ดีเจเชาเชา-ดีเจเอ็ม ย้อนเล่าวีรกรรมสุดจี๊ดดีเจโก ที่ไม่เคยมีใครรู้!

ทั้งสองคนถือเป็นพี่ชายที่สนิทของดีเจโก?
ดีเจเชาเชา : ถือว่าเป็นพี่ที่สนิทมากที่สุด เพราะว่าตอนแรกโกมาอยู่อีเอฟเอ็มก่อน มีการประกวดหาดีเจใหม่ ตอนนั้นได้ดีเจใหม่ 3 คนด้วยกัน มีดีเจโก ดีเจบอล ดีเจป๊อบ เป็นเจนใหม่ เด็กหล่อ วัยรุ่น หน้าตาดี มีความสามารถ ผ่านการออดิชั่นมา โกก็ได้มาจัดกับพวกพี่ๆ แต่น้องๆ จัดช่วงเสาร์อาทิตย์ก่อน ส่วนใครที่จัดแล้วมีแววว่าจะไปต่อยอดตรงไหนได้ พี่เล็ก โปรดิวเซอร์ เขาก็จะมองว่าน้องคนนี้มีของมั้ยมีความสามารถมั้ย ในสามคนนี้โกเขาโดดเด่นที่สุด มีความสามารถ มีเสน่ห์ มีไหวพริบในการจัดรายการที่เก่งมากๆ และพัฒนาได้เร็วมากๆ เป็นประเภทครูพักลักจำ หรือไม่ก็พวกก็อปปี้ อย่างสวัสดีมากครับ ที่โกใช้อยู่ทุกเช้า จริงๆ ก็มาจากพี่เชา
ดีเจเจ็ม : แต่วิธีของเขาที่เขาจะเคลม คือเขาจะพูดให้บ่อยที่สุด จนพี่เชาเลิกพูดไปเอง วิธีการออดิชั่นของเอไทม์จะแปลกกว่าที่อื่น คือพี่ฉอดบอกว่าพวกเราไม่สมประกอบ ไม่ปกติ แต่ทำงานได้

แล้วเขาเหมาะกับอีเอฟเอ็มตรงไหน?
ดีเจเชาเชา : อีเอฟเอ็มเป็นคลื่นบันเทิง ดีเจ 94 อีเอฟเอ็ม จะเป็นเซเลบซะเป็นส่วนใหญ่ ทุกคนจะเป็นพิธีกรเบอร์ต้นๆ ของวงการบันเทิง จะใช้บุคลากรของอีเอฟเอ็มเยอะมาก ฉะนั้นคนที่จะอยู่อีเอฟเอ็มได้ คาแรกเตอร์ต้องชัด ต้องแกร่ง ต้องมีความสามารถ มีทางของตัวเองถึงจะอยู่ได้ น้องโกก็เป็นคนที่เขาหาเวย์ของเขาเจอ อย่างเวลาเราจัดกับดีเจโป้ง แล้วถ้าโป้งไม่มา หรือลา เขาจะถามว่าเราอยากจัดกับใคร คนแรกที่เราคิดถึงคือโก เวลาจัดด้วยกันเราเล่นมุกโกมันจะหัวเราะตลอดเวลา แล้วบอกว่าเฮีย สวัสดีมากครับผมขอได้มั้ย ผมอยากเอาไปจริงๆ

มองดีเจโกเป็นยังไง?
ดีเจเจ็ม : เขาเป็นความสุข ถ้าเกิดเรื่องเครียดๆ มา ที่บ้านด่า ทะเลาะกับเจ้านาย เราก็ปรึกษากัน โกจะเปลี่ยนเรื่องแย่ๆ ให้เป็นมุมบวก เวลาทำพิธีกรด้วยกันบนเวที ต้องมีซีนเป็นของตัวเอง ต้องเล่นมุก ถ้าเล่นไปแล้วคนไม่ฮา เราจะเขินจะอาย น้องจะเป็นตัวช้อนบนเวที การทำงานแบบพวกเราต้องเป็นเหมือนครอบครัว ต้องรู้จักรู้ใจกัน

เป็นคนเดียวที่ไม่เคยทะเลาะกับใครเลย?
ดีเจเชาเชา : ไม่เคย เป็นคนเดียวที่ไม่เคยมีปัญหากับรุ่นพี่ หรือมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ไม่เคยเอาเรื่องไม่สบายใจมาให้พี่ๆ เลย เป็นเด็กน่ารักมาก เขามีแต่ความสุข สนุกสนานอยู่ในตัว เรื่องไหนไม่แฮปปี้เขาก็ไม่เคยมาบอก เจอเขาก็จะเจอแต่เรื่องราวดีๆ และเสียงหัวเราะ
ดีเจเจ็ม : เขาจะเป็นทุกอย่างที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้น เวลาทำงานด้วยกัน บางทีมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เชื่อมั้ยคนๆ นี้ไม่เคยทำให้ผมคิดถึงเขาในแง่ร้ายเลย ถ้าสุดท้ายแล้วใครต้องเจ็บ ผมรับเองก่อน

ครั้งแรกที่เจอดีเจโก ถูกชะตา?
ดีเจเชาเชา : ตอนนั้นเขาเป็นหนุ่มคลีโอนะ ปี 54 แต่เขาบอกว่าที่เขาไม่ดังเพราะน้ำท่วมพอดี (หัวเราะ) คนจำเขาได้เพราะเป็นหนุ่มคลีโอ เทรนด์เกาหลีกำลังมา เป็นคนน่ารัก ทุกคนที่เห็นก็ถูกชะตา ว่าน้องคนนี้ต้องมีอนาคตไปได้ไกล เขามีของ แล้วสิ่งที่ทำมาจากข้างใน เป็นธรรมชาติ ถ้าน้องจัดรายการต่อไปเรื่อยๆ น้องจะเป็นอีกคนที่เป็นดีเจคุณภาพ ถูกชะตาตั้งแต่แรก
ดีเจเจ็ม : ใครได้ฟังรายการเขา หรือรู้จักเขาจะรู้สึกสนิทกับเขา เขาทลายกำแพงบางอย่าง ที่ทำให้คนเข้าถึงยาก โกเขาละลายพฤติกรรมตัวเขาเอง เวลาใครได้มาคุยกับเขา จะรู้สึกว่าเราสามารถคุยความลับกับเขาได้ มันไว้ใจได้ อารมณ์ดีทัศนคติบวก

พี่ไปทำอะไรกับพระพิฆเนศ?
ดีเจเชาเชา : วันนั้นเป็นงานอีเวนต์ที่โคราช เป็นงานที่พี่ไปกับน้องโก เป็นพิธีกรคู่กัน วันนั้นเจ็มไม่ว่าง พี่ขับรถไปกับโก รถป้ายแดง ราคาแพงเหมือนกัน ขับเลยสระบุรี เลี้ยวขวาไปสักพัก อยู่ๆ ในใจก็คิดขึ้นมาว่าตั้งแต่มีพระพิฆเนศมันไม่ค่อยดีเลย พูดโพล่งมาในรถแบบนี้ โกมันก็นั่งมองหน้า เราขับรถปกติ ไม่ได้ตามรถใหญ่ ทิ้งช่วงห่างด้วย อยู่ดีๆ มีหินก้อนเท่ากำปั้นหล่นหน้ากระจกเปรี้ยง ร้าวตั้งแต่ข้างล่างยันข้างบน โกก็มองหน้าเฮีย เอาไงดี สักพักอาจารย์เชียงโทรเข้ามาในมือถือพี่ เชาไปลบหลู่อะไรองค์พ่อ ขนลุกครับ อาจารย์รู้ได้ไงว่าผมลบหลู่อะไรองค์พ่อ อาจารย์บอกว่าให้หาธูป 16 ดอก จุดกลางแจ้งขอขมาเดี๋ยวนี้ ผมก็เลยเข้าร้านสะดวกซื้อในปั๊ม จุดธูป 16 ดอก โกก็ 16 ดอก ปักขอขมาองค์พ่อ ช่วงปักลงไปไม่ได้ดู พอปักลงไป แหงนหน้าขึ้นมา เป็นรูปปั้นดินเผาเป็นรูปช้างอยู่ตรงหน้าสองคน ตอนปักไม่เห็นนะ หลังขอขมาเสร็จ เราก็ไปทำงาน อีเวนต์ที่ทำ เป็นเหมือนไปจัดที่ตลาดใหญ่ๆ ของจังหวัด ทุกครั้งที่ไปก็จะแซว จะมีอาหารมาส่งหลังเวทีเยอะมาก เป็นสิบเป็นร้อยร้าน วันนั้นไม่มีเลยสักร้าน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เอามาให้ เป็นแม่บ้าน เป็นตุ๊กตากะลามะพร้าว เป็นรูปช้างพนมมือ เป็นอันเดียวที่ได้ พอไปพักที่โรงแรม โกก็ไปนอนอีกห้องนึงโกก็เอาตุ๊กตาช้างไปนอนด้วย จากนั้นเราก็แยกย้ายกันเข้าห้อง ประมาณตีสาม โกวิ่งมาที่ห้องผม เคาะ เฮียๆ องค์พ่อมารำที่ห้อง มารำองค์เบ้อเร่อเลย อยู่ไม่ได้ ขอนอนด้วย คืนนั้นโกอยู่กับผมทั้งคืน ตอนเช้าก็มาขอขมา ตั้งแต่นั้นมาเวลาผมไปไหว้พระพิฆเนศที่ไหน โกก็จะตามไปด้วย ก็เริ่มนับถือตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา