เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง



เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง


พระเอกเจ้าเสน่ห์ บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ ได้มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดเรื่องราวในชีวิตพร้อมแบบทุกซอกทุกมุมในใจ บทเรียนครั้งใหญ่โดนช่องปลดฟ้าผ่า

คลื่นลูกใหญ่อีกลูกหนึ่งซัดเข้ามานั่นก็คือทางช่องแจ้งมาว่าขอยุติสัญญา เรารู้อยู่แล้วไหมว่ามันจะเกิดขึ้น

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ : ผมเดามากกว่า ผมคิดแล้วว่ามันน่าจะเกิดขึ้นแน่นอนเพราะด้วยความที่กระแสข่าวมันแรงแล้วมันจะส่งผลถึงภาพลักษณ์ของตัวนักแสดงและของทางช่องด้วย ช่องไม่น่าจะเก็บผมไว้แน่นอนผมคิดอยู่แล้วว่ามันต้องเกิดขึ้น

ถึงแม้จะรู้ว่ามันน่าจะเกิดขึ้น แต่พอมันเกิดขึ้นจริงบิ๊กเอ็มรู้สึกอย่างไรตอนนั้น

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ : วันที่ช่องโทรมาขอยุติสัญญาตอนที่ผู้ใหญ่เขาพูดนะครับก็เหมือนมันพูดไม่ออกครับ เราก็ทำได้แค่ครับๆ แต่เสียงนี่สั่นแล้วนะครับ เพราะมันไม่รู้ว่าจะแก้ตัวไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเราได้แต่ครับๆ ขอบคุณครับ







เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง


ซึ่งตอนนั้นถึงแม้จะเสียใจแต่ก็เข้าใจช่องเป็นอย่างดี แล้วตอนนั้นคิดไหมไม่เป็นไรโอกาสข้างหน้าเราก็มีโอกาสอะไรที่รออยู่ หรือคิดอีกแบบหนึ่งคือหมดแล้ว อนาคตหรือสิ่งที่เราเคยทำอยู่ในวงการนี้มันจะจบแค่นี้เหรอตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ : ผมเข้าใจช่องเลยครับ แต่เหมือนเราออกจากพื้นที่ปลอดภัยเหมือนเราเดินออกจากบ้านตัวเปล่าจากที่เราอยู่ในบ้านที่มีผู้หลักผู้ใหญ่มพ่อแม่คอยดูแล แต่วันหนึ่งเราต้องออกมาใช้ชีวิตข้างนอกคนเดียวมันก็รู้สึกว่าข้างหน้าเราจะเจออะไร จะมีคนหยิบยื่นโอกาสให้กับเราหรือเปล่า เราจะสามารถมาแสดงผลงานให้แฟนๆได้ดูอีกหรือเปล่ามันจะรู้สึกกังวลมากๆเลยครับตอนนั้น

ตอนนั้นก็ยังไม่สามารถออกไปข้างนอกได้อย่างเต็มที่ ตอนนั้นความรู้สึกของเราคือ

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ : เหมือนเป็นนักโทษเลยครับ เหมือนเป็นผู้ต้องหาคนหนึ่งทางพี่ๆเขาก็แนะนำว่าอยู่นิ่งๆก่อนถ้าออกไปข้างนอกก็ต้องป้องกันตัวเองให้มากๆ แม้กระทั่งไปวัด ไปทำบุญช่วงที่ข่าวแรงๆเลยใส่หมวก ใส่แว่นนั่งอยู่ในรถใส่หน้ากากไม่อยากให้คนเห็นเราอะไรอย่างนี้ครับ


เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง


เรื่องราวที่เกิดขึ้นครั้งนี้เราได้อะไรกลับมาบ้าง

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ : สิ่งที่ได้ก็คือ บทเรียนในชีวิตแน่นอนผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะอัธยาศัยดีแล้วก็ถ้าได้รู้จักใครสักคนจะเป็นคนที่แบบไม่เผื่อใจ จะให้ใจให้ความเชื่อใจมากๆ การที่มันเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาผมก็ต้องรู้จักที่จะเลือกคบคนมากขึ้นเราจะไม่เชื่อใจใครร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องมีสติในการคบคน

เคยคิดไหมว่าพอกันทีกับวงการบันเทิง

บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ : ไม่ถึงขนาดนั้นครับ มันแค่มีแว๊บเข้ามาผมแค่คิดว่านอนหลับยาวไปเลยแล้วถ้าเราไม่ตื่นเรื่องจะจบหรือเปล่า หรือว่าเราอยากเบรกตัวเองแล้วก็ไปใช้ชีวิตกับคุณแม่ที่ต่างประเทศ สักพักหนึ่งแล้วกลับมาดีไหมแต่มันก็จะมีความคิดหนึ่งที่ดึงผมกลับมาคือกว่าผมจะมายืนตรงนี้ได้ผมผ่านอะไรมาเยอะมากๆ ผมเคยเจอเรื่องที่มันหนักกว่านี้มาก ผมก็เลยมันก็แค่เรื่องนี้เองเราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้เพราะผมคิดว่า เส้นทางในวงการบันเทิงของผมมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่เข้าวงการอยู่แล้วนะครับ การที่ผมได้มายืนตรงนี้มันเป็นโอกาสหนึ่งในล้านเราจะยอมท้อ เราจะยอมถอยเพียงแค่เรื่องเท่านี้ เพียงอุปสรรคเพียงเท่านี้เหรอ



เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง




เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง




เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง




เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง




เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง




เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง




เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง




เปิดชีวิตพระเอกดังถูกช่องปลดฟ้าผ่า เหมือนเป็นนักโทษคนหนึ่ง


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม บันเทิงดารา


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์