เสาร์นี้เราได้คิวหนุ่มเนื้อหอม “พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์” ที่รอคิวหนุ่มคนนี้มานานกว่าจะได้พูดคุย ซึ่งเมื่อได้จังหวะเหมาะแล้ว เราจึงไม่ช้ารีบสอบถามถึงความเป็นมาของหนุ่ม พอล กว่าจะมาเป็นพระเอกในดวงใจของสาวๆหลายคน ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งทั้งหมดนี้ พอล เปิดใจกับเราว่า..... “การทำงานของผม ถ้านับละคร ปริศนา คือเรื่องแรกนั่นก็ประมาณ 7 ปีครับ แต่ ถ้าก่อนหน้านั้นเป็นดีเจ และพิธีกรสัก 2 -3 ปี จริง ๆ เริ่มทำงานวงการบันเทิงตอนอยู่มหาลัย เบ็ดเสร็จทำงานมา 8-9 ปีครับ โดยภาพรวมถือว่าผมโชคดีมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับคนเก่ง และคนดี และผู้ใหญ่ก็ให้โอกาส และได้ร่วมงานกับนางเอกฝีมือดีมีคุณภาพมากมาย มันก็นำไปสู่การที่เราได้เอาชื่อเสียงไปทำประโยชน์อื่นๆต่อยอดได้ เช่น เราไปช่วยเด็กกำพร้า ไปช่วยการกุศล อื่นๆอีกมากมาย เป็นพรีเซ็นเตอร์สภากาชาติบ้าง เป็นพรีเซ็นเตอร์มูลนิธิต่างๆ ก็ถือว่าโดยรวมแล้ววงการบันเทิงก็ให้อะไรผมมากมาย ก็ถือว่าให้ชีวิตผมเหมือนกัน”
ถึงวันนี้คิดถึงอาชีพดีเจ อยู่ไหม ?
“ เคยคิดอยู่เหมือนกันที่จะกลับไปเป็นดีเจ ไม่แน่โตขึ้นอาจจะกลับไปเป็นอีกก็ได้ ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน คือตอนนั้นที่เลิกไปเพราะว่ารู้สึกอิ่มตัว แล้วคิดว่าตัวเองทำได้ดีไม่พอ ไม่พัฒนา ทำได้อยู่ 3-4 ปีแล้วก็หยุด และมาลองใหม่มาเล่นละคร ทุกวันนี้ก็คิดถึงอยู่คิดถึงเพื่อน คิดถึงรุ่นพี่ที่จัดรายการ อาจจะจัดสนุกได้ แต่ถ้าจัดจริงจังก็คงต้องใช่เวลาเหมือนกันเพราะทุกวันนี้พวกเทคโนโลยีมันเปลี่ยนเมื่อก่อนใส่แผ่นดิสก์เลือกเพลงแล้วกดจิ้มๆเอา แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นคอมพิวเตอร์หมด ทัชสกรีนลากๆเอายาก และคงต้องไปเรียนรู้กันอีกเยอะ คิดว่าในระยะนี้คงไม่ โตขึ้นไปอีกไม่แน่”
ขอถามถึงความรักบ้าง มุมมองความรักเป็นยัง ?
“มุมมองความรักผมคิดว่า ความรักก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิต พอคนมีความรักมันจะทำให้โลกสดใสขึ้น แต่ว่าความรักก็มีหลายรูปแบบ รักเพื่อน รักครอบครัว คือไม่จำเป็นที่ต้องมาในรูปแบบแฟนกันเท่านั้น และไม่จะเป็นจะต้องมีคู่ มีคนรู้ใจตลอดเวลา คือคนเราจะต้องมีช่วงที่ไม่มีความรัก อยู่กับตัวเองบ้าง อยู่เป็นโสดบ้าง ต้องมีชีวิตมีโลกส่วนตัวบ้าง”
ที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไร เพราะอะไร ?
“ กับความรัก 2 ครั้งที่ผ่านมา ผมมองว่าเรื่องของคนสองคนก็คือการปรบมือมัน ต้องสองมือตบ มันไม่มีใครสมบูรณ์แบบด้วยมั่งผมว่านะ มาจากฝ่ายละนิดละหน่อย แต่อันนั้นผมว่ามันก็ไม่สำคัญ จริงๆแล้วผมว่าสิ่งที่เราควรเรียนรู้จากมันคือ อะไรที่เราควรระวังหรืออะไรที่เราควรไม่ทำอีก ที่จริงแล้วเราควรจะเก็บอย่าไปมองสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี ผมให้ความสำคัญกับความรักพอสมควรนะครับ คือการมีความรักกับการมีคนรักไม่เหมือนกันนะ คือจริงๆก็อยากมีคนที่รู้ใจคนที่เรารักแล้วเขารักเรา แต่จริงๆแล้วที่ผมว่ามากกว่านั้นคือคนที่เข้าใจกัน ถ้าเขารักเราเขาต้องเป็นเพื่อนเราได้ด้วย เวลาเรามีปัญหา มีความสุขเราก็อยากวิ่งไปหาเขา”
พอล เป็นเจ้าชู้ ไหม ?
“ผมไม่คิดเลยว่าตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ ไม่เลย คือถ้าคบใครจริงจังและคบเป็นแฟนก็จะไม่มองคนอื่น แต่ว่าเวลาเป็นโสดก็อีกเรื่องนึงนะ อย่างตอนนี้ก็เป็นหนุ่มโสด แล้วก็ไม่มีใคร การที่จะคุยหรือมองผู้หญิงคนไหนเป็นเรื่องที่เราทำได้ไม่ผิด ตราบใดที่เราไม่ได้ไปล่วงเกินอะไรเขา ”
https://www.facebook.com/teeneedotcom