?แด๊ก? พ้นมลทิน ดีเอ็นเอชี้ ?จัสติน? ไม่ใช่ลูก

แด๊ก พ้นมลทิน ดีเอ็นเอชี้ จัสติน ไม่ใช่ลูก

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2549 12:10 น.

บทสรุปของนิติวิทยาศาสตร์ ที่ หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เป็นผู้ตรวจดีเอ็นเอให้กับ แด๊ก-ฝ้าย-น้องจัสติน ผลออกมาไม่ใช่ลูกแด๊กแน่นอนเพราะดีเอ็นเอไม่ตรงกันทุกจุด ด้านหมอพรทิพย์ลั่นเตรียมช่วยเหลือหาพ่อให้น้องจัสติน ยืนยันฝ้ายไม่มีเจตนาทำร้ายใครเพียงแต่ต้องการหาพ่อให้ลูกเท่านั้น

เมื่อ 11.00น. วันนี้ (19 พ.ค.) ที่ผ่านที่สถาบันิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ สื่อมวลชนทุกแขนงไปรอการแถลงข่าวผลตรวจดีเอ็นเอของแด๊กอย่างคับคั่ง ทั้งนี้หมอพรทิพย์และแด๊ก เอกรัตน์ วงศ์ฉลาดร่วมแถลงข่าวโดยไร้เงาน้องฝ้าย สุวรรณรี ไชยมงคล หมอพรทิพย์ยันน้องจัสตินไม่ใช่ลูกแด๊กแน่นอน เนื่องจากดีเอ็นเอไม่ตรงกันทุกจุดเหมือนกับผลตรวจของนิติเวช ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ออกมาก่อนหน้านี้

เป็นความต้องการของทางแกรมมี่ที่อยากให้ช่วยแถลง ซึ่งผลออกมาทั้งทางของรามาธิบดีและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกมาตรงกัน ก็คือน้องจัสตินไม่ใช่ลูกแด๊ก 100% ผลออกมาว่าไม่ตรงกัน 7 ตำแหน่ง จากทั้งหมด 16 ตำแหน่ง ในหลักของดีเอ็นเอก็คือมนุษย์ทุกคนจะมีดีเอ็นเอมาจากพ่อครึ่งนึงแม่ครึ่งนึง เพราะฉะนั้นดีเอ็นเอของจัสตินตรงกับแม่เค้าครึ่งนึงแล้ว อีกครึ่งนึงถ้าผู้ชายคนนี้เป็นพ่อจะต้องตรงทั้งหมด แต่ผลออกมาแล้วว่าสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ซึ่งผลเราแจ้งทั้งสองฝั่งทราบหมดแล้ว แต่ในส่วนของน้องฝ้ายขออนุญาตไม่พาดพิงเพราะเราดูแลน้องเค้าอยู่

บทสรุปในเรื่องของคดีคงไม่ใช่หน้าที่ของสถาบัน แต่ที่เราออกมาดำเนินการให้ก็เพื่อต้องการหาว่าใครคือพ่อในเชิงของดีเอ็นเอ ส่วนเรื่องที่สองอยากจะเรียนฝากสื่อไปยังสังคมว่า ความจริงกรณีนี้น้องฝ้ายเค้าเริ่มต้นด้วยการกระบวนการที่เค้าไม่ได้ต้องการกฎหมาย น้องฝ้ายต้องการหาพ่อ แต่เมื่อกระบวนการมันถูกดึงไปในทางกฎหมาย และมีอะไรหลายๆ อย่างที่เค้าอาจจะไม่ได้รับคำแนะนำครบถ้วน ก็เลยทำให้ทั้งคู่ตกเป็นเหยื่อของสิ่งที่เกิดขึ้น ก็อยากฝากไปยังทุกคนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เราต้องการหาพ่อ ซึ่งทางนิติวิทยาศาสตร์เรายินดีให้คำแนะนำก่อนเพื่อที่จะได้ไม่มีฝ่ายใดต้องเจ็บปวด ให้มันอยู่ในระบบที่มันถูกต้องมากกว่า

ถึงวันนี้คิดว่าน่าจะพอสักทีนึงกับการใช้กระบวนการยุติธรรมในการแก้ปัญหาในบางครั้ง อีกเรื่องนึงคือไม่อยากให้ใช้สื่อเป็นตัวที่ทำให้มันเกิดเรื่องราวที่วุ่นวายมากมาย หมอทราบดีว่าสื่อมีบทบาทสำคัญแต่ในบางครั้งมันเสียไปแล้วมันคืนไม่ได้ อยากเรียนทุกคนว่าอย่าตามน้องเค้าเลย แค่นี้ต่างคนต่างก็เจ็บปวดมากแล้ว แต่การแถลงครั้งนี้เป็นสิทธิของทั้งสองฝั่ง ซึ่งน้องฝ้ายเองไม่ต้องการปรากฏตัว

ขออนุญาตเล่าบางสิ่งบางอย่างหลังจากที่เราได้เข้ามาช่วยในกรณีนี้ ฝ้ายได้เล่าอย่างชัดเจนว่าในเบื้องต้นทางแด๊กแสดงเจตนาดีว่าจะช่วยเหลืออะไรบ้าง แต่มันมีกระบวนการบางอย่างที่ทำให้มันเคลื่อนต่อไม่ได้ ตรงนี้มันทำให้เราอยากแถลงผ่านสื่อขอร้องว่า เรื่องราวเหล่านี้อยากให้หาผู้ที่จริงใจที่จะช่วยเหลือจริงๆ มากกว่าที่จะมุ่งในส่วนของกระบวนการยุติธรรมอย่างเดียว เพราะฝ้ายเค้าบอกชัดเจนว่าต้องการหาพ่อเพื่อที่จะให้มาช่วยเลี้ยงดู ซึ่งตรงนี้เรารับไปดำเนินการดูแลให้อยู่

ปัญหาต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นคงเป็นเพราะการเข้าถึงข้อมูลไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ซึ่งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมากกว่าก็คือน้องฝ้าย เพราะฉะนั้นการที่น้องฝ้ายไม่ได้รับความกระจ่างมันก็เลยเกิดความคลางแคลงใจ ทั้งหมดทั้งปวงคงเป็นบทเรียนของทุกหน่วยงานว่า ต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เพราะว่ามันไม่ควรแถลงผ่านสื่อ ผลดีเอ็นเอต้องแจ้งเจ้าตัวและเชิญมาคุยกัน การแถลงผ่านสื่อเราถือเป็นการละเมิดอย่างยิ่ง แต่ในวันนี้ที่หมอมาคุยเป็นเพราะทางแกรมมี่ต้องการให้มาช่วยอธิบายในเชิงเทคนิค ครั้งนี้อยากให้เป็นอุทธาหรณ์ว่าระบบสังคมน่าจะเปลี่ยนได้แล้ว ที่จะต้องมีที่พึ่งสำหรับเด็กน้อยหรือหญิงที่ต้องการหาความจริงก่อนที่จะถึงมือตำรวจ จะได้รวบรวมหลักฐานที่ถูกต้อง

ด้านนักร้องดังเองก็ได้เผยถึงความรู้สึกหลังพ้นมลทินด้วยสีหน้าที่แจ่มใสว่า.......
อย่างที่ผมบอกตั้งแต่ทีแรก การที่ผมออกมาตรวจดีเอ็นเอก็เพราะเพื่อความสบายใจของคนส่วนมากมากกว่า เพราะตัวผมเองก็ทราบอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นไปในแนวทางนี้ จริงๆ มันก็ไม่ใช่สบายใจแต่พอมันรู้ว่าอะไรเป็นอะไรผมก็รู้สึกดีประมาณนึงเท่านั้นเอง

ยังยืนยันที่จะช่วยเหลือฝ้ายอยู่มั้ย?
เรื่องการช่วยเหลือผมก็ยืนยันจะช่วยอยู่เหมือนเดิม แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับฝ้ายว่าเค้าอยากให้ช่วยหรือเปล่า

ต่อคำถามที่ว่าถึงวันนี้รู้สึกยังไงกับฝ่ายหญิง เจ้าตัวบอกว่า......
เรื่องที่เกิดขึ้น....ผมเป็นคนที่ทุกคนรู้จัก เวลามีเหตุการณ์อะไรสังคมก็ย่อมอยากรู้ แต่เราก็ไม่อยากให้มันเป็นไปในทางแบบนั้นหรอกครับ ซึ่งตอนนี้ก็รู้สึกเองได้ในหัวใจของตัวเองแล้วว่าไม่น่าจะเดินมาในทางนี้เลย ซึ่งครั้งนี้ก็ทำให้ผมใช้ชีวิตอย่างรอบคอบมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เราต้องเรียนรู้มัน

ส่วนเรื่องของคดีความก็คงเป็นไปตามกระบวนการ เมื่อวานเพิ่งส่งสำนวนไปถึงอัยการตอนนี้เลยยังไม่ค่อยคืบหน้าอะไร เรื่องกฎหมายผมไม่ทราบรายละเอียดเลยว่าขั้นตอนเป็นยังไง

อยากขอบคุณแฟนคลับ บางคนไม่เคยเจอหน้าก็ยังส่งกำลังใจมาตลอด ก็ดีครับถือเป็นประสบการณ์อีกรูปแบบนึงให้กับชีวิต แม้ว่าจะโดนเค้าด่าบ้าง มีคนเห็นใจบ้าง ผมเก็บทุกความคิดเห็นไว้กับตัวเองอยู่แล้วครับ