แมงปอ ชลธิชา ปิดอู่แล้ว!! ย้อนวิกฤตหวิดเสียลูกสาวฝาแฝด

แมงปอ : ใช่ค่ะ เพราะมันอันตรายเกินไป ยังไงของแม่ต้องคลอดก่อนกำหนดแน่นอน สายสะดือสองเส้นเขาพันกันเยอะมาก ๆ จนหมอกลัวว่าเขาจะหายใจไม่ได้ และเสียชีวิตในท้องได้ตลอดเวลา

หมอไม่รับฝากครรภ์ คุณพ่อคุณแม่ช็อกขนาดไหน ?

แมงปอ : ช็อกค่ะ ออกมานั่งข้างนอกก็ร้องไห้ เราดีใจที่มีลูก แต่มันเสี่ยงขนาดนี้มันจะเป็นยังไง เราก็ร้องไห้ สองคนพูดอะไรไม่ถูก พูดไม่ออกเลย แต่โชคดี รพ. แนะนำว่าให้ไปที่ศิริราชดีกว่า เพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นทีมแฝดโดยเฉพาะ เขาแนะนำโอเค เราก็ตกลงจะไปศิริราช แต่ก่อนไปศิริราชก็นิดนึง ไปบนบานศาลกล่าว (หัวเราะ) ไปวัดพุทไธศวรรค์ อยุธยา เพราะบ้านอยู่อยุธยาอยู่แล้ว ก็ไปบนไว้ให้ลูกแข็งแรงปลอดภัย อีกวันก็ไปที่ศิริราช คุณหมอพูดเหมือนกันเลย ว่าเป็นครรภ์ที่มีความเสี่ยงมาก ๆ ถ้าเป็นแฝดโดยส่วนใหญ่ เขาจะเป็นไข่คนละฟอง จะมีถุงกั้น ของใครของมัน แต่อันนี้อยู่ด้วยกัน ของปอไม่มีเส้นกั้นเลย ถ้าถามว่าลูกคนไหนดิ้นจะตอบไม่ได้เลย มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะดิ้นให้สายสะดือคลายออก มีแต่จะทำให้แน่นขึ้น

หมอศิริราชแนะนำยังไง ?

แมงปอ : หมอบอกว่าทำอะไรไม่ได้นะแม่ ที่แม่ทำได้คือดูแลตัวเอง ทานอาหารปกติ แต่อย่าเดินเยอะ

บิ๊ก : ให้น้องเคลื่อนตัวน้อยที่สุด

แมงปอ : คุณหมอปิดท้ายด้วยความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากที่สุดคือลูกอาจจะเสียชีวิตระหว่างตั้งครรภ์ได้ ถ้าคนหนึ่งเสีย อีกคนก็อาจจะเสียตาม

แมงปอ : ร้องไห้ทุกครั้งที่ไปหาหมอ ร้องไห้ตลอดเลย ระหว่างทางก็จะเกิดโน่นนี่นั่นตลอด พอเขาเริ่มซาวด์ก็จะเห็นรายละเอียดในตัวมากขึ้น เขาบอกว่าหลอดเลือดคนนึงเบี่ยงไปทางขวานะแม่ ปกติคนส่วนใหญ่จะเบี่ยงมาทางซ้าย เพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกาย แต่คนนี้ไปทางขวา เราก็ต้องไปหาคุณหมอโรคหัวใจเด็กอีก ไปหาตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง

ตอนนั้นคุณพ่อรู้สึกยังไง ?

บิ๊ก : ก็เครียดไปด้วยกันครับ เราไม่รู้จะช่วยยังไง

แมงปอ : หมอให้ทางเลือกว่าจะเจาะน้ำคร่ำเช็กมั้ย เพราะถ้าเส้นเลือดหัวใจเป็นแบบนี้ อาจเกี่ยวกับโครโมโซมด้วยหรือเปล่า แต่เราไม่ได้เจาะ เพราะมันก็เสี่ยง คุณหมอถามว่าถ้าเจาะแล้วกลับบ้านไปร้ายแรงที่สุดคือลูกเสียชีวิตอีก คุณแม่จะรับได้มั้ย เราก็พยายามหาดูหนัง แต่ใจเราก็คิดแต่เรื่องลูก หนังเปิดไปก็ไม่ได้ดู มีหลายสิ่งหลายอย่าง คุณหมอบอกว่าคลอดก่อนกำหนดแน่ แต่พอ 27 วีค หมอขอให้มาแอดมิตที่ รพ. เพื่อฟังเสียงหัวใจลูก เขาซาวด์เห็นแล้วสายสะดือพันกันแล้ว

ตอนจะ 7 เดือน ?

แมงปอ : ยังไม่ 7 ค่ะ ต้องมานอน รพ. ต้องมาฟังทุกวัน แต่เราก็มีลูกคนโตต้องดูแล ก็เลือกไปกลับ รพ. ทุกวันดีกว่า จากอยุธยาไปศิริราช เพื่อติดเครื่องฟังหัวใจฟัง

แมงปอ : หมอบอกว่าหมอเต็มที่แล้ว แต่เนื่องจากสายสะดือเขาพันกันเยอะมาก มาติดเครื่องฟังทุกวันก็จริง แต่เป็นไปได้พอกลับบ้านไปเขาหยุดหายใจขึ้นมา หมอก็แนะนำให้เราสวดมนต์ พอถึงวีคที่ 30 ตื่นมาแล้วมีน้ำไหลออกมา มีอาการท้องปั้นแข็ง ไปศิริราชแอดมิตเลย ต้องนอน รพ. นอนอยู่ในห้องรอคลอด สถานการณ์ตึงเครียดมาก มี 20 เตียง ทุกเตียงเต็มหมดเลย คนนึงน้ำไหล คนนึตกเลือด คนนึงเบ่งคลอด เราจะได้ยินตลอด เครียดมากค่ะ แอดมิตอยู่ประมาณ 10 วัน ลงจากเตียงไม่ได้ ต้องอยู่บนเตียงตลอดเวลา ฉี่ ถ่าย บนเตียง คุณพ่อเข้าไปไม่ได้ เราก็ร้องทุกวัน

หมอฉีดยาระงับคลอดด้วย ไม่อยากให้คลอดก่อน ?

แมงปอ : หมอเขาดูแล้ว เดี๋ยวฉีดกระตุ้นปอดน้องครบ 4 เข็ม ก็คลอดเลย ประมาณ 25 ธ.ค. เราอยากคลอดวันที่ 27 เราไปดูฤกษ์แล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่พอถึงวันที่ 25 หมอเดินมาจับมือที่เตียง ว่าจริง ๆ แม่ต้องคลอดวันนี้นะ แต่บังเอิญว่าเตียงไอซียูเด็กมันเต็ม ลูกออกมายังไงก็ต้องเข้าไอซียูก่อน มีเคสที่ฉุกเฉินกว่าของเรา เราก็โอเค งั้นเสียสละให้เด็ก ๆ ที่เขาต้องการห้องก่อน แต่เราก็ทรมานมาก ๆ โดนยาเข้าไป พอยาเดินเข้าไปมันร้อนวูบทั้งตัว ขนลุก ตัวร้อน หนักที่สุดคือเห็นภาพซ้อน เป็นยาระงับคลอด ทำให้ท้องคลายความแข็ง ทรมานมาก 25 ไม่ได้คลอด 26 ก็ไม่ได้คลอด พอวันที่ 27 ก็บอกว่าลูกหม่าม้าไม่ไหวแล้ว หม่าม้าทรมาน เราคลอดวันนี้นะ แล้วฤกษ์ที่ไปดูคือวันที่ 27 หนูออกวันนี้ได้มั้ย พอเช้ามืด ได้ยินเสียงแว่ว ๆ พยาบาลคุยกันว่ามีเตียงไอซียูว่างสองเตียง ปอคิดว่ามันจะใช่ของชั้นมั้ย เพราะเตียงข้าง ๆ ก็แฝดเหมือนกัน รอคลอดเหมือนกัน ก็ภาวนาว่าหนูต้องแสดงอภินิหารนะลูก ต้องเป็นเตียงเราเท่านั้นที่จะคลอดวันนี้ มันก็มีอาการท้องปั้นแข็งทุก 10 นาที ก็ลดลงมาเรื่อย ๆ จนถึง 3 นาที ไม่ไหวแล้วต้องคลอดแล้ว

ในห้องคลอดหมอชื่นชมคุณแมงปอว่าสมเป็นนักร้องลูกทุ่งจริง ๆ ?

แมงปอ : ในห้องคลอดโดยปกติปอติดกระดิกตัว เหมือนเป็นนักเต้นตลอดเวลา กระดิกขากระดิกเท้า ตอนคลอดคนแรก เราโดนบล็อกหลัง ประสบการณ์เคยมีแล้ว เราโวยวายในห้องคลอด ไม่อยากดูหน้าลูกแล้วช่วงเวลานั้น งอแง ร้องไห้ ไม่ได้ร้องไห้ดีใจจะเห็นหน้าลูก แต่กระดิกขาไม่ได้ ทำยังไง นอนนิ่งมันอึดอัด เหมือนคนจะขาดใจ แต่พอคลอดแฝด ปอตั้งใจแล้วว่าฉันแอดมิตมาตั้ง 10 วัน สมาธิฉันก็มีมากนะ อยู่คนเดียวมาได้ขนาดนี้ เดี๋ยวเข้าห้องคลอดไม่เป็นไรแน่ ไม่ถึง 5 นาทีเขาบล็อกหลัง เราก็ร้องหมอไม่เอา ๆ มันอึดอัดมาก หมอเอายาอะไรไม่รู้มาฉีดใส่สายให้เราเคลิ้ม ผ่อนคลาย เป็นแบบนี้ 4 รอบ (หัวเราะ) ปกติคลอดลูกออกมา เขาน่าจะเอาลูกมาให้เราดู แต่นี่ได้ยินเสียงว่าเกิด ได้ยินเสียงลูกร้อง เขาไม่ได้เอามาให้เราดูเลย (หัวเราะ) เขาร้องดังมาก ดังผิดคาด เพราะตอนแรกเราคิดว่าถ้าคลอดก่อนกำหนด น้องน่าจะไม่ร้อง ปวกเปียกมากหรือเปล่า แต่นี่ร้องลั่นเลย

เรื่องเชื่อมโยงกันเป็นตั้งแต่อยู่ในท้องคืออะไร ?

แมงปอ : ถ้าคนนึงถีบ อีกคนก็จะถีบตาม ตลอด จนพอเขาคลอดออกมา ยังอยู่ที่ รพ. จะมีภาวะตัวเหลือง วันนี้คนนี้ตัวเหลือง อีกวันอีกคนก็ตัวเหลืองตาม พอคนนี้ตาขวาแฉะ อีกวันคนนึงก็ตาขวาแฉะ พอได้กลับบ้านเหมือนเขาส่งไลน์หากัน เฮ้ย ฉันร้องไห้เสร็จแล้วนะ เธอร้องต่อเลย (หัวเราะ) ถ้ายิ้ม อีกคนก็ยิ้มตาม

อยากบอกความในใจกับลูกแฝด ถ้าเขาดูในวันที่โตขึ้น ?

แมงปอ : ทุกวันนี้มองหน้าเขา แล้วบอกเขาตลอดว่าหนูเลี้ยงง่าย ๆ นะลูก อย่าดื้ออย่าซนนะ กว่าหม่าม้าจะมาถึงวันนี้ได้ พูดได้เลยว่าถ้าท้องแรกเป็นท้องแฝด ท้องต่อไปจะไม่มีแล้ว เพราะมันเหนื่อย มันทรมานอยาก อยากให้เขาเป็นเด็กดี ปอน้ำนมน้อยด้วย ต้องปั๊มนมทุกสาม ชม. ก็บอกว่าหนูต้องกินทุกหยาดหยดของหม่าม๊านะ

บิ๊ก : ผ่านอะไรมาตั้งแต่เขาท้อง ตั้งแต่เขาคลอด ตั้งแต่เขาอยู่ รพ. อยากให้โตไปเป็นเด็กดี ไม่เป็นภาระของสังคมก็พอแล้ว

สปูน : ไม่ดื้อไม่ซนนะครับ รักน้องครับ

แมงปอ : ลูกคนโต 6 ขวบแล้ว เขาดูแลตัวเองได้ทุกอย่าง ภูมิใจในตัวเขามาก เขาก็ช่วยแบ่งเบาปอด้วย เพราะบางทีพ่อเขาต้องไปทำงาน เขาก็ช่วยเลี้ยงแฝด ช่วยอุ้มช่วยโอ๋ ภูมิใจในตัวเขา อยากให้เขาเป็นเด็กดี ขึ้นป.1 แล้วตั้งใจเรียน

บิ๊ก : ภูมิใจกับน้องสปูนมาก เขาเก่งมาก จนบางทีเราคิดว่าเขาโตมาก บางอารมณ์เด็กเพิ่ง 6 ขวบก็มีนิดนึง แต่ภูมิใจเขาเก่ง

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่