คู่รักบันเทิงกว่าจะแต่งไม่ง่าย คบกันตอนแรกต้องปิดเป็นความลับเพราะ?

ตู่ นพพล : มีนะครับ ตอนนั้นชวนเข้าไปทานที่โอเรียนเต็ล
นุช ปรียานุช : คือ 24 ธันวาคม เขาจะต้องพาไปทานไก่งวงเพราะเป็น Christmas Eve

บางเวลาไม่ได้เจอกันจะมีแอบน้อยใจสักนิดไหมเอ่ยว่าทำไมเรามีเวลาให้กันน้อยจัง
นุช ปรียานุช : น้อยใจไม่น้อยใจค่ะ แต่เวลาข่าวออกมา พี่ตู่ไปให้สัมภาษณ์ว่าไม่รู้จักกันอะไรอย่างนั้นเราจะรู้สึกเครียดเราจะมองหน้ากันอย่างไรดี

แล้วเรามีความหวั่นไหวไหมหรือว่าเขาอาจจะไม่อะไรกับเราจริงๆ แล้วที่เขาไม่เปิดเผยเราเพราะว่าเขาคบกับใครอยู่หรือเปล่า
นุช ปรียานุช : คิดค่ะ คิดตลอดเวลาไม่มีวันที่ไม่คิดเพราะว่าคนอย่างพี่คือคนที่คิดมาก
ตู่ นพพล : คิดเยอะแล้วก็จำเยอะ (หัวเราะ)

นุช ปรียานุช : คือเราเป็นคนแบบนี้พอแบบคิดนะคะ จะทุกข์แบบสุดเหวี่ยงเข้าโรงพยาบาลเลยเพราะว่าเราคิดเยอะนอนไม่หลับคิดเยอะแต่พอออกมาก็หาย พอเขาทำอีกก็เป็นอีกอย่างนี้ค่ะ เขาเรียกว่าไม่เข็ดค่ะ

นุช ปรียานุช : ก็ 7 ปีค่ะ คือไม่พูด ไม่ถาม ไม่ตาม ไม่โทรเพราะว่าไม่รู้จะพูดทำไมเพราะเขาไม่พูด ไม่ถามเพราะว่าถามไปเขาก็ไม่ตอบ ไม่ตามเพราะไม่รู้ว่าจะไปตามที่ไหน ไม่โทรเพราะว่าโทรไปเขาก็ไม่รับ (หัวเราะ)

แล้ว พี่ตู่ รู้ไหมว่าสร้างความทรมานให้กับ พี่นุช เขาขนาดนี้
ตู่ นพพล : ไม่รู้เลยครับ เพราะว่าช่วงนั้นบ้างานทำงานหนักมากแล้วก็จะอยู่แต่ต่างจังหวัด

ในใจเรามีเขาไหม
ตู่ นพพล : มีเพียงแต่ว่าไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องโทรหาเพราะว่าสมัยนั้นโทรยากด้วยครับ การติดต่อสื่อสารไม่ค่อยเหมือนสมัยนี้

ไม่กลัวเหรอว่าเราละเลยเขาแล้วเรากลับมาอีกครั้งเขาไปกับคนอื่นแล้ว
ตู่ นพพล : ก็ไม่เป็นไรถ้าเขาตัดสินใจอย่างนั้นก็เป็นเรื่องของเขา

แล้วที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนั้น
ตู่ นพพล : เปิดบริษัทเป่า จิน จง วันนั้นที่แจ้งต่อหน้าสื่อไปคือเราก็ไม่ได้ปรึกษาเขาไว้ก่อนเลยว่าเราจะเปิดตัวเขา เพราะเราอยากจะเปิดเราก็เลย เพราะเป็นบริษัทที่เราทำด้วยกัน

นุช ปรียานุช : ในวันที่เราเปิดบริษัทเราก็เป็นแม่บ้านถูออฟฟิศ ถูโน้นนี่จัดให้เรียบร้อย แล้วพนักงานคนหนึ่งถามเราว่าเราเดินออกไปเราต้องทำเหมือนไม่รู้จักเขาหรือเปล่า (หัวเราะ) คือทุกคนที่อยู่กับเราก็รู้หมดแล้วพี่ตู่ไม่เปิดเผยไม่พูดนุชก็จะเป็นนางทาสนะเก็บกวาดขยะ แล้วพอเดินลงมานักข่าวเขาก็บอกเราว่า พี่นุช พี่ตู่เขาบอกแล้วนะว่าเป็นแฟนกัน (ถามว่ารู้สึกอย่างไร) รู้สึกว่าถอนหายใจจำได้เลยวันนั้นบอกว่า บอกแล้วเหรอ เหรอ (เราก็ยิ้มๆกับเขา) แล้วพี่ตู่เขาก็พาเรามานั่งคุย

ตู่ นพพล : ก็ตั้งใจไว้แล้วเพราะว่าการเปิดบริษัทนี่เหมือนกับบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าตอนนี้เราร่วมงานกันแล้วนะ อยู่ด้วยกันแล้วนะแล้วก็คิดว่าเป็นวันที่นักข่าวมาเยอะที่สุด ผู้ใหญ่ก็อยู่ของทั้ง 2 ฝ่ายนอกจากแม่เขาไม่ได้มาและผู้ใหญ่ในวงการมันก็เหมาะสมในวันนั้นควรที่จะเปิดเผย

การมาเรียนรู้กันคบกันต้องปรับตัวอย่างไรบ้างไหมเอ่ย
นุช ปรียานุช : คือสำหรับตัวเราไม่เคยปรับค่ะ เพราะว่าคือตั้งใจให้เขาเห็นว่าเราเป็นอย่างไรตั้งแต่แรกแต่พี่เขาคงต้องปรับเพราะว่าพี่ตู่เป็นคนเข้ายากมากนะ หมายถึงว่าเป็นคนที่น่าจะอยู่กับใครยาก(หัวเราะ) ขมๆนะคะ เราคิดว่าเขาเป็นคนหายากคือเป็นหนึ่งในล้านความยากนะไม่ใช่หนึ่งในล้านความดีนะ เช่นถามอะไรก็ไม่ตอบแล้วบางที จะเอาอะไรจากเราก็ไม่พูดแต่เราก็ถูกทุกครั้งอะนะคะที่เดาใจเขาเพราะฉะนั้นพี่ตู่คงต้องปรับหน่อยแต่ว่านุชเป็นคนที่ตั้งรับแล้วไงคือรักคนนี้ แต่สิ่งที่ตั้งรับไม่ใช่ว่าดีหรือไม่ดีนะเป็นสิ่งที่เรารักเขาแล้วเราเป็นคนเลือกนะเราเลือกเขามาแล้วเราต้องรับผิดชอบตั้งแต่หัวจรดเท้า

ขนาดที่แบบว่าพูดอะไรก็ไม่พูดทางโน้นรู้สึกอย่างไรบ้างทางนี้พูดทั้งวันไหมเอ่ย
ตู่ นพพล : ทั้งวันครับ ไม่ต้องห่วงนางงามทุกคนพูดเก่งมากทุกคนพูดไม่หยุด

พี่ตู่ เป็นคนถามแล้วไม่ตอบจริงๆเหรอ
ตู่ นพพล : บางเรื่องถ้าไม่รู้ก็ไม่ตอบครับ บางครั้งก็ตอบว่าไม่รู้ แต่เขาก็จะถามเราอยู่แบบนั้นแหละซึ่งเราก็ไม่รู้จริงๆ

ตู่ นพพล : มีเรื่องงานในห้องตัดคือตีกันยับเลย

แล้วเรื่องปัญหาระหว่างสองคนทะเลาะกันแรงๆมีไหมเอ่ย
ตู่ นพพล : น้อยมากเพราะว่านอกจากเรื่องงานแล้วไม่มีอะไรที่จะต้องตีกัน

แต่มีอันหนึ่งน่าสนใจตรงที่เคยทะเลาะกันแรงๆแต่ละคนก็จะมีทางของตัวเองที่เช่น พี่ตู่ จะรู้สึกว่าพี่นุช ทะเลาะคนเดียวก็ทะเลาะไปเถอะถ้าเราไม่ทะเลาะด้วยเดี๋ยวก็จบ ส่วนพี่นุช ก็เป็นคนอารมณ์ร้อนแต่พี่ตู่ก็บังเอิญไม่ยอมให้เราอารมณ์ร้อนมากขึ้นไปกว่านั้นคือถ้าเราอารมณ์ร้อนเราจะได้ยินแต่เสียงตัวเองแบบนี้ใช่ไหมเอ่ย
นุช ปรียานุช : (หัวเราะ)
ตู่ นพพล : น่าจะเป็นแบบนั้นจนเขาเองเขารำคาญตัวเองแล้วก็หยุดไป

แต่ไม่มีทางสามารถทำให้ พี่ตู่ กลับอารมณ์ร้อนแข่งกัน
ตู่ นพพล : บางครั้งก็อาจจะมีแต่เราก็พยายามดึงตัวเองไว้เพราะในห้องตัดก็มีเขวี้ยงบทให้เอาไปทำเองไหม

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่