นางเอกยิ้มสวยไม่โสดแล้วซุ่มคบหนุ่มนอกวงการ ตอบชัดสาเหตุไม่เปิดตัว
ชีวิตแฮปปี้ทั้งเรื่องงาน และเรื่องหัวใจ มิน พีชญา ที่วันนี้ได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 เผยครั้งแรกกับเส้นทางความรักหนุ่มนอกวงการร่วม 2 ปี เล่าโมเม้นต์จากเพื่อนกลายมาเป็นคนรู้ใจ
เส้นทางความรักปัจจุบัน มีเวลาให้ความรักด้วย ?
มิน : มันก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งในชีวิต
หนุ่มข้างกายคนนี้รู้จักกันมานานหรือยัง ?
มิน : ที่เห็นเป็นข่าวอยู่จะบอกว่ารู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่ได้ปิด เป็นเพื่อนกันมานานแล้ว
จากความเป็นเพื่อนเปลี่ยนเป็นความรักได้อย่างไร ?
มิน : มินใช้คำว่าค่อยๆดีกว่า ไม่มีใครจีบใครเลย อยู่มาวันหนึ่งเราก็ไม่รู้ยังไงเหมือนกัน ตอนข้ามเฟรนด์โซนนี่เป็นอะไรที่สับสนมาก สับสนกันทั้งคู่ ต้องคิดภาพก่อนว่าคนเป็นเพื่อนกันแล้วซัพพอร์ตกันมาตลอด แล้วอยู่มาวันหนึ่งเราจะทำลายความสัมพันธ์นี้ สมมติถ้ามันข้ามแล้วมันแป้ก ความสัมพันธ์จบเลย มันมองหน้ากันไม่ได้ มันมายังไงก็ไม่รู้มันมาช้ามาก เช็คกันไปมาว่ามันมากกว่าเพื่อนแล้วหรือยัง
มิน : รู้ตลอด อยู่ในงานวันเกิดมินเกือบทุกปี
ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเลย เพื่อน ?
มิน : ไม่ได้คิดอะไรเลย เพื่อน
10 ปีที่แล้วเขามีสนใจเราอยู่บ้างหรอ ?
มิน : คิดว่าเขาชื่นชมมาโดยตลอด อย่างเราเป็นสไตล์เพื่อนเราก็จะบริสุทธิ์ใจตลอด เขาก็รู้จักนิสัยมินจริงๆ รู้ทั้งข้อดีและมุมที่เรากำลังเติบโต คือเราในวันนั้นกับเราในวันนี้คนละคนเลย คือเราก็โตขึ้น
เราในวันนั้นเป็นยังไงเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่รู้ว่าเขาจีบแต่เราไม่เลือกเขา ?
มิน : เราก็มีแฟน เขาก็อยู่เคียงข้างตลอด แต่ก่อนเป็นคนไม่ค่อยคิดอะไร ด้วยความเป็นคนไม่จุกจิกไม่คิดอะไรเยอะ พอเราโตขึ้นเรื่องความรักเราเย็นมากคือเราไม่รีบ เหมือนเราหาคนที่จะใช้ชีวิตคู่แล้ว ที่ตอบโจทย์เราจริงๆ
แล้วคนนี้เขาตอบโจทย์เรายังไง ทำไมจาก 10 ปีที่แล้วไม่ใช่ ทำไมวันนี้ใช่ ?
มิน : คือเนื่องจากเขาไม่เคยจีบเรา ไม่เคยมีปฎิกิริยาที่จีบ
แล้ววันนี้เขาเปลี่ยนไปยังไงเราถึงรู้สึกว่าใช่ ?
มิน : ช่วงที่ข้ามเฟรนด์โซนอันนี้มินเล่าไม่ถูกจริงๆ มันเป็นอะไรที่ยากมากมันมีดีเทลแล้วมินลืมไปหมดแล้ว มันจะมีเช่นแบบว่าแหย่คำถามกันว่าทำไมยังไม่มีแฟน
ตอนนั้นที่ถามอยากได้คำตอบว่าอะไร ?
มิน : คือเขาสุภาพมากแล้วเป็นคนซัพพอร์ต อบอุ่น เราก็แบบสรุปเขาแค่อบอุ่นกับเราแล้วซัพพอร์ตเราในฐานะเพื่อนหรือว่ามากกว่านั้น หลังๆเราเริ่มคิด
อะไรทำให้เริ่มคิด เพราะถ้าเป็นเพื่อนจะไม่มีประโยคนี้ในหัวเลย ?
มิน : มันไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย เราคุยโทรศัพท์กันแล้วไม่เจอหน้ากันเลยนะ อยู่คนละจังหวัดด้วยบางทีเขาก็อยู่ต่างประเทศ มันไม่ใช่ฟีลที่ไปเดทกันมันเป็นเพื่อนกันมาตลอด เป็นเพื่อนกันมานานเกินไป ไม่ได้คิดอะไรหรือข้ามเส้นกว่านั้นต่างตนต่างก็มีคนอื่นอยู่ ช่วงนั้นที่มินบอกว่าโสดน้ำหนักเหลือ 39 ผอมซุบ พอมินลุกขึ้นยืนได้ก็เริ่มดูแลตัวเองเล่นกับเพื่อนเยอะขึ้น ช่วงโควิดเจอเพื่อนไม่ได้ก็ต้องโทรคุยกัน มันจะมีลิสต์เพื่อนที่จะโทรหาเพราะเราไม่อยากอยู่คนเดียว
คนนี้ต้องโทรคุยทุกวันไหม ?
มิน : ไม่ๆ คนนี้ไม่ได้โทรคุยทุกวันก็จะมีเพื่อนผู้หญิงสลับกันไป
ณ วันนั้นเขาโทรหาเราหรือเราโทรหาเขา
มิน : เขาโทรหาเราเป็นเรื่องที่เราจะสั่งสินค้าของเขา
มิน : ตอนหลังอ่ะมี ตอนที่ข่าวเริ่มเล่น นักข่าวก็คือพ่อสื่อแม่ชักให้เหมือนกัน จ่อไมค์สัมภาษณ์ไปมาก็เหมือนผสมขึ้นไปเรื่อยๆ
จุดไหนที่เราตัดสินใจคบกับคนคนนี้ในปัจจุบัน
มิน : ความสบายใจ มินว่าพอเราเติบโตขึ้นเรื่องความรัก เราไม่ได้นั่งตามเอาใจใครเหมือนตอนที่เราเด็กๆ ต้องถูกใจเขา เขาอยากให้เราเป็นแบบนี้เรามาปรับตัวเองเพื่อเขา 100% จนสูญเสียความเป็นตัวเอง ในอดีตเราเรียนรู้ว่าเราเผลอทำร้ายตัวเอง เราเปลี่ยนตัวเองจนเราลืมไปว่าเราต้องรักตัวเองก่อน พอเรารักตัวเองเป็นเราจะรักคนอื่นเป็น แล้วเราจะดูแลตัวเองได้ถูกต้อง เขาด้วย พอเราเริ่มรู้ว่าเราชอบอะไร เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยากได้อะไรเลยนอกจากความรักที่บริสุทธิ์ นอกนั้นเราดูแลตัวเองมาตลอดอยู่แล้ว เราแค่ต้องการใครซักคนที่แม้ว่ามินทำธุรกิจแล้วมินอยากคุยมินแค่อยากมีเพื่อนคุยแล้วเขาซัพพอร์ตเรา ไม่ได้ต้องการให้ทำอะไรให้ด้วยนะ เราคุยกับเขาแล้วมีความสุข แล้วที่ผ่านมาเขาทำอย่างนั้นอยู่แล้วแต่อยู่ในอีกบริบทนึง
เขาเติมเต็มมั้ย ?
มิน : ก็เต็มนะ(ยิ้ม)
ตลอดทั้งชีวิตเรารู้อยู่แล้วว่าผู้ชายแบบนี้ สไตล์แบบบนี้ที่ต้องการในชีวิต ?
มิน : นี่คือคำถามก่อนหน้านี้มินไม่รู้ก่อนหน้านี้มินไม่รู้ว่าต้องการอะไร เราแค่ชิลไปเรื่อย เพราะมินเป็นคนชอบทำงาน เคยรับละครปีนึง 5 เรื่อง ไม่มีวันหยุดเลยตลอดทั้งปีก็ทำมาหมดแล้ว จนวันนึงเราไม่ได้ใส่ใจเรื่องความรัก เราก็มีแต่เราไม่รู้ว่ามันคืออะไรไม่ได้นั่งตกผลึกกับมันจริงๆ สรุปแล้วเรามีควารักเพื่ออะไร พอเราเริ่มมีสมดุลในชีวิตมากขึ้นก็เริ่มเห็นความสำคัญของการเลือกคู่ไม่ใช่การเดทไปเรื่อยๆ การเป็นผู้หญิงไม่ได้ชอบเปลี่ยนไปเรื่อยๆอยู่แล้ว คบกับใครก็อยากที่จะมั่นคงกับคนคนนั้น แล้วจริงๆ ในอดีตก็คบยาวทุกคนเลยนะ ก็จริงจัง ตั้งใจทุกครั้ง แต่เราไม่รู้ว่าเราชอบอะไรกันแน่
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นสายซัพพอร์ตมินอย่างเดียว มินก็ซัพพอร์ตเขาด้วย เขาเรียกว่าสายเปย์ ?
มิน : อย่าใช้คำว่าเปย์ฟังดูน่ากลัวมากเลย เรียกว่าสายซัพพอร์ตทุกเรื่อง ทุกครั้งที่อยู่ในความสัมพันธ์เราอินกับความรักครั้งนี้มินก็จะซัพพอร์ตในทุกเรื่องอยู่แล้วแล้วใช่แค่กับคนรักกับผู้จัดการ เลขา เราก็ดูแลเราดูแลกันเป็นครอบครัวตลอด ถ้าเรามีคนที่เรารักเราก็อยากให้เราอยากเป็นฟีลผู้ให้ เวลาเราคบใครเขาก็มีฐานะของเขาอยู่แล้ว แต่มินไม่ได้เป็นผู้หญิงที่อยากได้โน่นอยากได้นี่ เราอยากเป็นฟีลที่ว่ารู้สึกว่าเราให้แล้วเราสบายใจ เราไม่ไปเอาอะไรของเขาแต่ถ้าเขาอยากให้จริงๆ วันเกิด โอกาสสำคัญอันนี้รับได้
มิน : 10 ชิ้น เลือกเองทุกอย่าง แล้วก็ให้ตั้งแต่ก่อนวันเกิด ก็จะเป็นพวกกลุ่มหุ้น สิ่งของที่จับต้องได้ก็มี เสื้อผ้า มือถือ นาฬิกา รองเท้า หมวก กระเป๋า
ทำไมถึงไม่เปิดหน้า ?
มิน : ไม่ได้ไม่เปิด เปิดตลอด มีในไอจี ลงรูปกลุ่มก็ลงปกติอยู่ในนั้นแหละ ถ้าลง 2 คนให้เขาปรับตัวนิดนึง ค่อยๆให้ทำความเข้าใจชินกับการถูกพูดถึง
แล้ววันนึงจะเปิดไหม ?
มิน : ถ้าวันนึงเจอรูปสวยก็จะลงนะ ที่สำคัญคือรูปมินต้องสวย
ได้ข่าวคุณแม่ก็ปลื้มคนนี้มากด้วย ?
มิน : คือเป็นเพื่อนกันมานานจนคุณแม่ก็รู้จัก คุณแม่รู้จักเพื่อนมินทุกคน แล้วก็รักเพื่อนมินทุกคน
ตอนที่เปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนบอกแม่ยังไง ?
มิน : แม่รู้จักอยู่แล้ว จริงๆแม่เชียร์อยู่แล้ว มันจะมีช่วงที่มินอกหักแล้วก็ซึมอยู่บ้านร้องไห้ก็ไปนอนอยู่กับแม่ แม่ก็เห็นเราเศร้า แม่ก็ถามว่าเพื่อนอยู่ไหนบ้าง อีกคนก็อยู่ต่างประเทศอีกคนก็ทำงานหนัก แล้วเพื่อนคนนี้อยู่ไหน เหมือนเขี่ยบอล แต่ตอนนั้นเราเศร้าอยู่
ปีกว่าแล้วคนนี้ใช่ไหม ?
มิน : ก็ใช่นะ (ยิ้ม)
ใช่นี่หมายถึงฝากชีวิตและอนาคตไว้ได้ไหม ?
มิน : ก็ได้นะ (ยิ้ม)
https://www.facebook.com/teeneedotcom