คุณพ่อแง้มวิธีเลี้ยงลูก ฝ่าวิกฤตสังคมปัจจุบัน

นับวันสังคมไทยจะยิ่งเลวร้ายลงทุกที เห็นได้จากข่าวที่ปรากฏอยู่ตามสื่อต่างๆ บางข่าวก็ยากที่จะเชื่อว่า มีแบบนี้ด้วยหรือ?

เพราะสังคมในยุคปัจจุบันเป็นอย่างนี้ ทำให้คู่สมรสบางคู่ เลือกที่จะไม่มีบุตร แต่คนที่มีแล้ว เขาจะมีวิธีการเลี้ยงดูลูกอย่างไรให้พ้นจากสภาพสังคมที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะผู้นำครอบครัวอย่างผู้เป็น "พ่อ"

เริ่มกันที่คุณพ่อหมาดๆ "บ๊อบ"ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ คุณพ่อของลูกสาววัย 4 เดือน "น้องณัชชา" หรือ ด.ญ.ณัชชาวีณ์ ที่เผยมุมมองว่า

"ตอนนี้ลูกสาวยังเล็กอยู่ เราที่เป็นพ่อแม่ควรจะให้สิ่งที่ลูกควรจะได้คือความรักความอบอุ่น ความสนุก สนาน เพื่อให้เขามีพัฒนาการตามวัย ส่วนความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสังคม ยังไม่ถึงเวลาที่เขาควรจะรับรู้ ชีวิตเด็กควรจะมีความสุขมีความรักเต็มที่ไปก่อน ส่วนอนาคตจะทำให้เราต้องปรับตัวยังไงก็ค่อยว่ากัน สิ่งสำคัญในวันนี้คือความอบอุ่นความรักในครอบครัว เพื่อที่จะเป็นภูมิคุ้มกันให้กับลูกในอนาคต ถ้าพ่อแม่มีเวลาให้ลูกมากพอ เราก็จะได้คนที่มีคุณภาพ มีจิตใจที่ดี มีพื้นฐานที่แข็งแรงเพียงพอ อนาคตจะไปต่อเติมอะไรก็ง่ายแล้ว"

ส่วน "บ๊วย" เชษฐวุฒิ วัชรคุณคุณพ่ออารมณ์ดีของลูกสาว "น้องแพรว-แพรวพิชชา" วัย 6 เดือน กล่าวว่า

"ลูกยังเด็กมาก ตอนนี้วิธีการเลี้ยงคือไม่ให้น้องแพรวดูทีวี จะไม่ให้ดูจนกว่าอายุ 2-3 ขวบ เพราะการที่เด็กดูทีวีจะทำให้เด็กสมาธิสั้น และภาพที่สื่อออกมาทางทีวีบางทีจะนำเสนอ ภาพรุนแรง เด็กก็จะเลียนแบบ ส่วนเรื่องภัยต่างๆ ของสังคม เราป้องกันได้แค่ระดับหนึ่ง อีกอย่างลูกก็เหมือนกระจกสะท้อนของพ่อแม่ เราต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก เราไม่อยากให้ลูกเป็นคนไม่ดี เราก็ต้องเป็นคนดี และตอนนี้ผมจะให้เวลากับลูกมาก เรื่องครอบ ครัวลูกต้องมาเป็นอันดับหนึ่งครับ"

ด้านนักร้องหนุ่ม "น้อย วงพรู" หรือ กฤษ ดา สุโกศล แคลปป์ มีวิธีเลี้ยงลูก ชาย "น้องฟินนีแกน" (FINNE GAN) วัยขวบครึ่ง

"ผมก็คงสอนลูกเหมือนที่พ่อสอนผม ซึ่งมันไม่ต่างจากคุณพ่อทั่วไปที่สอนลูกคืออย่าพูดโกหก ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง พ่อจะสอนตลอดว่าอย่าทำอะไรตามคนอื่น เราต้องรู้ในจุดยืนของตัวเอง ผมเองก็จะสอนลูกชายของผมแบบนี้ รวมถึงสอนให้เขารู้ค่าของสิ่งต่างๆ ว่าของทุกอย่างมันไม่ได้หามาได้ง่ายๆ ส่วนเรื่องปัญหาสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ลูกของผมยังไม่โตพอที่จะรู้ถึงปัญหาต่างๆ แต่ผมก็จะพยายามให้ลูกได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ โดยพาไปเที่ยวยังประเทศต่างๆ เพื่อให้เขาได้เรียนรู้วัฒนธรมต่างๆ ได้เรียนรู้ถึงปัญหาต่างๆ ให้ได้ผจญโลกเพื่อที่จะได้มีภูมิคุ้มกันกับสิ่งรอบข้างได้ครับ"

นักร้องหนุ่ม บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ แห่งวง "กรู๊ฟไรเดอร์ส" เผยถึงวิธีเลี้ยงดู "น้องบูพา" หรือ ด.ช.บูรพา ลูกชายวัยขวบครึ่งว่า

"เรื่องการดูแลลูกทางเรื่องร่างกาย สุขภาพ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่เรื่องสังคมที่อยู่รอบข้างน่าเป็นห่วง เพราะเด็กสมัยนี้โตเร็วเกิน คือถ้าเป็นการเจริญโตทางกายมันก็โอเค แต่ถ้าเป็นเรื่องจิตใจ ร่าง กายเขาโตแต่จิตใจเขายังไม่โตตาม ทำให้เวลาจะรับอะไรเข้ามาเขาอาจจะไม่รู้ว่าผิดหรือถูก และสื่อต่างๆ เดี๋ยวนี้ดูแล้วมีแต่ความรุนแรง

ซึ่งผมว่าเรื่องนี้สำคัญมากที่เราต้องระมัดระวัง อย่างเวลาดูทีวีก็ต้องเลือกให้เขาดู และคิดว่าต่อไปอย่างอินเตอร์เน็ตก็ต้องบล็อกในสิ่งที่เราไม่อยากให้เขาดู แต่ก็ไม่ถึงขนาดว่าบังคับลูกว่าต้องไม่ดู แต่จะพยายามให้ความรู้และค่อยๆ พูดให้เขาเข้าใจ ซึ่งมันเป็นงานที่ยากและต้องใช้เวลา แต่ก็ต้องทำครับ"

ลูกชาย "น้องโฟน" หรือ ด.ช.จิรทีป อายุได้ขวบครึ่งแล้ว คุณพ่อวัยโจ๋ จิตรกร บุญสอน หรือ "ฟลุค ไอน้ำ" ก็เผยถึงวิธีเลี้ยงดูว่า

"ในฐานะที่เป็นพ่อคนหนึ่ง เมื่อเศรษฐ กิจตอนนี้เป็นแบบนี้ ผมว่าเราก็ต้องประ หยัดมากขึ้น เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ครอบครัวของผมก็เลยเลือกดำเนินชีวิตแบบพอเพียงครับ เพราะถ้ามีอะไรที่หนักกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เราก็ยังตั้งรับได้ทัน และผมเองก็ยังใช้วิธีนี้เลี้ยงลูกด้วย แม้ว่าตอนนี้เขาอายุแค่ขวบครึ่ง แต่ผมก็จะสอนเขาในทุกเรื่องด้วยเหตุผลตลอด ผมอยากให้เขาเติบโตไปแล้วเป็นคนที่ใช้เหตุผลในการดำเนินชีวิต ตอนนี้ก็ค่อยๆ สอนให้ซึมซับไปเรื่อยๆ ครับ"

"ตอนนี้น้องพิพยังอายุไม่ถึง 3 ขวบเลย ผมจึงไม่กังวล เท่าไร เพราะเขายังไม่เกี่ยวพันกับสังคมมาก"

"ปิ๊บ"รวิชญ์ เทิดวงส์ คุณพ่อสุดสมาร์ทของ "น้องพิพ- ด.ช.ธรณ์ธันย์" อายุ 2 ขวบ 9 เดือน เผยเมื่อถูกถามถึงวิธีการเลี้ยงลูกในสังคมปัจจุบัน จากนั้นก็แง้มว่า "แต่ในอนาคตก็คงดูแลเขาในเรื่องการศึกษาและสิ่งแวดล้อมทางสังคมเป็นสำคัญ สิ่งที่ผมกลัวคือเรื่องแรงกระตุ้นจากสิ่งเร้าต่างๆ ที่เข้าหาเด็กได้ง่าย ทำให้เขามีสมาธิในการเรียนน้อยลง ในส่วนของการเป็นแบบอย่างให้ลูก ผมเน้นเรื่องการกระทำของตัวเอง ถ้าสอนเขาอย่างเดียวแล้วเราไม่ทำ ลูกก็คงไม่ทำตาม ฉะนั้นเราต้องทำสิ่งดีๆ ให้เขาเห็นก่อนครับ"

มาถึงนักแสดงหนุ่มหน้าหวาน "จ๊อบ"นิธิ สมุทรโคจร คุณพ่อของ "น้องเคนโด้-ด.ช.ธนิก" อายุ 4 ขวบ เผยว่า

"ผมพยายามให้เวลากับลูกมากที่สุดเพื่อให้เขารู้สึกอบอุ่น อาชีพนักแสดงเรื่องเวลามันไม่แน่นอน ฉะนั้นถ้ามีเวลาผมจะยกให้ลูกหมดเลย อีกอย่างคือคุยกับเขาและฟังในสิ่งที่เขาเอ่ยบ่อยๆ อย่างเขาอยากไปไหน ถ้าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ผมก็จะพาไป"

"และด้วยสภาพบ้านเมืองที่วุ่นวาย บีบคั้น ผมว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กได้ ผมค่อนข้างห่วง แต่จะไม่เครียด พยายามใช้ชีวิตแบบสบายใจ และผมมองว่าถ้าอยากเห็นลูกเป็นยังไง เราต้องเป็นแบบนั้น ผมอยากให้ลูกเป็นคนสุภาพ มีสัมมาคารวะ ฉะนั้นเวลาผมคุยกับพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ก็จะมีหางเสียงตลอด พอลูกได้ยินผมพูดแบบนั้น เวลาเขาพูดกับผมก็จะมีหางเสียงเช่นกันครับ"

สุดท้ายกับคุณพ่อ "ดู๋"สัญญา คุณากร เผยถึงการเลี้ยงดู "น้องเอ็ม-ด.ช.สรรเพชญ์" วัย 8 ขวบว่า

"ผมมีหลัก 2 อย่างในการดูแลลูก อย่างแรก ถ้าเราอยากจะให้เขาทำอะไร เราต้องทำให้เขาเห็นเป็นตัวอย่างก่อน เช่น บอกลูกว่าลูกต้องออกกำลังกายนะ แต่เราเอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าว เขาก็ไม่ทำ ก็เลยต้องใช้วิธีทำทุกอย่างให้เขาเห็นแล้วเขาก็จะทำตาม อยากให้ลูกดี เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาดู อย่างต่อมาในความเป็นจริงทุกวันนี้เราเปลี่ยนโลกไม่ได้ ฝืนโลกไม่ได้ สักวันลูกเราก็ต้องเจอ และเราจะอยู่ปกป้องลูกไปจนตายไม่ได้ เราจึงต้องสร้างภูมิต้าน ทานให้เขา ผมจะคุยกับลูกแบบผู้ใหญ่คุยกัน จะบอกเขาว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ หาเหตุผลในการทำแต่ละอย่าง ซึ่งพอเราให้แนวคิดเขา สักวันที่เราไม่อยู่ เขาก็จะได้ดูแลตัวเองได้ครับ"

แม้แก้ไขไม่ได้ แต่ก็เลือกที่จะป้องกันได้