นักร้องหนุ่มมีอดีตสุดเกเร! ติดยา-พนันจนชีวิตพังไม่เหลืออะไร

เบิ้ล ปทุมราช : เป็นฮอร์โมนวัยว้าวุ่นอยากเท่ อยากเจาะหู อยากตัดผมรองทรง อยากลองบุหรี่ มันต้องเป็นแบบนี้สิมันเท่ พี่รู้ไหมผมไม่ได้เสพอย่างเดียวผมขายด้วย สมัยนั้นมีดสปาต้า มีดพรานมะพร้าวผมมีอยู่ใต้เบาะรถเลย คนจะไปเวียนเทียนจะได้บุญผมไปดักรอคนที่เวียนเทียนคนไหนๆเดินขี้เก๊กเอาปืนปากกาวิ่งไล่ยิง ผมไม่รู้ว่าผมมาเป็นเบิ้ลได้ยังไงผมควรจะตายหรือติดคุกไปแล้ว

 

เบิ้ล ปทุมราช : ตังค์ผมก็ไม่กล้าขอใครผมก็บอกแม่ผมขอเงินไว้ติดตัวได้ไหมระหว่างที่ผมรอทำเพลงอยู่ แม่ก็บอกว่าได้เดี๋ยวแม่โอนให้ รุ่งเช้ามาแม่ก็โอนแล้วผมก็ใช้แล้วก็มีเพื่อนของผมทักมาบอกว่าเบิ้ลอยากให้สู้นะ รู้ไหมว่าเงินที่แม่โอนให้เพื่อนผมบอกว่าเขาพาแม่ขี่มอเตอร์ไซค์เอาทองไปขาย แล้วทองเส้นนั้นเป็นทองที่ปู่เสียเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของพ่อ ผมร้องไห้แบบจุกหนัก ผมก็บอกกับตัวเองว่าถ้าผมไม่สำเร็จในการเป็น เบิ้ล ปทุมราช ผมจะไม่ยอมถอยไม่ยอมกลับไปบ้านโดยที่ยังไม่ดัง

เบิ้ล ปทุมราช : ผมเคยไปรับจ้างร้องเพลงร้านสุกี้ รับจ้างร้องเพลงร้านที่เป็นแบบพวกเรือนไม้เก่าๆที่เป็นแบบคนดูไม่เอาผมเลยผมก็บอกเพื่อนว่าสักวันหนึ่งผมจะทำให้เขารู้ว่าเขาคิดผิดที่ปฏิเสธผม ผมก็ไปหาพี่ชายบอกเขาว่าพี่ผมอยากทำเพลง โรงเบียร์ร้อยเอ็ดเขามีนักร้องหรือยังเขาบอกผมว่าเต็มแล้ว แต่ถ้าเบิ้ลอยากร้องเดี๋ยวพี่ช่วยคุยให้ ค่าตัววันนั้นผมได้มาเบียร์สามขวดผมได้ได้ทิปหน้าเวที 400-500 ก็เก็บเงินไว้ทำเพลงให้แม่ชื่อเพลง จากใจลูกชายแม่ (โชว์ร้องเพลง) คิดฮอดแม่เด้อ.. อยากเห็นหน้าแม่ คิดฮอดหลายแท้วันแม่ไม่ได้กลับไป แม่ร้องไห้แล้วแม่พูดกับผมน้ำตาผมไหลเลย

เบิ้ล ปทุมราช : ผมติดเครดิตบูโรค้างค่าบ้าน 6-7 เดือนโดยที่ไม่มีใครรู้ช่วงนั้นได้เงินมาเยอะมันก็ใช้แบบไม่เป็นผมเคยแทงบอล แทงพนันด้วยนะเสียเงินเป็นแสนเป็นหลักล้านเลยนะ ไปเที่ยวกลางคืนสามสี่หมื่นก็ไม่เคยเสียดาย