“ตุ้ย-เกียรติกมล” ได้ดีวันนี้ เพราะคำสอนของแม่

“ตุ้ย เกียรติกมล ล่าทา” หนุ่มคนนี้โด่งดังมาจากเวที อคาเดมี่ แฟนเทเชีย หรือที่เราเรียกว่า เอเอฟ 4 เรียกได้ว่า ตุ้ย เป็นนักล่าฝันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกคนหนึ่งของเวทีนี้ก็ว่าได้

เพราะไม่ว่าจะงานเพลง งานละคร ก็มีเข้ามาไม่ขาดมือ แถมยังเป็นที่รักของแฟนคลับอีกต่างหาก เพราไม่ว่าหนุ่มคนนี้จะไปปรากกฎกายที่ไหน ก็มักจะมีแฟนคลับไปให้กำลังใจที่นั้น แหม...เนื้อหอมขนาดนี้ แน่นอนเราต้องหาคิวตามตัวมาพูดคุยให้แต่ แต่ว่าจะเจอหนุ่มตุ้ย ตัวเป็นๆนั้น ใช้เวลาตามล่าคิวซะหลายเดือนเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นในวันนี้เมื่อเจอตัวจริง เสียงจริงแล้ว เราจึงไม่รอช้ารีบคว้าตัวหนุ่มตุ้ย มาเปิดใจทันที



ซึ่งตอนนี้เขาพร้อมที่จะคุยแล้ว เพราะฉะนั้นอย่ารอช้าไปคุยกับหนุ่มคิวทองคนนี้กันเลย
 
“เข้าวงการมา 2 ปี ชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมาก มันคุ้มมากกับชีวิตมาก เพราะที่ผ่านมาเราดำเนินชีวิตมาไม่เคยได้เจออะไรแบบนี้ พอเจอแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกว่าคุ้มค่ากับการดำเนินชีวิตมาถูกทาง มันเป็นไปตามเป้าหมายทุกอย่าง”
 
แสดงว่าก่อนหน้านี้ มีทางให้เราเลือกเยอะ?
 
“ ไม่ใช่ครับ คือก่อนที่จะเข้ามาตรงนี้ผมไม่มีทางให้เลือก ก็คิดอยู่ว่าเราจะไปทางไหนดี มันไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่พอเรามาอยู่ตรงนี้ ผมจะวางแผนทุกอย่างที่จะทำอะไรยังไง จริงๆผมมานั่งคิดย้อนนะ ว่าวันนั้นตัดสินใจถูกมากที่เดินเข้าไปสมัครประกวด”
 
แล้วถ้าไม่เข้าประกวดในวันนั้น คิดว่าวันนี้ ตุ้ย จะทำอะไรอยู่?
 
“ ก็คงจะร้องเพลงกลางคืนอยู่ครับ คงไม่ได้มาขนาดนี้


นอกจากความรักที่ได้จากแฟนคลับแล้ว ในวันนี้ ตุ้ย ได้อะไรมาบ้าง?
 
“ หน้าที่การงานที่ดีขึ้นมากๆครับ ผลพลอยได้ที่ตามมา คือ ผมได้ดูแลพ่อแม่ได้ดีกว่าเดิม คือกำไรทั้งตัวเราเองกับคนรอบข้าง”
 
ถามจริงๆแฟนคลับรักขนาดนี้ ไปไหนมาไหนก็ตามตลอด ตุ้ย เคยรู้สึกอึดอัดไหม?
 
“ ไม่นะ คือถ้าไม่มี เครียด ช่วงใหม่ๆบอกตามตรงผมก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป เวลาเจอึคนมายุ่งมาเกี่ยวอะไรมากๆ มันก็มีความรำคาญ มีความเซ็งเหมือนกัน แต่พอนานๆมันเหมือนซึม พอมันไม่มีปุ๊ป เราจะรู้สึกทันทีว่าเราทำอะไรผิดหรือเปล่า สมมุติว่าวันไหนที่แฟนคลับไม่มานะ คือตอนนี้มันกลายเป็นว่าไม่มีก็ไม่ได้นะเป็นงั้นไป ไม่ได้สำคัญแต่ไม่มีได้”
 
แรกๆปรับตัวได้ไหม กับการเป็นคนมีชื่อเสียง?
 
“ แรกๆผมยังไม่รู้ว่าวิธีการดำเนินชีวิตของการเป็นอย่างนี้ มันเบื่อเหมือนกันนะ วันๆทำแต่งาน เช้ามาเข้ากองถ่าย หรือไม่ก็ไปทำงานโน้นนั้นนี้ เที่ยงคืนเข้าบ้านนอน นอนวันละ 4-5 ชั่วโมง ก็ทำงานอีกแล้ว ซึ่งแบบมันเบื่อ เพื่อนก็ไม่ได้เจอ ทำอะไรก็ไม่ได้ทำ แต่พอมันนานๆเข้า เราเริ่มหาทางออกเจอว่า เราควรจะใช้ชีวิตยังไงกับการเป็นแบบนี้ มันเริ่มชินและคุ้นแล้วกับสิ่งเหล่านี้ที่เราได้รับ มันต้องมีการแลกอะไรที่ได้มาง่ายๆก็ต้องยอมเสีย
 
เช่น ทุกวันนี้เวลาเราไปเดินตามห้าง ใครเขาจำได้เขาก็จะมาขอถ่ายรูป แต่ในบางทีบางครั้งเราไม่สะดวก แต่เราก็ต้องให้ถ่าย ฉะนั้นเราต้องตัดปัญหาไป เรารู้ว่าเราไปเราจะโดมรุมถ่าย เราก็ไม่ไปซะ แต่ไม่ใช่ว่าฝืนตัวหรือว่าอึกอัดนะ แต่มันก็ไม่ใช่นิสัยผมอยู่แล้วที่จะไปเดินห้าง ผมเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ผมยังไม่เข้ามาทำงานในวงการนี้อีก ผมไม่บ้าเบรน ไม่บ้าซื้อของแพง แล้วพอมาเป็นวันนี้ผมรู้แล้วว่าควรจะใช้ชีวิตยังไง”


ตุ้ย มีโลกส่วนตัวสูงไหม?
 
“ มีบ้างครับ อยู่คนเดียวได้เป็นวันๆ เพราะว่าด้วยงานเราเวลาทำงานเราจะเจอคนเยอะ แล้วก็ต้องพูดเยอะมาก แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งผมได้อยู่คนเดียว ผมขอเงียบๆเลย หรือว่าจะไปเที่ยวก็ขอไปที่ไม่มีคนเลย มันเหมือนว่าเราจะเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง แต่จริงๆไม่ใช่ ผมว่ามันเอามาทดแทนกับวันที่เราต้องเจอคนเยอะพูดเยอะ ไม่ใช่ว่าผมถือตัวนะ แต่ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าวันที่จะต้องอยู่คนเดียวก็ขออยู่คนเดียวจริงๆ”
 
ขอย้อนกลับไปสมัยเด็กๆหน่อยด้วยภาพลักษณ์ดู ตุ้ย เหมือนจะเป็นเด็กเกเรนะ?
 
“ ผมก็ดื้ออยู่ในขอบเขตครับ แม่ผมจะปลูกฝังมาตั้งแต่หัวเลี้ยวหัวต่อ เขาจะสอนอะไรดีหรือไม่ดี ตรงนี้ขอยกเครดิตให้แม่กับป๊าไปเลย ถ้าเกิดไม่เชื่อฟังเขาผมก็คงไม่ได้มาเป็นแบบนี้ หรือว่าผมมีโอกาสได้มาเป็นแบบนี้ แต่ผมก็คงไม่ได้อย่างนี้หรอก เพราะถ้านิสัยเราไม่ดีตั้งแต่แรก ก่อนเข้าวงการพอเรามาเข้าปุ๊ปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”
 
แล้วพอมีชื่อเสียงมาก ความคิดเราเปลี่ยนไหม?
 
“ ผมไม่คิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงมากเลยครับ ผมได้แต่คิดว่าผมมีงานที่ออกสู่สาธารณชนให้คนดูได้เห็น มากกว่างานที่เราคิด ร้องเพลงกลางคืน ทำงานออฟฟิต เงินก็ได้เยอะมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้นเอง ผมคิดแค่นั้น ชื่อเสียงมันเป็นผลพลอยได้ไปแล้ว คำว่าชื่อเสียงในทีนี้ เรียกว่าคนเคยเห็นเราดีกว่า เขารู้จักเรา เขาจำเราได้ ผมก็ดีใจแล้ว ที่เขารักเรา เขาชอบเรา ไม่งั้นเขาคงไม่เข้ามาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็นใช่ไหม ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองดัง เพราะมีคนดังเยอะแยะในวงการบันเทิงครับ ผมก็คนธรรมดาคนหนึ่ง”


แปลนอนาคตยังไง?
 
“ ตอนนี้ก็เก็บเงินอย่างเดียวแล้วครับ เพราะว่าตอนนี้ผมก็ซื้อบ้านให้ป๊ากับแม่แล้ว ดูแลเขาตามที่เราดูแลได้อย่างเต็มที่ อยากได้อะไรก็หาให้ตัวเองบ้าง ดูแลกำลังว่าเราไหวไหม ถ้าไหวก็ทำ แล้วก็ทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ”
 
เคยร้องเพลงกลางคืนมา คนจะมองภาพว่าเพลย์บอย แบดบอย จริงๆเจ้าชู้ไหม?

 
“ ไหมๆ ผมยอมรับว่าผมเป็นคนใจร้อน แต่มีเหตุผลครับ ยิ่งเรามาอยู่ตรงนี้ เราคงทำอะไรมากไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องเจ้าชู้ ผมว่าผมไม่เจ้าชู้นะ ก็เรื่อยๆมากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าผมเป็นคนตลก อัธยาศัยดี เข้ากับคนง่าย คนเลยมองว่าเจ้าชู้หรือเปล่าผมไม่รู้นะ แต่ถามว่ามีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตบ้างไหม ก็มีบ้างครับ ผมว่าปล่อยทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติดีกว่า แต่ยังไงผมก็เอาให้พ่อแม่ผมสบายก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องตัวเอง”
 
ตุ้ย ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ไหม?

 
“ ไหมครับ ผมชอบผู้หญิงเรียบร้อย น่ารัก แต่ตอนนี้ยังไม่เจอเลยครับ อาภัพ ( หัวเราะ )
 
คำถามสุดท้าย คิดว่าตัวเองเป็นหนุ่มเนื้อหอมไหม ?

 
“ ก็พอได้อยู่ครับ  ( หัวเราะ )”
 
อิ่มอกอิ่มใจกันแล้วกับการพูดคุยกับหนุ่มตุ้ยในวันนี้ หนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกกตัญญู เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ตุ้ยถึงได้ดังวันดังคืน เอ๊า....เป็นลูกที่ดีแล้วก็ขอให้ตุ้ยเป็นลูกที่ดีต่อไปนะจ๊ะ เราขอเอาใจช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานด้วยคน


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์