักษิณโดยส่วนตัว แต่ตนเคยเห็นข่าวท่าน แต่ไม่เคยเจอท่านและไม่รู้จักท่านโดยส่วนตัว ตนต้องขอประทานอภัยครอบครัวของท่านทักษิณที่ทำให้เดือดร้อน ตนเข้าใจความหมายผิดไป

โดยด้าน อี้ แทนคุณ ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า คำว่าประมุขประเทศที่เขาใช้ต้องเข้าใจว่าไม่ว่าจะเป็นประเทศลาว หรือประเทศเวียดนาม เขาจะมองว่าผู้ที่เป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของประเทศ เขาจะใช้คำว่าประมุข ทีนี้คุณลี่เคยได้ยินคำว่าประมุข คือประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ คำว่าฝ่ายนิติบัญญัติอาจจะยาวและยากไป ก็เลยจำว่าประมุขมีหน้าที่ในการบริหาร ซึ่งจะมี 3 ฝ่าย คือฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งประมุขที่คุณลี่หมายถึงก็คือฝ่ายนิติบัญญัติเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับคุณทักษิณ และกรณีคุณทักษิณก็ได้ไปอยู่ต่างประเทศหลายปี ในช่วงไทม์ไลน์ดังกล่าว ก็ไม่มีความสัมพันธ์ที่จะมีโอกาสได้มาเจอกัน