สายัณห์วิกฤต!ปู-เด๋อ ปล่อยโฮเลิกหวัง

'สายัณห์' วิกฤต! 'ปู-เด๋อ' ปล่อยโฮ เลิกหวัง หมอแถลงอาการหนักเป็นตายเท่ากัน เลือดออกในสมองไม่หยุดจนไปกดทับก้านสมอง บอกญาติทำใจ ชี้ตอนนี้ยื้อชีวิตด้วยเครื่องช่วยหายใจ

วันนี้ เวลา 16.00 น. ณ ห้องประชุม 209 ตึก อานันทมหิดล รศ.น.พ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้แถลงถึงความคืบหน้าอาการของ นายสายัณห์ ม่วงเจริญ (ดอกสะเดา) ว่า ตั้งแต่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้รับ นายสายัณห์ เข้ามารักษา ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2551 แล้วนั้น เริ่มแรกผู้ป่วยมาด้วยโรคไข้กาฬหลังแอ่น ซึ่งมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และผู้ป่วยยังมีภาวะแทรกซ้อนขึ้นมา ผู้ป่วยยังคงมีภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เส้นเลือดดำที่ขาขาว หากลิ่มเลือดดังกล่าวซัดไปยังอวัยวะสำคัญ เช่น ปอด สมอง ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

และเมื่อวันที่ 29 พ.ย 2551 ผู้ป่วยเกิดมีอาการชัก หมดสติ แพทย์จึงได้ส่งผู้ป่วยไปตรวจด้วยคลื่นสะท้อนสนามแม่เหล็ก (MRI) ผลการตรวจพบว่า

มีเลือดออกในสมองขนาดใหญ่ ประมาณ 4 x 2.5 ซ.ม. ที่โชคร้ายก็คืออยู่บริเวณก้านสมอง ซึ่งเป็นบริเวณที่สำคัญ เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยไม่รู้สติ ในสถานการณ์ปัจจุบัน การผ่าตัดสมองนั้น มีความเสี่ยงสูง ทำไม่ได้ เนื่องจากผู้ป่วยมีภาวะเลือดออกง่าย และบริเวณที่เลือดออกในสมองนั้น อยู่ใกล้บริเวณที่สำคัญในสมอง จึงยังไม่เหมาะสมที่จะทำการผ่าตัดในขณะนี้ ทางโรงพยาบาล จึงได้ย้ายผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. ตึก อายุรศาสตร์ ชั้น 3 เพื่อการดูแล และสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่วนทางด้าน ร.ต.ทองหล่อ ม่วงเจริญ อายุ 76 บิดา ของดาราตลก สายัณห์ ดอกสะเดา เผยกับผู้สื่อข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า

ทางญาติพี่น้อง รวมทั้งคุณพ่อ ได้ทำใจไว้แล้ว เพราะว่าสายัณห์ เค้าไปตั้งแต่วันศุกร์ และทางแพทย์ได้ทำการปั้มหัวใจขึ้นมา และตอนนี้สายัณห์ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยตลอด ซึ่งอาการทางร่างกายได้บวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า คุณพ่อยินยอมให้ถอดเครื่องช่วยหายใจหรือไม่ คุณพ่อตอบด้วยน้ำตาคลอว่า ยินยอม แล้วแต่คุณหมอเห็นสมควร

ทางด้านดาราตลก ปู-เด๋อ ดอกสะเดา ปล่อยโฮ หลังฟังคำแถลงจาก แพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งทั้งสองก็ได้เผยต่อหน้าสื่อด้วยน้ำตานองหน้า ว่า

" ใจหาย คนเราอยู่ด้วยกันมา เราก็ทำใจค่ะ และเราก็ผิดหวังในส่วนตัว ล่าสุด เรามาเยี่ยมเค้า เค้ายังโต้ตอบกับเราได้ ก็คิดว่าถ้าเค้าได้กลับบ้านไป เราจะต้องให้คนมาดูแล ถึงเวลาพามาทำกายภาพบำบัด คือเราคิดหวังไปไกลแล้วค่ะ ว่าเค้าดีขึ้นตามลำดับ แล้วอยู่ ๆ เหตุการณ์มันพลิกเยอะมาก ตอนแรกก็ยังตั้งรับไม่ทัน แต่ก็คิดว่าคนเราธรรมดาก็ต้องจากกัน แต่จริง ๆ มันเร็วเกินไป แล้วเค้าก็เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา บางคนอาจมองว่าเค้าเป็นดาวน์ซินโดรม แต่ลึก ๆ ไม่มีใครรู้ที่เค้าเป็นอย่างนี้ เค้าก็มีความเป็นห่วงเป็นใย ปูกับพี่เด๋อ เค้าจะถามเหนื่อยไหม เวลากลับถึงบ้าน ตรงนี้เป็นอะไรที่เราผูกพันกัน ถึงเค้าจะเป็นอย่างนี้ ลึก ๆ เลยที่เสียใจหนัก ๆ ก็คือ สงสารเค้ามากกว่า คืออย่างเค้าเป็นอย่างนี้ เค้าไม่สามารถบอกหมอได้ว่าปวดหัวนะ แต่คนเราทั่ว ๆ ไปปวดหัวเรายังบอกได้ แต่สำหรับเค้าเ ค้าบอกไม่เป็นไง ซึ่งที่เค้าปกติไม่เจ็บป่วย เค้าก็น่าสงสารพอแล้ว แต่พอเจ็บไข้ได้ป่วยนี่ เค้าบอกไม่เป็น คือ เค้าสื่อสารกับเราไม่ได้น่ะค่ะ"

ยังหวังอยู่ไหม เด๋อ กล่าว

" ไม่หวังแล้วครับ มันหมดหวังแล้วเรารักเค้ามาก เราอยู่กันมา 15 ปี เรา 3 คน เรามีความสุขมาก พอเรามีลูกเค้าก็แหย่เล่นกับลูกเรา เค้าเป็นคนไม่มีอะไรเลย จริงใจตลอด ผมรักเค้ามาก" เด๋อ กล่าวทิ้งท้าย