ฝน ธนสุนทร เคลียร์ดราม่าโปรเจคปลดหนี้เรื่องจริงเป็นเเบบนี้?
ล่าสุด ฝน ได้ออกมาเปิดใจเคลียร์เราม่าดังกล่าวว่า "ตามที่เป็นข่าว ทุกคนจะเข้าใจว่าโปรเจกต์ปลดหนี้เป็นโปรเจกต์ฝนหรือเปล่า จริง ๆ ฝนเป็น พรีเซ็นเตอร์ ตามสัญญาอย่างที่ คุณส้ม บอกว่าทำหน้าที่พรีเซ็นต์ในเรื่องสินค้า การที่เราไปกิจกรรม ก็ไปตามหน้าที่ตามสัญญาพรีเซ็นเตอร์ ถ้าคนไม่เข้าใจก็จะเข้ามาเป็นห่วงว่าจะจริงได้เหรอ ปลดหนี้ได้จริงเหรอ บางทีเขาฟังไม่จบ ว่าเอาเงินมาให้เรา 520 เดี๋ยวเราไปปลดหนี้ให้ เขาฟังไม่จบ จริง ๆ ไม่ใช่ เราจะสอนให้ขายของ สอนให้ทำงาน ถ้าใครขยันก็ปลดหนี้ได้แน่นอน ถ้าใครไม่ขยันก็คงตามที่ตัวเองทำ เราก็พยายามสอนให้ทุกคนได้ทำ ได้ค้าขายออนไลน์ได้ ฝน เห็นว่ามันเป็นแบบนี้จริง ๆ
เราก็แค่ไปถามว่าเขาทำยังไง สัมผัสถึงความสำเร็จของเขา ฝน แค่เห็นตามความเป็นจริงเท่าที่เราได้เห็น แต่ก็เข้าใจว่าหลายคนก็ฟังไม่จบ แล้วกลายเป็นว่า ระวังนะเดี๋ยวจะถูกหลอก เราก็โอเค ถ้าเรื่องเริ่มคนสงสัยเยอะ เราก็อยากให้ทางแบรนด์ บอสส้ม ผู้บริหาร ได้แถลงเลย เพราะฝนเป็นแค่จุดเล็ก ๆ
เจ้าของพรีเซ็นเตอร์ ไม่ใช่เจ้าของโปรเจกต์ เราอยากให้ผู้บริหารได้มาชี้แจง อธิบาย แสดงเอกสารที่ถูกต้อง ใครอยากตรวจสอบก็เข้าไปเช็กได้ ถ้าให้ ฝน นั่งตอบก็อาจตอบไม่หมด ให้ผู้บริหารตอบก็น่าจะชัดเจนกว่า แต่ในส่วนเรา เราทำหน้าที่พรีเซ็นเตอร์เท่านั้นเอง อยากให้ทุกคนฟังให้จบ และฝนจะไม่ฟ้องใคร ถ้ารู้ว่าไม่ใช่เข้ามาขอโทษเรา แก้ไขให้เราก็พอใจแล้ว โลกวุ่นวายมากพอแล้ว เรื่องเยอะมากพอแล้ว เราอย่าทำอะไรให้เป็นเรื่องกันอีกเลย ฝน เลยรู้สึกว่าไม่อยากจะฟ้องร้องหรืออะไร ถ้าเข้าใจผิดก็มาคุยกัน
จริงๆ ผลกระทบก็คือความไม่มั่นใจในตัวเราแล้ว จากคนที่เคยมั่นใจก็ไม่มั่นใจในตัวเราแล้ว แต่ฝนจะพยายามเป็นตัวเองแบบนี้ ใช้เวลาให้เขาเห็นว่าฝนไม่ได้คิดทำร้ายใคร หรือหลอกใคร หรือมุ่งจะอะไรกับใคร อยากให้เขาเห็นด้วยเวลา ว่าเราไม่ใช่คนแบบนั้น
แต่ทุกคนมีสิทธิ์คิดหมด แต่ตอนนี้อาจกระทบทางจิตใจบ้าง เขาฟังไม่ครบ ไม่จบ บางคนเขาเป็นห่วง ถ้าจะกระทบก็คือกระทบในเรื่องความเชื่อมั่นในตัวเรามากกว่า บางทีการขายสินค้าหรือรับพรีเซ็นเตอร์ ฝนค่อนข้างมีวิจารณญาณนิดนึง ฝนขอลองเอามาใช้ก่อน ถ้าดีไม่แพ้ถึงจะกล้ารับ ไม่งั้นจะพูดได้ไม่เต็มปาก เราคิดว่าเรามีความซื่อสัตย์พอสมควรในการทำงาน
เรื่องขายบ้าน มีนักข่าวมาสัมภาษณ์ที่บ้าน ก็คุยปกติ คุยเรื่องผลงาน เรื่องอนาคต ซึ่งฝนชอบทำการเกษตร ก็เลยบอกว่าอนาคตฝนฝันอยากมีบ้านสวน อยากอยู่แบบพอเพียง อย่างที่ในหลวง ร.9 ท่านสอน ฝนฝึกทำปุ๋ยทำโน่นนี่ ฝึกตัวเองเพื่ออนาคตเราไปอยู่บ้านสวนในบั้นปลายเกษียณหลังจากเลิกร้องเพลง เขาเลยถามว่าถ้าไปอยู่ตรงนั้น แล้วบ้านหลังนี้ล่ะ เราก็บอกว่าถ้าเราต้องไปอยู่บ้านสวน บ้านหลังนี้เราก็ต้องขายแล้วมั้ง แค่นั้นเองค่ะ ไม่ได้ประกาศขายบ้าน แต่พูดจริงว่าถ้าเราถึงขั้นไปทำสวน มีสวน ไปอยู่สวรรค์บนดินตามสิ่งที่เราปรารถนาแล้ว บ้านหลังนี้ก็คงต้องขายแล้วมั้ง แค่นั้นเองค่ะ อาจจะฟังไม่จบ หรือฟังไม่ได้ศัพท์ หรือฟังแค่ว่าขายบ้าน หรือดูแค่พาดหัวว่าฝนจะขายบ้านแล้ว แต่นิดนึง นักข่าวก็ขอเราว่าขอพาดหัวแรง ๆ ได้ไหม เราก็เรียนนิเทศฯ มาเนอะ พาดหัวคนก็สนใจ หารู้ไม่ว่ามันจะมากระทบเรา แต่ถ้าคนได้ฟังเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบจริงๆ ก็จะเป็นอย่างที่ฝนเล่า ให้ ฝน เล่ากี่รอบก็เหมือนเดิม เพราะเป็นความจริง"
https://www.facebook.com/teeneedotcom