เอสโต้ควงเจ๊ฉอดเคาท์ดาวน์ปีใหม่ญี่ปุ่น

เมื่อได้นั่งแท่นผู้บริหารบริษัท เอไทม์ ทราเวลเวอร์

หนุ่มหน้าตี๋ "เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย" ก็ยิ่งให้ได้โดนเม้าท์ถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับ "เจ๊ฉอด" บอสใหญ่เอไทม์ อย่างล่าสุดที่เม้าท์มาแต่ไกลถึงแดนปลาดิบว่า ทั้งสองควงกันสวีตหวานกันไปเคาท์ดาวน์ กลายว่าข่าวเรื่องกุ๊กกิ๊กกันยังไม่ยอมหยุดสักที

แต่หนุ่มเอสก็ร้อนรนรีบแจงว่า

"ไม่ได้สวีตอะไรหรอกครับข่าวก็เป็นข่าว ลักษณะของงานมันก็ต้องทำกับพี่ฉอดอยู่แล้ว จริงๆ แล้วตอนนี้พี่ฉอดก็เหมือนเป็นเจ้านายเราอีกทีหนึ่งแล้วก็ที่ไปญี่ปุ่นที่ไปกับ เอไทม์ ทราเวลเวอร์ มันก็จะได้รู้ถึงความแตกต่างกับครั้งที่เราเคยไปมาก่อน คือเราทำบริษัททัวร์เราก็คัดสรร ความหลากหลายให้กับลูกค้าให้ดีที่สุด มันก็ไม่เกี่ยวว่าจะไปสวีตกันหรือเปล่า กระแสก็คือกระแส ใครอยากจะพูดก็ให้เขาพูดกันไป มันก็ไม่ใช่ความรูสึกที่เราต้องมาค่อยแก้ต่างหรือแก้ข่าว คนที่รู้จักผมเขาก็จะเข้าใจ แต่คนที่ไม่รู้จักก็จะมีถามมาบ้าง "

รู้สึกอย่างไร กับข่าวออกมาว่ากุ๊กกิ๊กอีกระรอก
 
"ยังจะบอกว่าเราสนิทกันอยู่แล้ว คือเราก็ไปทำงานผมเข้าไปอยู่เอไทม์ ทราเวลเวอร์ มาเป็น 1 ปีแล้วการทำงานก็ต้องมีการพูดคุยกันอยู่แล้วอย่างที่บอกว่าเราสนิทกัน เราก็คุยก็แบบพี่ๆน้องๆกันเท่านั้น "

ซีเรียสอีกมั๊ย

"ผมรู้สึกเฉยๆเพราะมันก็เป็นข่าวเดิมๆจริงแล้วข่าวที่ออกมาว่าไปไหนมาไหนมันก็เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่มันไม่ยอมจบ ซึ่งมีข่าวกับพี่ฉอดก็มาเกือบ 2 ปี "ได้คุยกันบ้างหรือยัง "ไม่จำเป็นต่อคุยกันมันขำๆทำให้เราต้องมานั่งคุยกันทำไมถึง 2 ปี"

แล้วที่เจ๊ฉอดเหน็บว่าเอสไม่มีเวลาให้ เพราะทำแต่งาน

"ไม่เกี่ยวน่ะ อันนี้ไม่เห็นพี่ฉอดเขาพูดเลยไม่ได้ยินจากพี่ฉอดส่วนใหญ่จะเป็นคนอื่นมากกว่า ที่จะทำให้เป็นประเด็น" ถือว่าความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิมมั๊ย"ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิมถึงอย่างไรก็ไม่สามารถพัฒนากันได้ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วแต่ถ้าจะขึ้นมาอีกสเต็ปนึงก็เป็นแค่นายจ้างกับลูกน้องเท่านั้น"
 
เซ็งมั๊ยเจอข่าวแบบนี้

"จะเข้าใจมากกว่าคือพี่ฉอดก็เป็นคนมีชื่อเสียงผมก็เป็นคนที่ทุกคนรู้จัก พอไปไหนกันหลายคนก็จะถ่ายรูปเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นเอง ผมถือว่าเป็นเรื่องปกติแล้ว"