ดาราหนุ่มป่วยซึมเศร้าดิ่งหนัก เผยนาทีจะโดดสะพานโชคดีมีคนหยุดทัน
แล้วที่สุดแล้วทั้งสองคนได้ไปพบจิตแพทย์ไหม ??
ฮั่น : ไม่ได้ไปครับ
แล้ว จียอน เองก็เริ่มรู้สึกเหมือนกันว่า หรือฉันก็มีภาวะนี้แล้วเหมือน
จียอน : เราไม่ได้ขนาดถึงของ พี่ฮั่น แต่ว่าเรารู้สึกว่าเบิร์นเอาต์ เหมือนไปทำงานแต่ก็ เหมือนแบบไม่ได้มีความตื่นเต้น แล้วนั่งถ่ายรายการอยู่ดีๆก็คือแบบ เหมือนไม่ได้อยู่กับรายการเลย คิดคนเดียวหรือแบบว่างเปล่ามาก ฉันทำอะไรอยู่ตรงนี้ไม่อยากทำอะไรเลย อันนี้คือเกิดขึ้นหลังจากพี่ฮั่น จนเขาก็ไปหามาในเว็บไซต์ แล้วเขาก็เริ่มถามเหมือนหมอว่าเป็นอย่างนี้ไหม เหมือนทำแบบสอบถาม แล้วเขาก็บอกว่าที่รักกำลังจะเจอสภาพเบิร์นเอาต์อะไรอย่างนี้ แบบเหมือนสิ่งที่เขาพูดๆก็คือ แทงใจเราเหลือเกินเราก็ร้องไห้กับเขาใช่เลยๆ
เราไม่ได้ไปหาจิตแพทย์เรารักษาวิธีไหน ??
ฮั่น : หลังจากวันนั้นคือผมเป็นคนชอบแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แล้วผมก็ไม่ค่อยคุยกับใคร ตัดสินใจว่าต้องแก้มันด้วยตัวเอง เพราะว่าเราสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง มันอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องสำหรับทุกคนนะครับ คือผมแค่อยากรู้ ผมก็เลยลงลึกไปกลับมัน ผมก็เข้าห้องทำงานของผมครับ แล้วก็ปิดห้องนั้นอยู่ในห้องนั้นประมาณหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่เขาไม่ได้อยู่กับผม แล้วผมเหมือนใช้เวลาอยู่กับเรื่องอย่างนี้ จนผมว่าเขาเริ่มรู้สึกอยู่คนเดียว แล้วเขาค่อยมามีภาวะเบิร์นเอาต์หลังจากผม แล้วก็เคลียร์ตัวเองได้ดีขึ้น ผมบอกเขาบอกว่าเราขอโทษนะอะไรอย่างนี้ ที่รักเขาขอโทษนะ
แล้วตอนนั้นคือสองคนจับมือกันแล้ว แก้ปัญหากันอย่างไร
ฮั่น : คุยกันครับผมไม่เคยเปิดมุมที่อ่อนแอให้ใครเห็น ผมก็คิดว่าสิ่งนี้กำลังท้าทายตัวเองอยู่ รวมถึงวันนี้ที่พูดเพราะว่าผมก็บอกเลยว่า เขายังถามผมอยู่เลยว่าโอเคใช่ไหมที่จะพูด ผมบอกว่าไม่เป็นไรเพราะผมรู้สึกว่า ถ้ามันเป็นการแบ่งปันสิ่งนี้ออกไป แล้วมันเป็นเรื่องดีกับคนอื่นผมว่ามันก็ดี แล้วผมต้องผ่านมันไปให้ได้ แล้วก็เหมือนคุยกับเขาแล้วก็บอกเขาว่า เรามีปัญหาแบบนี้ด้านนี้เราไม่สมบูรณ์แบบ ด้านนี้เราอ่อนแอนะ แล้วเขาก็เหมือนรับฟังแล้วเขาก็ได้รู้ แล้วผมว่าการที่เขาไม่ได้พูดอะไร การกระทำเขา พี่จี เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดเวลาเราอยู่ด้วยกัน แต่ว่าเขาเป็นคนทำมันทำให้การกระทำของเขา มันสอนผมเองโดยอัตโนมัติจริงๆแล้วเราได้เกิดมา เราควรภูมิใจกับตัวเราเอง ถึงแม้ว่าคนเคยจดจำผมในวันที่แบบ ฮั่นที่แบบว่ามีซิกซ์แพ็ก เต้นนี่นั่นอะไรอย่างนี้ ผมไปติดอยู่กับอดีตเยอะ จนลืมมองว่าสิ่งที่มีคุณค่าในปัจจุบัน มันคือวันนี้ผมมีเขา วันนี้ผมยังได้มานั่งตรงนี้ได้ทำงานกับพี่ฉอดพี่อ้อยพี่อ๋อง กับพี่ๆทีมงานทุกคนผมว่าเรื่องพวกนี้คือ เราต้องเห็นคุณค่าของมันด้วยโลกที่มันหมุนเร็วมาก แล้วเราหมุนเร็วตามโลกเราจะเสียความเป็นตัวตนของเราไป
https://www.facebook.com/teeneedotcom