ดาราสาวหลั่งน้ำตาคนใกล้ตัวโกงหลักแสน ลำบากต้องยืมเงินเก็บลูกมาใช้จ่าย

หนูไปแจ้งความเป็นการลงบันทึกประจำวันกับชายหญิงคู่นึงคือ เราไปลงไว้ เพื่อให้เป็นหลักฐาน เรามีความเสียหายแบบไหนอย่างไร แล้วเงินของเรามันสูญหายไปแทนที่จะได้ทั้งเงินที่เราลงทุน และกำไรที่ทำธุรกิจค่ะ

ษารู้จักกับเขาทางธุรกิจเกี่ยวกับความสวย ความงาม เหมือนกับว่าเขาหาซีไอโอเป็นดาราประมาณ 9 คน ซึ่งษาก็อยู่ในนั้น ตอนนั้นเขาหาได้ 4 คนค่ะ ษาก็เข้าไปอยู่ พอไปอยู่เสร็จแล้ว ในเรื่องธุรกิจของเขาก็มีปัญหาภายใน เราก็เห็นว่ามีปัญหา เราก็เลยช่วยในกลุ่มทีมของเขาว่า ของษาไม่ต้องไปออกข่าว ไม่ต้องไปเปิดตัว จะได้ไม่ต้องใช้เงินเป็นแสนในการเปิดตัว เอาแสนเนี่ยมาทำการตลาดออนไลน์ดีกว่า นี่คือจุดเริ่มต้นที่ช่วยเขา พอช่วยกันไปช่วยกันมาก็เป็นจังหวะวิกฤตของบ้านเขา ของบ้าน 2 คนนี้ด้วย คุณแม่เขาป่วย เงินจะหมดบ้าง ขับรถกระบะอยู่จะโดนยึด เราก็สงสาร เราช่วยเขาอะไรได้ไหม ประกอบกับเขามายืมเงินด้วย

เริ่มจากยืมไปรักษาคุณแม่เขาทีละ 2-5 หมื่นครับ เราก็ให้ไปไม่ได้คิดอะไร คิดอย่างเดียว ต้องการซื้อชีวิตคนครับ คิดแค่นี้จริงๆครับ คิดให้แม่เขามีชีวิตที่รอดได้ คุณแม่เขาหนักจริงครับ

เอาให้แน่ชัด หนูสืบทราบมาว่า มีข้อความบางข้อความที่ออกไปข้างนอกที่ใครคนนึงเล่าออกไป แล้วข้อความนั้นมันเป็นเท็จ พอคนนี้ที่เขาเคยออกบูทกับษา เป็นเพื่อนบูทด้วย เขามาพูดให้ฟัง ษาก็ตกใจ ษาไม่ได้เป็นหลานของป้าแว่น และ ตัว 2 สามีภรรยา ตัวภรรยาเขาบอกว่า ตัวภรรยาเป็นหลานแท้ๆของป้าแว่น อันนี้ก็ไม่ใช่ค่ะ เราขอแก้ต่างตรงนี้เลยว่า ษา และเขา ไม่ใช่หล่านป้าแว่นค่ะ

ษาไปหาป้าแว่น เพราะเพื่อนขอษาจะเอาน้ำพริกออกไปลาวค่ะ แล้วน้ำพริกจะต้องมี อ.ย. ค่ะ แล้วต้องมีทุกอย่างที่จะออกไปได้ เราก็บอกภรรยาเขาว่า ช่วยหาให้หนูหน่อยว่าโรงงานไหนดีที่สุด รับOEM? ใช่ โรงงานป้าแว่นก็ขึ้นมาที่ 1 แล้วพวกเรา 4 คน เขา 2 คน เรา 2 คน ก็ไปที่โรงงานเลย แล้วก็บอกว่าหนูอยากทำOEMป้าแว่นเขาเมตตาพวกหนูมาก ป้าแว่นถามว่าอยากทำอะไร ป้าแว่นบอกว่าพวกหนูขยัน ป้าแว่นสนับสนุน ชอบคนขยัน หนูบอกว่าหนูอยากออกบูท หนูชอบน้ำพริก อยากขายน้ำพริก ป้าแว่นก็บอกหนูให้ออกบูท แล้วป้าก็สนับสนุน อยากได้น้ำพริกอะไรแบบไหนบอกได้

ใช่ค่ะ หนูเป็นคนลงทุนทั้งหมด เขาลงแรง อาทเสริมต่อว่า ทั้งหมด 219,000 บาท ครับ

เขาเอาไปขายหนูก็เอาไปขายด้วยนะ แต่เงินเขาเป็นคนถือค่ะ

บัญชีเขาค่ะ ด้วยความที่เรายังไม่ได้มีบริษัทขนาดนั้น แล้วน้ำพริกกำลังเริ่มกัน เราก็ด้วยความไว้ใจ เอาตรงนี้ด่าหนูโง่ได้ แล้วให้เขาดูแล เพียงเพื่อว่า เราจะได้ไปทำงานอื่น อันนี้หนูคิดน้อยมาก น้ำพริกขายดี ทุกคนรู้ค่ะ

วันนึงต้องมีหลักหมื่นต่อวันครับ

หนูขายมาประมาณ 4 งาน

เยอะ แต่ได้กลับมา 10,200 บาทครับ รู้ไหมครับกว่าจะได้ 10,200 บาท ษาจะต้องไปทวงต่อเนื่องหลายวันมาก จนษาบอกว่าเงินทั้งหมดตอนนี้เหลือเท่าไร เขาบอกว่า 10,200 บาท ครับ

ไม่อยู่ค่ะ

ษา: พอหนูรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว ดีที่หนูทำบัญชีกับคุณแม่ ตอนแรกให้เขาทำ แล้วมันงงมาก เขาส่งค่ะ มารายรับ รายจ่าย แต่หนูงงฯลฯ แต่คุณแม่ดูแล้วรายรับมีอยู่แสนกว่าบาท เพราะฉะนั้นในบัญชีคุณต้องเหลือแสนกว่าบาท

อาท: แต่มันพีคกว่านั้นครับ หลังจากที่เขาบริหารน้ำพริกเราไปแล้วระยะหนึ่ง วันนึงเขาเดินมาหาผม เขาบอกว่าภรรยาเขาเอาเงินคุณอาท กับคุณษาไปใช้หมดแล้วนะครับ เอาไปใช้จ่ายส่วนตัว ผมอึ้งจนพูดไม่ออก เราไม่กล้าบอกษาเลยวันนั้น ว่าเงินเราไม่เหลือแล้วนะ เลยบอกษาว่าให้เขาไปดูบัญชีดูรายรับ รายจ่าย เพื่อให้เขาค่อยๆรู้

ตรงนี้ผมงงมากครับอาจารย์ มีคนรู้จักอาทแล้วเขาตกใจ แต่ก็คิดว่ามันจริงหรือเปล่า เลยเดินมาบอกเราว่า อาทเอารถมิตซูไปชน แล้วให้ผัวเมียคู่นี้ใช้ แล้วเขาต้องมานั่งรับผิดชอบแทนผมจริงหรือเปล่า ผมก็ตกใจ มีแต่เขาเอารถผมไปชนยับ แล้วผมให้เขาเอาไปซ่อมครับ แต่ผมเป็นคนจ่าย เหมือนถอยชนไม่มีคู่กรณี ผมมีหลักฐานหมดครับ

ถ้าเกิดความเสียหายทั้งหมด เลขอยู่ประมาณ 6 แสนครับ รวมทั้งหมดแล้ว

คือเป็นเรื่องที่ว่า เราได้บอกทางเจ้าหน้าที่เรื่องราวทั้งหมด เราเสียหายอะไรบ้าง แต่เรายังไม่ได้แจ้งเรื่องรถเลย แต่เราบอกกับทางตำรวจว่า เรามีอะไรเสียหายบ้างแค่นั้นครับ ที่แจ้งในกรณียักยอกค่าน้ำพริกอย่างเดียวครับ เรื่องรถผมยังกั๊กอยู่ อยากให้โอกาสเขา เขาแค่เอารถมาจอดคืนเราครับ เราก็ไม่แจ้งดำเนินคดีเขาแล้วครับ ตอนนี้รถก็อยู่ที่เขา ไม่ยอมคืน

อาท:เราช่วยเขาไม่จริง สิ่งที่เกิดทั้งหมด เรา 2 คนโกหกทุกคน เขาบอกว่าเรากลั่นแกล้งเขาเรามาออกรายการอย่างนี้ ทำให้เขาไม่มีที่ยืน ทำอะไรก็ลำบาก และเรา 2 คน ไปปลดเขาออกจากการขายน้ำพริก ทั้งๆที่เขายังไม่ผิดอะไร

ษา: เขาบอกทุกคนว่า เขาไม่รู้ว่าษาโกรธเขาเรื่องอะไร เขาผิดอะไร

อาท: เราจะต้องเสียเพื่อนคนอื่นๆมาด้วย โดยที่เพื่อนคนอื่นเขายังไม่ได้ถามอะไรเรา โดยที่ไม่รู้ว่าความจริงแล้ว เรื่องราวเป็นอย่างไร เราไปกลั่นแกล้งเขาจริงหรือเปล่า เราไปทำอะไร 2 ผัวเมียนี้ คนรอบๆข้างผมไม่มีใครมาถามผม แต่เขาเลือกที่จะเชื่อ 2 ผัวเมียนี้ที่ไปพูด จนคนรอบข้างเกลียดเรา คิดจะช่วย 2 ผัวเมียนี้ คิดว่าถูกเรารังแก

ษา: หนูอึดอัดใจ หลายอย่างที่หนูอยากจะพูด หนูอยากจะพูดให้หมดเลยว่ามันเลวอย่างไร ทำกับเราอย่างไร มันพูดอะไรมาบ้าง

จริงๆ คุณออกมาพูดเถอะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเราแค่ 4 คน พอเกิดปัญหา คุณเอาคนอื่นๆมาร่วมวงกับเราทั้งหมด คนอื่นๆไม่ได้ยืมเงิน หรือเอาเงินที่พวกคุณเอาของพวกเราไปให้พวกเขาใช้ด้วย เขาถึงต้องมาเกี่ยวด้วย ไม่ต้องค่ะ คุณแค่เดินมาคุยกับเราว่า คุณจะเอาอย่างไร อย่างน้อยคุณจะต้องสำเหนียกในเรื่องที่เราช่วยคุณเอาไว้ คุณรู้ว่าเราทำอะไรให้คุณบ้าง คุณอย่าคิดว่าเราจะทวงบุญคุณคุณ เราไม่ทวงหรอก ในเมื่อถ้าคุณไปพูดได้ว่าเราคือ ผู้มีพระคุณ คนที่เขารู้ว่าคนนี้เป็นผู้มีพระคุณ เขาจะไม่พูดออกไปแบบไม่ดีกับผู้มีพระคุณค่ะ เพราะถ้าคุณพูดออกไปแบบนี้คือคุณเนรคุณค่ะ

สุดท้ายในรายการ ษาเปิดใจพร้อมน้ำตาอีกว่า "หนูต้องเดินไปหาลูก ขอเงินลูก เงินที่หนูเก็บเงินให้เขาไว้เรียนมหาวิทยาลัย เพราะว่า 4 ปี ต้องใช้เงินประมาณ 4-5 แสน ในเรื่องของโปรแกรมเมอร์ที่เขาต้องเรียน หนูเดินเข้าไปยืมเงิน แล้วบอกลูกว่าแม่ขอยืมเงินก่อน 2 แสน เพื่อจะมาต่องานต่อไป"