เปิดความลับดารารุ่นใหญ่ ทำไมยุคก่อนห้ามให้แฟนคลับรู้ว่ามีแฟน?

มี๊ พิศมัย : แต่เขาไม่ได้เป็นเลยค่ะ ก็คุณมิตร เพชรา เขาก็ไปอีกเรื่องกว่าจะรู้ว่าเขาเป็นแฟนคุณชรินทร์น่ะ .. เกือบจะเลิกจากวงการแล้ว แล้วก็คุณสมบัติมีบุตรเนี่ยนะ จะไปเยี่ยมลูกทีเป็นไอ้โม่ง ติดหนวด ใส่วิก

มี๊ พิศมัย : ไม่ได้เลยค่ะ ถ้าคนรู้ว่ามีแฟนคือ ตกเลยค่ะ เขาจะไม่ยอมรับเลยเพราะว่าเขาหวงมั้งของของฉันไปมีใครไม่ได้ ของของฉัน ไม่เหมือนยุคนี้นะ เขาแยกอันนี้งานอันนี้เรื่องส่วนตัว เขาแยก เขาเข้าใจ คนเราจะมาอยู่ได้อย่างไรคนเดียวในโลก

มี๊ พิศมัย : คนก็ไม่เอาเล่นละครค่ะ บางคนจะจ้างก็แหม...มีแฟนแล้วก็หนังสือพิมพ์ลงข่าว ผู้จัด ผู้สร้างเขาก็ไม่เอา เขาก็ไม่กล้าจ้าง

มี๊ พิศมัย : ค่ะ ทำไปเท่าไหร่ 2 ล้านบาท แพงมากเลยค่ะ ตอนนั้นตั๋วหนังใบละ 5 บาท 7 บาท สูงสุด 12.50 สตางค์ หนึ่งรอบได้ประมาณ 10,000 กว่าบาท เต็มที่เสริมแล้วก็ประมาณ 15,000 ถึง 16,000 บาท กว่าจะได้ 2,000,000 ก็เหนื่อยอยู่ แต่เดี๋ยวนี้ 200 ล้านบาทนะคะ แต่ลงทุนร้อยล้าน (ยิ้ม)

มี๊ พิศมัย : ก็สมมติจะได้กันนะคะ จูบกันปุ๊บกล้องก็แพลนไปรับตะเกียงดับมั่งล่ะ ปิดไฟบ้าง พอจะจบกันหรืออะไรกันก็ไปแล้วกล้องผ่านไป พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกตรงนี้ค่ะ 

มี๊ พิศมัย : ไม่มีเลยค่ะ คู่ไปเรื่อย ?? ก็ไม่ได้จับคู่ใคร คุณไชยามั่ง เล่นภาพยนตร์ธนูทองด้วยกันแล้วก็เล่นลูกทาสด้วยกัน ก็ไม่มีคู่จิ้น แล้วเขาก็ไปเพชรา ไปเรื่อยๆค่ะ คุณมิตรเขาก็มาเจอกับเราภาพยนตร์พิมพิลาไลค่ะ แล้วเขาก็ไปกับ เพชรา ไม่ได้เป็นแฟนกันเป็นเพื่อนกันมากกว่าคือพูดง่ายๆเราไม่มีเวลา ก็คิดนะ ทำงานถึงเช้าเสร็จไปต่ออีกเรื่องสว่างตีสี่ ก็ตัวละครมันมีอยู่แค่นี้ 3 คู่

มี๊ พิศมัย : ก็อยากเป็นตรงนี้ค่ะ เพราะรักชีวิตการแสดงอยู่ตรงนี้มากๆเลย เพราะว่าเกิดมาก็อยู่โรงเรียนนาฏศิลป์ ร้องรำ ทำเพลงมาตลอดเลยจนออกมาก็หนีไม่พ้นนะคะ จนมาอยู่วงการหนัง แล้วก็มาอยู่วงการละครแล้วก็ต่อไปก็จะมีอีกที่หนึ่ง พี่ฉอด นี่แหละ (ยิ้ม)อยากจะให้ตบก็ตบได้นะ