น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ



 น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ


ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจริงๆ กับฝีการแสดงของ น้องเจ้าคุณ พันธ์ชนกชนม์ วัย 11 ปี นักแสดงเด็กสุดมหัศจรรย์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกับบทบาท ปณต จากละครน้ำดีอย่าง "สงครามสมรส" ที่ตีบทแตกทำคนดูร้องไห้ตามได้ทั้งประเทศ วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรกในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31

พี่ชาคริตเห็นว่าเคยร่วมงานด้วยกันมาแล้ว ?

เจ้าคุณ : ใช่ครับ เรื่องวันทองครับ

เห็นว่าพอร่วมงานกับพี่คริตแล้วตั้งฉายาให้เขา ฉายาอะไร ?

เจ้าคุณ : ปีศาจแห่งวงการครับ เขาแสดงเก่งมากครับ เขาเล่นได้ธรรมชาติมากๆ ไม่เหลือความเป็นเขาอีกแล้ว ตอนเขาไปเขาก็ไปเลยพอกลับมาก็เป็นเขา 100% ครับ

ถ้าเล่นไม่เป็นธรรมชาติในความเข้าใจของลูกเล่นยังไง ที่เล่นแล้วไม่ธรรมชาติ ?

เจ้าคุณ : ไม่ธรรมชาติของผมคือเล่นแล้วมันไม่ค้อยรู้สึกว่าเราอยู่กับเขาอยู่ เราอยู่กับตัวละครนั้นอยู่ อีกอย่างนึงก็คือเวลาเขาแสดงพวกร้องไห้ถ้าธรรมชาติเราจะรู้สึกได้แล้วก็อินตาม

ถ้าพี่คริตดูอยู่อยากบอกอะไรพี่คริต ?

เจ้าคุณ : ผมคิดถึงพี่คริต ผมชอบเล่นกับพี่คริตครับ หวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีกครับ

อะไรที่ชอบมากที่สุดเกี่ยวกับพี่คริต ?

เจ้าคุณ : ชอบการแสดงของเขาครับ อย่างเช่นตอนฉากศาลผมพูดเสร็จแล้วผมไปดูเทปกับพี่สันต์ หันมาพี่คริตร้องไห้เลยหรอ








 น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ


ลูกชายพี่คริตบอกว่าเป็นปีศาจแห่งวงการพี่คริตรู้สึกยังไงบ้าง ?

ชาคริต : ดีใจครับ จริง ๆ ได้เจอกับน้องเจ้าคุณตั้งแต่เล่นวันทองแล้ว ก็เห็นอะไรในตัวน้อง ตอนนั้นยังไปกระซิบกับพี่สันต์เลยว่า มีฉากที่เข้ากับขุนช้างที่กุมารเข้ากับขุนช้างเหมือนมันเข้าด้วยกันบ่อย จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แต่กลายเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ที่เป็นไม่เบื่อไม้เมากัน แล้วมันมีหลายฉากที่เราก็ไม่รู้ตัว เราเล่นไปแล้วมันเหมือนไปทำให้น้องระเบิดในจุดๆนึง พอหลังจากนั้นเจ้าคุณก็เป็นแบบที่เราเห็นทุกวันนี้ ในเรื่องของการแสดงเขาเข้าใจอะไรได้มากขึ้น ง่ายขึ้น อาจจะเป็นเพราะบทแรกที่รับตอนนั้นกับเรื่องของวันทองเป็นนิยายที่มันค่อนข้างที่จะมีความละเอียด สำหรับตัวน้องเองในวัยเท่านั้นค่อนข้างยาก แต่พอน้องผ่านตรงนันไปได้ปุ๊ป ผมว่าอย่างอื่นก็ไม่น่ามีอะไรยากแล้ว พอเป็นสงครามสมรสเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวแม้แต่ผมเอง ตัวน้องเอง ตัวแม่แอฟเอง ทุกคนสามารถเข้าถึงในเรื่องของแก่นความเป็นครอบครัวได้ง่ายอยู่แล้ว ด้วยควาเราเป็นทั้งพ่อเป็นทั้งแม่หรือน้องเจ้าคุณที่เป็นลูก พอเอาความเข้าใจตรงนั้นมาสวมกับคาแร็คเตอร์เรื่องราว ทุกครั้งที่เล่นกับน้องอยู่ด้วยกันในกอง ก่อนจะแอ็คชั่นยังคุยเล่นกันอยู่เลย ยังไม่ได้เข้าบทเลย แต่พอกล้องรันแอ็คชั่นแล้วคือการที่จะเข้าไปสู่ความเป็นครอบครัวเป็นพ่อลูกกันมันไม่ยากเลย มันง่ายมากครับ

พี่คริตเล่าเรื่องฉากในศาลวันนั้นให้ฟังหน่อย เป็นฉากนึงที่เป็นไวรัลมาก ?

ชาคริต : คนกำลังถามว่าทำไมปรเมศวร์ทั้งที่ตอนแรกคิดถึงลูกเข้าคุกไปแล้ว ทำไมถึงยังมาโกหกอีก พยายามเอาตัวรอดอีก ถ้าเรามองถึงสันดานดิบของมนษย์ก็ต้องมองโอกาสของตัวเองว่ามันเหลือโอกาสอีกหนึ่งครั้ง ซึ่งจริงๆก็คือคนที่ทำให้เกิดขี้นนอกจากตัวปรเมศวร์เองก็คือบ้านฝั่งอัคระ มันก็เลยเหมือนกับเขาสมรู้ร่วมคิดแต่ก็เหมือนแพะไปด้วย เข้าก็พยายามขอโอกาสนี้อีกครั้งนึงในมุมมองของปรเมศวร์ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาทำคิดถึงตัวเองอีกแล้ว โดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าลูกนั่งดูอยู่ข้างหลัง ทุกคนคงได้ดูแล้วว่าสิ่งที่ปรเมศวร์ทำมันสะเทือนใจปณตขนาดไหน มันเป็นอะไรที่ตกใจสำหรับตัวปรเมศวร์มาก ซึ่งอันนี้ต้องให้เครดิตติดตามต่อ ตอนสุดท้ายวันจันทร์นี้

พอเห็นน้องแสดง น้องระเบิดอารมณ์ออกมาขนาดนั้น พี่คริตรู้สึกยังไงบ้าง ?

ชาคริต : ตัวผมยังพูดมากไม่ได้มันยังไม่จบกับซีนนั้น อารมณ์ทั้งหมดที่น้องเจ้าคุณหรือว่าตัวปณตส่งมาหรือว่ารู้สึกในความเป็นตัวละครตรงนั้น ทำให้มีบทสรุปในศาล สุดท้ายวันนั้นว่าจะออกมาเป็นยังไง ซึ่งพูดมากไม่ได้



 น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ


โมเมนต์ที่พี่คริตกำลังนั่งต่อบทแล้วหันมาเห็นน้องใส่อารมณ์เต็มที่ ?

ชาคริต : ใช่ ภาพที่พี่สันต์เล่าเองคือคนดูจะไม่เห็นน้องปณตเลยเห็นแค่ตัวบัวบงกชกับภาวินท์มานั่ง มันก็เลยเซอร์ไพรส์ทุกคนไปหมด พอเปิดมาปุ๊ปตัวปณตนั่งฟังพ่อเค้าแถอยู่ พยายามจะแถเป็นครั้งสุดท้าย แล้วมันก็เป็นสิ่งสะเทือนใจ เด็กคนนึงมาก แล้วพอผมหันไปเราก็รู้สึกจริงๆว่าลูกเราอยู่ตรงนั้น สิ่งที่เราทำไปมันเลวร้ายมากสิ่งที่น้องระเบิดออกมามันเรียลมาก เราเองสัมผัสได้ง่ายมาก การเข้าฉากทุกครั้งไม่ว่าจะกับแอฟหรือน้องเจ้าคุณเวลาเข้าไปมันจะเหมือนครอบครัวทุกครั้ง ผมเองไมได้รู้สึกว่าจะต้องสร้างความเชื่อขึ้นมา ไม่รู้ทำไมเหมือนกันมันรู้สึกง่ายมาก แล้วมันก็ช่วยเรื่องการตีความและแสดงออกมาตามตัวละครของเรา แค่มองกันก็รู้แล้ว

ฟังพี่คริตพูดอย่างนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?

เจ้าคุณ : ก็รู้สึกดีใจมากครับที่พี่คริตพูดแบบนั้น เพราะว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่คริตก็ชมผมด้วยครับ

พี่คริตอยากบอกอะไรน้องมั้ย ?

ชาคริต : ทุกอย่างที่เจ้าคุณรักแล้วก็เชื่อในความสวยงามของศิลปะและสนุกกับการทำงาน สนุกกับการที่เราได้ขวนขวายในเรื่องของสิลปะการแสดงและเราได้รู้จักตัวเราเองอีกหลายๆมิติแบบนี้ดีอยู่แล้ว อย่าลืม อยากให้จำทุกๆโมเมนท์ในการเดินทางของการเป็นนักแสดงของเราเอาไว้ เพื่อที่ทุกครั้งที่เราเดินเข้าฉากกับรับเรื่องใหม่ เราเริ่มใหม่จากศูนย์ตลอดเวลาจำไว้ว่าเราคือนักแสดง จะเล่นบทอะไรเราก็ต้องเล่นได้ ไม่ต้องไปยึดติด



 น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ


พี่คริตรู้สึกยังไงที่น้องตั้งฉายาในวงการบันเทิง ปีศาจแห่งวงการ ?

ชาคริต : ไม่รู้จะรู้สึกยังไง ทุกวันนี้ทำงานมาตั้งหลายปีแล้วยังเหมือนเดิมนะ ซ้อมเบา ๆ เพราะยังเขินอยู่ รอเอาจริง พอผลงานเราออนแอร์หรือเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นหนังหรือซีรี่ส์ ละคร กว่าจะกล้าดูตัวเองได้อีกซักพักนึงเหมือนกัน มันคนละโหมดกัน พอเราอยู่ในโหมดการแสดงเราก็จะรักศิลปะการแสดงจริงๆ แต่พอเล่นเสร็จไปแล้วเขิน

เจ้าคุณอยากบอกอะไรพี่คริต ?

เจ้าคุณ : อยากบอกว่าหวังว่าจะได้ร่วมงานกับพี่คริตอีกในเส้นทางอาชีพของผมครับ

อวยพรน้องหน่อย ?

ชาคริต : อวยพรล่วงหน้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง เรื่องของ ๆ รางวัลเองถ้าเราได้เสนอชื่อเข้าชิงวันนั้นก็เป็นเกียรติแล้วกับการที่เราได้ร่วมเข้าชิงกับหลาย ๆ คน ถึงไม่ได้เข้าชิงถือว่าเราทำงานของเราเต็มที่แล้ว เราอยู่กับปัจจุบันอยู่กับวันนี้ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ต้องทำเพื่อไปหวังอะไรในข้างหน้า สิ่งที่เจ้าคุณทำอยู่แล้วมันดีมากๆ และขอให้ตั้งใจทำให้มันดีทุกๆวัน วันนี้ดีแล้วพรุ่งนี้ทำให้ดีอีกแล้วสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า มันก็จะเป็นผลที่วันนึงเราก็จะเดินไปหามัน มันก็จะเดินมาหาเราเอง

 



 น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ




 น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ




 น้องเจ้าคุณชอบฝีมือพระเอกคนนี้ ตั้งฉายาให้เป็นปีศาจแห่งวงการ


vvvvv
vvv
v





เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์