นักร้องดังดีใจสมรสเท่าเทียมผ่าน อยากจัดงานแต่งสุดปังอีกรอบ!

เบน บอกว่า จดอยู่แล้ว เพิ่งครบรอบแต่งงาน 5 ปีกับสามีที่บินไปแต่งออสเตรเลียเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา แล้ววันที่ 18 มิถุนายน ก็ได้รับข่าวดี เราก็มองกันอยู่ว่าจะก้าวต่อไปกับชีวิตคู่ยังไง แล้วผมรู้สึกดีใจแทนพี่ๆ น้องๆ LGBTQIAN+ ทุกคนเลย เมื่อวานนี้ได้ดูเพื่อนๆ ในโซเชียลแล้วรู้สึกตื้นตันดีใจกับทุกๆ คน

" ตอนที่แต่งงานกันเราตัดสินใจว่าเราจะใช้ชีวิตกับคนนี้ เราน่าจะเหมือนกับทุกๆ คน ที่มีคนรักก็อยากที่จะให้เกียรติเขา อยากให้ความมั่นคงความมั่นใจกับคนรักของเรา การแต่งงานการมีทะเบียนสมรสถือเป็นการให้ความเชื่อมั่นกับคู่รักของเรา แล้วก็ทางด้านกฎหมายมันอาจจะไม่ได้ใช้ได้จริงในบ้านเรา ณ ตอนนั้น แต่ ณ กฎหมายสมรสเท่าเทียมตอนนี้ มันเป็นอีกสเต็ปหนึ่งที่แสดงให้ทุกคนได้ภูมิใจในความเป็นตัวเองและความเป็นคน สิ่งที่ผมเชื่อมาเสมอก็คือคนเท่ากับคน"

"ใช่ ก็สามี-สามี ไปจดทะเบียนกันในโบสถ์ แล้วก็มีทีมงานของทางรัฐมาเซ็นให้ จัดกันในครอบครัวเล็กๆ 10 กว่าคน (หลังจากที่จดทะเบียนรู้สึกยังไง?) ผมก็รู้สึกว่าชีวิตคู่มันสมบูรณ์ แล้วเราสบายใจที่อย่างน้อยแฟนเราเขาจะมั่นใจว่าความรักครั้งนี้มันเป็นความรักที่จริงจัง"

"ผมก็รอ ถือว่าเป็นความดีใจ แล้วก็รอสเต็ปต่อๆ ไป รอเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เรื่องการเซ็นมอบอำนาจ สิทธิต่างๆ ซื้อประกันให้กันได้หรือยัง ก่อนหน้านี้ผมอยากซื้อประกันให้แฟนมาก ถ้าเกิดว่ามีอะไรแล้วจะมอบให้ใคร ก็บอกว่าทำได้ๆ แต่งงานแล้วแต่แฟนผมนำหน้าว่านาย ก็บอกว่าอันนี้ไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่ได้เจอกับตัว แต่ว่ากรณีที่อยู่กับแฟนแล้วต้องไปเซ็นผ่าตัดอะไรแบบนี้ผมยังไม่เคยเจอในเคสนั้น แต่ว่าหลายคนที่ได้เจอมารู้สึกว่าอันนี้เป็นอีกสเต็ปหนึ่งที่ทำให้เรามีความมั่นใจและมีความอิ่มใจ สำหรับตัวผมเชื่อว่าหลายๆ คน การที่ได้เห็นสเต็ปนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมเกิดขึ้น เขาไม่ได้ดีใจมาก หรือรู้สึกว่าได้อะไรมากกว่าใคร แค่รู้สึกว่าสิ่งที่เราเรียกร้องกันมาตลอดคือความเท่ากัน ผมไม่ต้องการมากกว่าแค่ต้องการความเท่ากัน"

 

"อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเรื่องนี้ เราต้องมาจดเพิ่มไหมเราต้องมาจดที่เมืองไทยต่อไหม เพราะว่าก่อนหน้านี้ที่ผมบอกมีทะเบียนสมรสต่างประเทศที่เมืองไทยใช้ไม่ได้ ขอศึกษาส่วนตัวด้วย"

"สิ่งแรกที่เราอยากทำคือ จะจัดงานแล้วก็เชิญแขกเยอะๆ เอาทุนคืน แซวเล่นๆ ถ้าจดได้ผมก็อยากจะจดกับเขา ถือว่าโชคดีได้ฉลองหลายครั้ง ก็อยากจัดนะเพราะครั้งที่แล้วเราจัดแบบไม่ได้ชวนใครเลยก็อยากจะชวนเพื่อนๆ มา (ถ้าในแง่ของกฎหมาย) ก็ต้องลองดูว่ารายละเอียดลงไป มันมีสิทธิอะไรบ้างมากแค่ไหน ก็อยากซื้อประกันให้แฟนได้ อยากน้อยก็เป็นหลักฐานว่าวันไหนที่เราไป เขาก็ยังมีเงินก้อนที่เอาไว้ดูแลตัวเอง หลังจากที่เราไม่อยู่ เพราะว่าปัจจุบันเราก็เป็นคนดูแลครอบครัว หารายได้หลัก บางทีเราเป็นห่วงหลังจากที่เราไปแล้วเขาจะอยู่กันยังไง"