นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ



นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ


นักแสดงรุ่นเก๋ามากความสามารถ วีระชัย หัตถโกวิท ที่วันนี้ขอควงภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากออกมาเปิดเผยชีวิตหลังตกอับ ไร้งานไร้เงิน จนต้องผันตัวเองไปเป็นพ่อค้าขายหมูสะเต๊ะประทังชีวิต ถึงขั้นต้องกู้เงินนอกระบบเพื่อยื้อสถานการณ์ครอบครัวเอาไว้ ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่องOne31

ตอนนี้มีข่าวออกมาว่าพี่วีต้องผันอาชีพไปขายหมูสะเต๊ะแล้ว ?

วี : จริงๆ ก็ไม่ได้ผันหรอก ยังอยากจะเป็นนักแสดงอยู่ แต่ว่ามันไม่มีให้ทำก็เลยมีอาชีพเป็นพ่อค้า

อะไรคือประเด็นตกอับ ?

วี : ส่วนมากคนจะใช้คำแบบนี้กับคนที่มีอาการแบบนี้คือคำว่าตกอับ มันเป็นปากคน

สภาวะ ณ ปัจจุบันเราใช้คำนี้ได้ไหม ?

วี : ก็น่าจะใช่นะ ผมไม่ได้คิดมาก เฉยๆ ตกอับก็คือตกอับ ผมก็ยังทำมาหากินอยู่

แล้วงานในวงการที่เริ่มน้อยลงเยอะๆ เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

วี : ประมาณปีครึ่ง มันมีละครถ่ายอยู่ปีครึ่ง ก็ถ่ายอยู่อย่างนั้นปีครึ่ง ไม่มีละครใหม่เข้ามาแทรกเลย

หมายถึงว่าละครเรื่องเก่าที่ถ่ายยังไม่จบ ?

วี : จบละ เพิ่งจบ

แต่ว่าในระยะเวลาปีครึ่งไม่ได้มีงานอะไรเข้ามานอกจากงานละครเรื่องนั้นเรื่องเดียว ?

วี : ใช่








นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ


พี่วีอยู่ในวงการมานาน รู้จักกับผู้จัดแต่ละค่าย ได้มีโทรหาผู้จัดบ้างไหม ?

วี : ก็โทรหาน้องๆ ที่เป็นทีมงาน ว่าทำไมมันเงียบๆ เขาก็บอกว่าไปหาอย่างอื่นทำก่อนเลย

ได้มีการติดต่อตรงไปทางผู้จัด เจ้าของค่ายบ้างหรือยัง ?

วี : ส่วนมากพี่ก็จะสนิทกับทุกคนเลย สนิทกับเจ้าของค่ายด้วย เขาก็รู้ด้วยนะ เขาก็บอกว่าเสนอไปแล้วไม่รู้จะโดนเด้งหรือเปล่านะ

แล้วพี่วีเคยกลับมาวิเคราะห์ไหมว่าเป็นเพราะอะไร ?

วี : ไม่รู้นะ เป็นเพราะดวงมากกว่า แต่ตามที่พี่วิเคราะห์ตัวเอง พี่ยืนยันได้เลยว่าจะไม่มีวันตกงาน ไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่ง แต่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีระเบียบ ทำการบ้าน ตรงต่อเวลา ทำทุกอย่างเป๊ะๆ ตามที่ผู้กำกับบอก

พอมาเป็นแบบนี้แล้วพี่คิดว่าเป็นที่เรื่องดวงเรื่องเดียวเลยไหม ?

วี : มันอาจจะไม่ใช่ดวงเราอย่างเดียว อาจจะเป็นที่ดวงเมืองด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้

ภรรยาก็ขายของมาหลายอย่างเหมือนกัน ?

ป้อ : ขายอาหารตามสั่ง ล่าสุดเป็นหมูสะเต๊ะ ก่อนหน้านั้นก็เป็นไข่กะทะ อาหารเช้า

ทุกอย่างที่เราทำตอนนี้ทำแล้วปิดกิจการหรือว่าตอนนี้ยังทำอยู่ ?

วี : ก่อนหน้านั้นไปอยู่ที่ระยอง ไปช่วยเพื่อนเขาทำร้านอาหารที่ระยอง แล้วเขามีเวลาว่างมาก ตอนเช้าตื่นมาทำน้ำเต้าหู้ขายดีกว่า เพราะกว่าจะเข้างานประมาณบ่าย ตอนแรกเขาไปขายน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋

แล้วเป็นยังไงบ้าง ?

ป้อ : ขายได้วันละ 200 กว่าบาท 3 ชั่วโมง 200 กว่าบาท ซึ่งตอนนั้นก็ดีเพราะตอนนั้นเรายังไม่มีหนี้อะไร เพราะ 200 กว่าบาทเราทำแค่ช่วงเช้า แต่เราทำเป็นผู้จัดการร้านตอนเย็น เราจะได้อีกก้อนนึงเป็นเงินเดือน เราคิดว่าถ้าวันละ 200 เดือนนึงก็ 6,000 หักทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราคิดว่ามาผสมกับเงินเดือนของเราได้



นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ


เราใช้ว่าเราทำมาแทบทุกอย่างแล้วได้ไหม ?

ป้อ : ทุกอย่าง หลายอย่าง ซักรีดก็แล้ว ทำงานบริษัทก็ได้

แล้วหมูสะเต๊ะตั้งแต่ทำมากี่วัน กี่เดือนแล้ว ?

ป้อ : 6-7 เดือนได้

ยอดขายดีไหม ?

ป้อ : ไม่ดี ไม่ถึง 2,000 ยังไม่ได้หักต้นทุน เต็มที่ก็ประมาณ 1300

วี : จริงๆ ต้อง 500 ไม้ขึ้น แต่บางวันก็ได้แค่ 20 ไม้

อย่างนี้ของสดเราก็ต้องซื้อมาหมักมาเก็บไว้ พอขายไม่ได้ก็กลายเป็นต้องเสียทิ้งไป ?

ป้อ : พวกหนูจะเอามาทำกิน

วี : ผมกินหมูสะเต๊ะทุกวันเลย หมูสะเต๊ะผัดกะเพราบ้าง หมูสะเต๊ะผัดเครื่องแกงบ้าง

ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเท่าไหร่ ?

วี : เพิ่งมาซื้อบ้านด้วย ที่หนักสุดน่าจะเป็นบ้าน

แล้วการผ่อนชำระมีปัญหาไหม ?

วี : มีครับ 2 เดือนแล้วยังไม่ได้จ่ายเขาเลย

เครียดหนักขนาดไหน ?

วี : ไม่รู้จะพูดยังไง ผมมองบ้าน เอ๊ะ มันจะใช่บ้านที่เราจะอยู่ไหม มันคิดไม่ออก

เดือนนึงต้องผ่อนเท่าไหร่ ?

วี : หมื่นกว่าบาท เราไม่ได้ดาวน์ด้วย เดือนนึงเราใส่เต็มๆ เลย ผ่อนธนาคารเต็มๆ เลย

รักบ้านหลังนี้มากใช่ไหม กลัวไหมถ้าวันนึงถ้าไม่ไหวจริงๆ แล้วอาจจะต้องปล่อย ?

ป้อ : ก็กลัวค่ะ

วี : ผมเครียดมากตอนแรก ผมพยายามดิ้นๆ เพื่อจะเอามาจ่ายค่าบ้าน เขาบอกว่าอย่าให้มันค้างเดือนนะ เดี๋ยวดอกมันจะขึ้น เราก็พยายาม จนเดือนที่ผ่านมาไมรู้จะไปเอาตรงไหน ไม่รู้จะพยายามยังไงแล้ว เดือนที่ผ่านมานี่ผมก็ช่างมัน ถ้าไม่ใช่บ้านเราก็ไม่ต้องอยู่

เห็นว่าค่าไฟก็ยังไม่ได้จ่าย ?

วี : ใช่



นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ


อย่างมารายการวันนี้พี่วีกับคุณป้อมีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ บอกได้ไหมคะ ?

วี : มีเหลืออยู่ 3,000 กว่าบาท

3,000 นี้ถือว่าน้อยสุดในชีวิตไหม ?

วี : ถ้าจะเทียบกับเมื่อก่อน เมื่อก่อนน้อยกว่านี้ แต่พี่ไม่ได้คิดมากไง ชีวิตมันไปเรื่อยๆ เปื่อยๆ สมัยที่ไม่ได้เก็บตังค์ ซักพักเดี๋ยวก็มีตังค์เข้ามา ถ้ามีละครเรียกพี่ไปถ่ายทำแล้วเมื่อไหร่พี่จะได้ตังค์ แล้วบ้านนี้จะอยู่กับพี่ไหม สงสัยไม่ได้อยู่แล้วมั้ง

แต่ทราบข่าวว่าพี่ไม่มีถึงขั้นกู้นอกระบบจริงไหม ?

วี : พี่ไม่ได้ทำ พยายามจะไม่ทำ
ป้อ : หนูทำเอง หนูแอบทำ

กู้มาเยอะไหม ?

ป้อ : ก็ประมาณเกือบ 5 หมื่น 6 หมื่น ดอกร้อยละ 20 วันนึงก็จ่ายประมาณพันกว่าบาท บางทีเราไม่มีจ่ายเต็ม

แล้วที่เห็นตามข่าวกลัวไหม ?

ป้อ : กลัว แต่อันนี้เพื่อนแนะนำมา

ตอนนั้นกู้เอาไปทำอะไร ?

ป้อ : ก็กู้มาจ่ายในส่วนที่ลงทุนด้วยนิดหน่อย บางทีเราก็ไม่อยากขอเขาก็ไปจัดการเอง มันก็สะสมๆมา

แสดงว่าพี่วีไม่รู้เรื่อง ?

ป้อ : ไม่รู้ พี่วีรู้เรื่องก็โกรธ ทะเลาะกันด้วย

วี : ผมไม่รู้ ผมโกรธมากเลย ผมไม่ชอบ

แต่พี่วีเข้าใจในเจตนาของภรรยาว่ามันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ?

ป้อ : ก็เราขอเขา แล้วเขาไม่มีเราก็ไม่รู้จะทำยังไง หนูไปยืมเพื่อนถึงเวลาคืนไม่รู้จะเอาที่ไหนคืนก็ต้องไปกู้มาให้เขา

วี : ก็มันไม่มีจริงๆ ไม่รู้จะไปเอาที่ไหน



นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ


ทุกครั้งที่ทะเลาะลูกสาวรับรู้ตลอด ?

ป้อ : รับรู้มันอยู่บ้านเดียวกัน ตอนนี้ลูกอายุจะ 15 แล้วค่ะ จะขึ้น ม.4

เรื่องกู้นอกระบบเป็นเรื่องที่ทะเลาะกันแรงในชีวิตคู่ ?

ป้อ : ใช่ เพราะว่าแกไม่ชอบเรื่องพวกนี้ด้วย

วี : พี่ไม่ชอบ พี่มีความรู้สึกมันเหนื่อย บางวันเขาขายของ เขาแทบจะไม่มีเงินมาจุนเจือบ้านเลย ทำไปก็หมด เหนื่อย ไม่รู้ไปเอามาทำไม ไม่ยอมอดตายแต่แรก จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้

เห็นว่ามีอยู่วันหนึ่งบอกคุณแม่ว่าอยากทานแซลมอน แล้วไม่สามารถให้เขาทานได้ ?

วี : จริงๆมันก็ไม่สมควรทานหรอก ช่วงจังหวะนี้ แต่เขาเป็นคนสปอยลูก แต่ผมตรงไปตรงมา พอเขาชวนว่าพ่อกินไหม ผมบอกไม่กิน ให้ลูกกิน พ่อกินอะไรก็ได้

ป้อ : เขากลัวพ่อเขา เพราะพ่อเขาชอบพูดว่าต้องประหยัดนะ แต่เราเคยไม่มี ถึงเวลาที่เรามีหนูเคยให้ลูกกินแบบไม่ต้องเมนูเลย อยากกินอะไรกินเลย กี่อย่างกี่บาทก็ได้ แม่จ่ายให้หมด แต่ในสถานการณ์แบบนี้เราก็บอกว่าเดี๋ยวค่อยกินนะ เดี๋ยวแม่ค่อยหาให้

เคยกอดกันร้องไห้บ้างไหม ?

ป้อ : ไม่เคยกอดกันร้องไห้ ร้องไห้คนเดียวในห้องน้ำ

ทำไมเราไม่คิดจะกอดสามีทุกครั้งที่เราท้อ มันเกิดอะไรขึ้น ?

วี : ไม่เลย เขาไม่เคยเลย เขาไม่เคยทำอะไรให้ผมเลย พี่ทำได้ทุกอย่าง ซักผ้า ทำกับข้าว กวาดบ้าน ทถกวันนี้พี่ก็ยังเป็นคนทำ เพราะพี่ไม่อยากอยู่เฉยๆ

ตอนนี้สถานการณ์หลายๆอย่างมันตึงเครียดจนพี่บอกว่าพี่ไม่อยากอยู่บนโลกใบนี้ ?

วี : มันเป็นแว้บนึง พี่ก็นึกถึงคนที่เขามีปัญหาแล้วก็จากไปด้วยวิธีนี้ เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้พูดกับคนอื่น หรือไม่เขาก็พูดกับคนอื่นแล้วแต่คนอื่นบอกเรื่องของคุณ คุณสร้างขึ้นมาเอง คุณต้องแก้ด้วยตัวเอง อ้าวแล้วผมจะมาปรึกษาคุณเพื่ออะไร แล้วคนพวกนั้นเขาก็ต้องตัดสินใจว่าอย่าอยู่เลยดีกว่า มันก็เป็นช่วงแว้บนึงหรือว่าเราอย่าอยู่เลย

แล้วเวลาพี่แว้บขึ้นมาในหัว อะไรที่พี่ตัดสินใจสู้ต่อ ไม่ทำ ในสิ่งที่มันแว้บเข้ามาในหัว ?

วี : คือมันไม่มีประโยชน์ที่เราจะต้องไปทำอย่างนั้น ถ้าเราทำไปเท่ากับเราหนีปัญหาของตัวเอง เหมือนมีชีวิตอยู่แล้วก็ทิ้ง



นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ


ด้านภรรยาเคยคิดฆ่าตัวตายไหมคะ ?

ป้อ : ไม่เคยคิดค่ะ

แล้วตั้งแต่มีข่าวออกมา หมูสะเต๊ะที่เราขายอยู่มันดีขึ้นบ้างไหม ?

วี : มันดีขึ้นหน่อยเดียวเอง ดีขึ้นเป็นบางจังหวะ ซักอาทิตย์ สองอาทิตย์

ป้อ : จะขายดีวันที่มีแฟนคลับ มีพี่ๆเข้ามาอุดหนุน

นอกจากการขายหมูสะเต๊ะพี่มีแพลนยังไงต่อ ?

ป้อ : รับงานตามบ้านที่เขาจะให้ไปติดตั้ง

วี : มีเพื่อนที่เป็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน เขาบอกว่าเขาเคยเห็นเราทำโน่นทำนี่ได้ เขาบอกว่าบ้านนี้จะทำไฟนะ ทำประปานะ พี่ไปทำหน่อยไหม ผมก็ไปนะ 300 200 500 เขาก็ขอถ่ายรูป

มันจะเกิดคำถามสังคมเกิดขึ้นว่า ณ วันที่ดังมีชื่อเสียง เอาเงินไปไหนหมด ?

วี : ตอนนั้นผมก็เหลวไหลนิดๆ มีเพื่อนฝูงเยอะ ตัวเองก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย ทำงานเสร็จก็ไปเที่ยว ไม่ได้คิดจะเก็บตังค์ พอมีลูกก็เริ่มเก็บ แต่เก็บไม่ได้แล้ว เพราะมีลูกก็ 47 แล้ว

แสดงว่าก่อนหน้านี้ที่ทำงานวงการบันเทิงพี่รายได้เยอะ ?

วี : มันก็ไม่เยอะนะ แต่งานมันเยอะ



นักแสดงรุ่นใหญ่ชีวิตตกอับไร้งานผันตัวเองขายหมูสะเต๊ะเลี้ยงชีพ


แล้วถ้าเริ่มเก็บตั้งแต่วันนั้น วันนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมั้ย ?

วี : พี่ว่าไม่น่านะ ไม่น่าจะมีถ้าเก็บนะ ก็ยังมีเงินเหลืออีกเยอะเลย แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายนะที่เราไปกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มันเป็นความสุขตอนนั้น ก็หมดไปกับกินเที่ยว

พอมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นพี่วีมีอะไรอยากจะบอกน้องๆในวงการไหม ที่อาจจะกำลังหลงระเริงกับเงินที่มันได้มาง่ายๆ ?

วี : ถ้าเกิดน้องๆนั่งดูพี่อยู่ตอนนี้ น้องๆควรจะรู้แล้วว่า ปัญหามันต้องเกิดขึ้นแน่นอน ถ้าไม่รู้จักแพลนตัวเองให้ดี ไม่รู้จักเก็บ คิดว่าตัวเองจะต้องมีงานมีเงินอยู่ตลอดเวลา ซักวันหนึ่งคุณอาจจะเจอแบบผม แล้วมันก็ไม่มี ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองเจ๋งตัวเองดีแล้วนะ อยู่ดีๆมันไม่มี เป็นตัวอย่างอีกตัวอย่างหนึ่งที่ควรจะต้องเก็บเงิน เท่าที่รู้น้องๆสมัยนี้เขามีวิชาความรู้ เขาเก่งกัน






vvvvv
vvv
v





เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์